รตท.ดับชายคลั่ง ญาติคนตายโวย


เพิ่มเพื่อน    


    รอง สว.เข้าระงับเหตุหนุ่มทาสยาบ้าอาละวาดจะพังบ้านพี่สาวเพราะไม่ได้เงินไปซื้อยา เกิดปลุกปล้ำถูกฟันที่หัว 2 แผล ข้อมืออีก 2 แผล ชักปืนยิงสวนเจาะอกเป็นศพ ด้านญาติผู้ตายโชว์คลิปยันตำรวจทำเกินกว่าเหตุ ร้องหาผู้รับผิดชอบ
    เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคมนี้ พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน ผบก.ภ.จ.นครพนม มอบหมายให้ พ.ต.อ.พลาเดช เพ็ชรหว้าโง๊ะ รอง ผบก.ภ.จ.นครพนม เป็นตัวแทนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำกระเช้าไปมอบให้กับ ร.ต.ท.วิจิตร บางปลา ผู้บาดเจ็บ ที่นอนรักษาตัวอยู่ที่หอผู้ป่วยศัลยกรรมอุบัติเหตุ ตึก 67 ปี (ศัลยกรรมชาย) ชั้น 3 โรงพยาบาลนครพนม หลังเข้าจับกุมนายลำเพย จำปา อายุ 48 ปี ราษฎร ต.บ้านค้อ อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม ที่เกิดคลุ้มคลั่ง จนถูกฟันที่ศีรษะได้รับบาดเจ็บ และเกิดการปลุกปล้ำจนปืนลั่นถูกนายลำเพยเสียชีวิต
    เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ นายลำเพยขี่รถจักรยานยนต์ไปหานางทองคำ พี่สาว ที่อยู่ไม่ไกลกัน ขอเงิน 100 บาท เพื่อไปซื้อยาบ้าเสพ แต่นางทองคำไม่อยู่บ้าน ทำให้นายลำเพยเกิดคลุ้มคลั่งจะพังบ้าน หลานสาวนักเรียนชั้น ม.5 จึงโทรศัพท์บอกนางทองคำ ซึ่งนางทองคำก็โทรแจ้งตำรวจให้ไประงับเหตุ เพราะนายลำเพยเคยพังบ้านมาแล้ว จากนั้น ร.ต.ท.วิจิตร บางปลา รองสารวัตรสืบสวน สภ.โพนสวรรค์ ได้เดินทางไปตรวจสอบ พบนายลำเพยนั่งคร่อมรถจักรยานยนต์อยู่และไม่ยอมให้จับกุม ร.ต.ท.วิจิตรจึงใช้ไม้ง่ามที่นำติดตัวไป ดันรถจักรยานยนต์จนล้มคว่ำ ก่อนที่จะปลุกปล้ำกับนายลำเพย แต่ ร.ต.ท.วิจิตรเสียท่าล้มลง ถูกนายลำเพยฟันด้วยมีพร้าที่ศีรษะ 2 แผลและที่ข้อมือซ้ายอีก 2 แผล ขณะที่ ร.ต.ท.วิจิตรชักปืนออกมายิงที่ฝ่าเท้านายลำเพย 1 นัด หน้าแข้ง 1 นัด และอีก 1 นัดกระสุนเจาะอกเสียชีวิต ส่วน ร.ต.ท.วิจิตรถูกชาวบ้านนำส่ง รพ.นครพนม พบว่ากะโหลกร้าว
    ตำรวจตรวจสอบทราบว่า นายลำเพยเคยถูกจับข้อหาเสพยาบ้าหลายครั้ง ส่งตัวเข้าสถานบำบัดออกมาก็เสพอีก ถ้าไม่ได้เสพยาจะเกิดอาการคลุ้มคลั่ง จะไปขอเงินจากญาติพี่น้องครั้งละร้อยสองร้อยเพื่อซื้อยามาเสพ เมื่อไม่ได้จะเข้าทำลายข้าวของ จนเป็นที่เอือมระอาแก่ญาติๆ
    ด้านนางทองคำ เคนโสม อายุ 56 ปี พี่สาวของนายลำเพย พร้อมด้วยหลานสาว คือ นางสาวโยธกา จันทองหลาง อายุ 30 ปี และนางสาวเอ (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี ซึ่งเป็นผู้ที่บันทึกคลิปเหตุการณ์ ได้ออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมผ่านสื่อไปยังหน่วยงานเกี่ยวข้อง พร้อมนำคลิปหลักฐานที่บันทึกช่วงเกิดเหตุออกมาโพสต์ เนื่องจากติดใจการทำงานของตำรวจ ระบุว่ากระทำเกินกว่าเหตุ เพราะผู้ตายหมดทางสู้ แต่ถูกตำรวจจ่อยิงซ้ำจนเสียชีวิต จึงขอให้ตำรวจแสดงความรับผิดชอบ
        นางทองคำเปิดเผยว่า นายลำเพยน้องชาย มีอาชีพทำนา รับจ้าง แต่ชอบดื่มสุรา และเคยมีประวัติเสพยาเสพติด แต่พักหลังจะหันมาดื่มสุรา มีอาการคลุ้มคลั่งบ้างหากขอเงินไม่ได้ เพราะผู้ตายหย่ากับเมีย มีลูกชาย 1 คน อายุ 15 ปี ตนเป็นคนดูแลหลานตามสภาพ ซึ่งผู้ตายจะไม่เคยทำร้ายใคร เพียงแต่โวยวาย ได้เงินแล้วก็ไป ช่วงเกิดเหตุตนเป็นคนโทรบอกตำรวจ เพราะเคยมาระงับเหตุเมื่อหลายเดือนก่อน ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องร้ายถึงขั้นน้องชายเสียชีวิต โดยน้องชายใช้อาวุธมีดฟันตำรวจ เพราะมีการทำร้ายร่างกายกันก่อน จากนั้นตำรวจยิงเข้าที่หน้าแข้งซ้ายจนหมดแรงทรุดลง แต่ตำรวจยังยิงซ้ำอีก ตนถือว่ารุนแรงเกินไป เรื่องนี้อยากให้หน่วยงานเกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือให้ความเป็นธรรม
        ส่วนนายพฤษภา จันทองหลาง อายุ 27 ปี หลานชายที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า ช่วงเกิดเหตุผู้ตายซึ่งมีศักดิ์เป็นน้าของตน เข้ามาโวยวายในบ้านตามที่เคยเป็น เพราะขอเงินจากแม่ของตนไม่ได้ จากนั้นได้จับอาวุธมีดออกมาเดินวนไปมาตามบ้าน ทางแม่ของตนจึงแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ พอถึงที่เกิดเหตุ ผู้ตายกำลังจะขี่รถจักรยานยนต์หนีไป แต่ตำรวจคนที่ยิงมาคนเดียว กระโดดถีบรถจักรยานยนต์ผู้ตายเสียหลักล้มลง ทำให้ผู้ตายไม่พอใจ และมีการพยายามทำร้ายร่างกายชกต่อยกันบนถนนคอนกรีตหน้าบ้าน จากนั้นผู้ตายได้ใช้อาวุธมีดฟันตำรวจจนล้มลงได้รับบาดเจ็บ พอตำรวจตั้งตัวได้ จึงยิงไปที่ขาจนผู้ตายทรุดลงกับพื้น ตนพยายามเข้าไปห้ามตำรวจ และขอร้องให้หยุดยิง เพราะเห็นว่าผู้ตายหมดแรง จึงเข้าไปชิงมีดออกมาโยนทิ้ง สุดท้ายไม่คาดคิดว่าตำรวจจะมาจับมีดเดินเข้าไป และเตะไปที่ใบหน้าผู้ตาย 1 ครั้ง ผู้ตายพยายามโผเข้ากอดตำรวจ จนกระทั่งตำรวจชักปืนจ่อยิงเข้าลำตัวอีก 2 นัด เป็นเหตุให้เสียชีวิตคาที่
    พ.ต.อ.พลาเดช เพ็ชรหว้าโง๊ะ รอง ผบก.ภ.จ.นครพนม กล่าวว่า ประเด็นที่ญาติผู้ตายติดใจ จะต้องรอขั้นตอนของตำรวจและรอทางญาติมาแจ้งความ ทางตำรวจยืนยันให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งหลังเกิดเหตุทางตำรวจได้ประสานเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ทั้งกองพิสูจน์หลักฐาน อัยการจังหวัด แพทย์เวรชันสูตร รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมตรวจสอบ ในรูปแบบคดีวิสามัญ ส่วนขั้นตอนการดำเนินการ จะต้องรอการสอบสวน รวมถึงการดำเนินคดี ทั้งการแจ้งความเอาผิดทั้งผู้ตาย ผู้ก่อเหตุ ไปจนถึงการตั้งคณะกรรมการสอบสวน. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"