26 ก.ค.63-คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการลงพื้นที่รับฟังปัญหาภาคการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต หลังการระบาดของไวรัสโควิด-19 ว่า จากการที่รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวซึ่งมีจุดมุ่งหมายที่ดี แต่ปฏิบัติไม่ได้จริง ไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ เช่น โครงการ ‘เราเที่ยวด้วยกัน’ โรงแรมขนาดเล็กเข้าไม่ถึง เพราะหลายโรงแรมอยู่ระหว่างการรอจดทะเบียนถูกกฎหมายก็จะไม่ได้รับสิทธิ์ในโปรโมชั่นหรือส่วนลดต่างๆ นี้ นอกจากนี้โรงแรมในพื้นที่ขนาดใหญ่ก็จะวงเงินเกิน ขณะเดียวกันโครงการ ‘กำลังใจเพื่อ อสม.’ ใช้งานจริงไม่ได้เลย เพราะเงื่อนไขมากทำให้ปฏิบัติจริงค่อนข้างลำบาก เช่น จำนวนเงินคนละ 2,000 บาทและเที่ยวได้ไม่เกิน 2 วัน 1 คืน และต้องข้ามจังหวัดเท่านั้น รวมไปถึงอาชีพบริการอื่นๆ ที่ไม่ใช่โรงแรมก็ยังสมัครเข้าร่วมโครงการไม่ได้ จากการมารับฟังเสียงของผู้ประกอบการเกือบ 100%ไม่สามารถเข้าร่วมโครงการได้ คุณหญิงสุดารัตน์มองว่าสาเหตุของปัญหามี 2 ประการ คือ หลักคิด และการปฏิบัติแบบรัฐราชการ ที่ไม่ได้มองข้อเท็จจริง และมีมุมมองความคิดที่แคบ คิดแบบราชการคือรัฐเป็นเข้าภาพออกงบประมาณให้แล้ว ถ้าทำไม่ได้ก็ปัดออกไป
อย่างไรก็ตาม เมื่อรัฐบาลทุ่มเททรัพย์สินทุกอย่างไปกับการควบคุมโรคจนเป็นที่ยอมรับระดับโลก ดังนั้นต้องเอาความโดดเด่นด้านสาธารณสุขมาต่อยอดสร้างโอกาสให้กับประเทศไทย รัฐบาลต้องประกาศว่าเป็นประเทศปลอดโควิด หรือถ้ามาแล้วติดเชื้อก็มีเครื่องมือที่พร้อมดูแลพร้อมเงินประกันอีกหนึ่งล้านบาท เพื่อสร้างความมั่นใจ โดยคุณหญิงสุดารัตน์ เสนอแผนการท่องเที่ยวไทยอย่างปลอดภัย 4 ระยะ โดยแต่ระยะจะมีการเตรียมตัวเองและโครงสร้างพื้นฐานให้พร้อม ได้แก่ 1. ‘ไทยเที่ยวไทย’ ออกคูปองส่วนลดคนมาเที่ยวภูเก็ต ทั้ง เครื่องบิน โรงแรม และค่าใช้จ่ายให้คนไทยเที่ยวในประเทศ 2. ’Staycation’ ให้คนต่างชาติเดินทางเข้ามาพักผ่อนที่ภูเก็ต 14 วันในโรงแรมที่มีกิจกรรมสันทนาการให้พวกเขา และพนักงานก็ต้องทำงานอยู่ภายในโรงแรม มีระบบการป้องกันที่ดี ตรงนี้เป็นเหมือนการกักตัว แต่ปรับวิธีคิดวิธีบริการใหม่ ให้เหมือนกันท่องเที่ยว วันนี้ท่องเที่ยวต้องมากับความเชื่อมั่น เรามีของที่ดีอยู่แล้ว ไม่ต้องสร้างอะไรใหม่ แต่ต้องสร้างความมั่นใจ
3. ‘เทศเที่ยวไทยปลอดภัย’ เปิดเมืองภูเก็ตให้เป็นที่เที่ยวของนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยมีตรวจโรคและคัดกรองก่อนเข้าจังหวัดอย่างเข้มข้น ปิดทุกจุดเข้าออกจังหวัดเพื่อให้ท่องเที่ยวในจังหวัดเท่านั้น และให้ง่ายต่อการควบคุมพื้นที่หากมีการระบาดโดยจำกัดปริมาณคนที่จะเข้ามาให้ยังสามารถควบคุมโรคได้ 4.ทำหลุมหลบภัยจากคนที่กลัวโควิดทั่วโลก และมาทำงาน Work From Home ที่ภูเก็ต โดยจ่ายเงินค่าอยู่อาศัยเป็นแพ็คเก็จที่ภูเก็ตว่าอยู่นานแค่ไหน ทั้งหมดนี้เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อให้ทันก่อนหลายประเทศจะเริ่มเปิดให้มีการท่องเที่ยวหลังโควิด
"วันนี้รัฐต้องสร้างความมั่นใจ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ต้องยกเลิกอะไรที่ไม่สร้างความมั่นใจต้องเอาออกและต้องกล้าประกาศว่าประเทศไทยปลอดโรคและที่สำคัญคือต้องห้ามเอาเชื้อเข้ามาในประเทศเพิ่ม ทุกวันนี้ไม่ใช่แค่ VIP ที่เป็นทูตหรือทหาร แต่แรงงานยังหลุดเข้ามาตามชายแดนทุกๆ วันถ้าตราบใดที่ชายแดนอย่างรั่วขนาดนี้เราจะเปิดประเทศไม่ได้ นี่คือสิ่งที่รัฐต้องเปลี่ยน"
คุณหญิงสุดารัตน์ ยังได้ชวนคนไทยติดแฮชแท็ก #รีวิวกันหน่อย เวลาไปกินหรือเที่ยวที่ไหน เพื่อที่จะให้คนบนโลกออนไลน์ได้รู้และไปเที่ยวตาม เพื่อเป็นการช่วยเหลือคนตัวเล็ก พ่อค้าแม่ค้า และผู้ประกอบการ ไปรีวิวของทุกคนจะช่วยผู้คนได้อีกมากมาย หนึ่งรีวิวของจะช่วยแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจวิกฤติ
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |