คลังลุยรับฟังความคิดเห็นร่างกฎหมายคุมปล่อยกู้พิโกไฟแนนซ์-สินเชื่อทะเบียนรถ-เช่าซื้อ จ่อตั้งสำนักงานดูแลโดยตรง กำหนดค่าธรรมเนียม และดอกเบี้ย ไม่ให้เอาเปรียบประชาชน

รายงานข่าวจากสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ระบุว่า ขณะนี้สศค.ได้จัดทำร่างพ.ร.บ.การกำกับดูแลผู้ให้บริการทางการเงินพ.ศ.....เสร็จแล้ว และกำลังเปิดรับฟังความเห็นอยู่จนถึงวันที่ 30 เม.ย.นี้ โดยกฎหมายฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อกำกับดูแลผู้ให้บริการทางการเงิน กลุ่มสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัด (สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์) สินเชื่อรับสมุดคู่มือจดทะเบียนรถเป็นประกันการชำระหนี้ (สินเชื่อทะเบียนรถ)  การให้เช่าซื้อ การให้เช่าแบบลีสซิ่งและแฟคตอริ่ง 

“เนื่องจากบริการทางการเงินนี้ ไม่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลจากภาครัฐ ดังนั้นเพื่อประโยชน์ในการกำกับดูแลมาตรฐานและคุ้มครองผู้บริโภคจึงเห็นควรให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการกำกับดูแลผู้ให้บริการทางการเงินและมีสำนักงานคณะกรรมการกำกับดูแลผู้ให้บริการทางการเงินขึ้นมา”  รายงานข่าว ระบุ
สำหรับสาระสำคัญของร่างพ.ร.บ. ดังกล่าว ประกอบด้วย การกำหนดนิยามของผู้ให้บริการทางการเงินที่จะได้รับการกำกับภายใต้ร่างพ.ร.บ.ฯร่าง ฉบับนี้  รวมถึงการตั้งคณะกรรมการกำกับดูแลผู้ให้บริการทางการเงิน ซึ่งให้ปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธานกรรมการ พร้อมด้วยกรรมการอีก 6 คน อาทิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.)

โดยคณะกรรมการดังกล่าวมีหน้าที่ออกระเบียบ กำหนดหลักเกณฑ์เงื่อนไขและแนวปฏิบัติในการประกอบธุรกิจ การขอรับใบอนุญาต การขึ้นทะเบียนของผู้ให้บริการ รวมถึงกำหนดค่าธรรมเนียมสำหรับการขออนุญาตการขึ้นทะเบียนและค่าธรรมเนียมอื่น ส่วนการแต่งตั้งและคุณสมบัติของเลขาธิการฯ ให้ รมว.คลัง แต่งตั้งคณะกรรมการคัดเลือก พร้อมกับให้จัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการกำกับดูแลผู้ให้บริการทางการเงินเป็นหน่วยงานของรัฐและไม่เป็นรัฐวิสาหกิจ

ส่วนการกำกับดูแลผู้ให้บริการทางการเงิน กำหนดผู้ให้ธุรกิจพิโกไฟแนนซ์ ผู้ประกอบการสินเชื่อทะเบียนรถ จะต้องเป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัดหรือนิติบุคคลอื่นตามที่คณะกรรมการประกาศ และได้รับอนุญาตจากรมว.คลัง  ส่วนผู้ให้บริการธุรกิจเช่าซื้อแบบลีสซิ่งและแฟคตอริ่งต้องขึ้นทะเบียนกับสำนักงานฯ  

ทั้งนี้ผู้ให้บริการทางการเงินทั้ง 2 ประเภท ต้องทำธุรกิจตามเงื่อนไขที่คณะกรรมการฯกำหนด อาทิ มาตรฐานการให้บริการแก่ลูกค้าอย่างเป็นธรรม การเปิดเผยข้อมูลของผู้ใช้บริการทางการเงิน รวมถึงให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจตรวจสอบกิจการสินทรัพย์และหนี้สินของผู้ให้บริการทางการเงินตลอดจนลูกหนี้และผู้ที่เกี่ยวข้องกับผู้ให้บริการทางการเงินหากผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตาม  มีบทลงโทษทางอาญา  

ทั้งนี้ ยังกำหนดบทเฉพาะกาลให้ผู้ให้บริการทางการเงินที่ต้องขออนุญาตหรือขึ้นทะเบียนยื่นคำขออนุญาตหรือขึ้นทะเบียนแล้วแต่กรณีต่อสำนักงานฯภายใน 120 วันนับแต่วันที่พ.ร.บ.มีผลบังคับใช้และในวาระเริ่มแรกให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่งปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ไปพลางก่อน
ทั้งนี้กระทรวงการคลัง ได้ประเมินว่าเมื่อกฎหมายนี้บังคับใช้แล้ว จะสร้างกลไกการอนุญาตและการขึ้นทะเบียนผู้ให้บริการทางการเงินทำให้ภาครัฐเข้าถึงข้อมูลสถิติของผู้ให้บริการทางการเงินขนาดเล็กขนาดกลางและขนาดใหญ่ในท้องที่ต่างๆทั่วประเทศโดยทำให้ภาครัฐทราบปริมาณธุรกรรมสินเชื่อสำหรับประชาชนรายย่อยและนำมาใช้ประโยชน์ในการวิเคราะห์นโยบายเศรษฐกิจการเงินได้ 

นอกจากนี้ยังช่วยควบคุมการให้บริการทางการเงินหลากหลายประเภทที่ไม่เคยมีผู้กำกับดูแลให้มาอยู่ภายใต้การกำกับอย่างเป็นระบบมีมาตรฐานและไม่เอาเปรียบผู้บริโภคโดยผู้บริโภคจะได้รับความคุ้มครอง  ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สินเชื่ออย่างครบถ้วนมีเงื่อนไขสัญญา และการทำสัญญาที่เป็นธรรมมีอัตราดอกเบี้ยที่ไม่สูงเกินส่วนอันสมควรมีการเปิดโอกาสให้ร้องเรียนเกี่ยวกับการใช้บริการโดยได้รับการตอบสนองเพื่อแก้ไขปัญหาในข้อร้องเรียนอย่างทันท่วงที