“บิ๊กตู่” เผยกลางสิงหา.ปรับ ครม.เสร็จเรียบร้อย ตอนนี้รอ “ปรีดี-ไพรินทร์” อยู่ วอนอย่าไปดักหน้าดักหลัง ต้องให้กำลังใจเขา ฟังแล้วขนลุก! ให้เข้ามาพิสูจน์ฝีมือกันก่อน ถ้าทำไม่ได้ก็ปรับใหม่ ไม่ใช่ว่าจะปรับครั้งเดียวเสียเมื่อไหร่ ยันต้องทำให้เกิดความสมดุล ต้องดูทั้งการบริหารและเรื่องการเมือง ยอมรับวันนี้ปัญหามีเยอะแต่ "ผมสู้ไหว"
เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม ที่วิเทศสโมสร กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ครั้งที่ 3/2563 ถึงความคืบหน้าการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) หลังมีรายชื่อปรากฏในหน้าหนังสือพิมพ์ว่า "ชื่อที่โผล่มาจากหนังสือพิมพ์ สื่อหนังสือพิมพ์เป็นคนปรับ ครม.เหรอ ก็เป็นเรื่องของท่าน จะเสนอใครมาก็เสนอมา"
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้กำลังดำเนินการทางธุรกรรมในการตรวจสอบคุณสมบัติใช่หรือไม่ นายกฯ ตอบว่า ก็กำลังทำอยู่ มันต้องหาคนเป็น มาจากที่ไหนอย่างไร ที่ไปที่มาอย่างไร แล้วถึงจะตรวจสอบคุณสมบัติ ตอนนี้ก็ต้องถามว่าเขารับหรือเปล่า
"ผมต้องทำให้เกิดความสมดุลทั้งสองอย่าง วันนี้ทุกคนก็รู้ว่าผมต้องดูทั้งการบริหารและเรื่องการเมืองด้วย เรื่องพรรคการเมือง วันนี้ปัญหามีเยอะ แต่ผมสู้ไหว"
เมื่อถามว่า ขณะนี้ชื่อของนายไพรินทร์ ชูโชติถาวร และนายปรีดี ดาวฉาย ชัดเจนแล้วใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์เผยว่า เขายังไม่ยืนยันชัดเจน ก็ขอให้ทุกคนให้กำลังใจคนที่จะเข้ามาให้ร่วมมือกับรัฐบาล หากไปดักหน้าดักหลังใครจะกล้าเข้ามา ให้เขาเข้ามาพิสูจน์ฝีมือกันก่อน ใครเขาเข้ามาได้ ใครที่มีฝีมือก็ให้เขาเข้ามาทำงาน 6 เดือนหรือ 1 ปี ได้หรือไม่ ถ้าไม่เดี๋ยวก็ปรับใหม่ก็ได้ ไม่ใช่ว่าจะปรับครั้งเดียวเสียเมื่อไหร่
ถามว่า สรุปแล้วจะปรับในตำแหน่งที่ว่างลงเพียงเท่านั้นใช่หรือไม่ นายกฯ ระบุว่า ก็ต้องปรับตำแหน่งที่ว่าง และตนสามารถดูและปรับได้ ต้องดูในภาพรวม "เอาน่า ผมปรับมาหลายทีแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวว่าได้ต่อสายหานายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) ยอมแลกกระทรวงแรงงานกับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า "ทำไมต้องอยากรู้ด้วย มันเป็นการบริหารของผม บางเรื่องมันก็พูดหรือคุยกันได้"
ซักว่าขณะนี้ประชาชนมอบความหวังไว้ที่นายกฯ ในการปรับครม.ชุดใหม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า เมื่อประชาชนมอบความหวังไว้ที่ตน ก็มอบความหวังทุกคนด้วย หวังว่าเราจะได้ ครม.ที่ดีในวันหน้า ในเรื่องของการทำงานทุกคนต้องกระตือรือร้น ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม วันนี้ไม่ใช่แค่เรื่องการเมืองอย่างเดียวที่ต้องแก้ปัญหา ต้องนึกถึงคนเป็นนายกรัฐมนตรีด้วย ในเรื่องการบริหารราชการก็เช่นกัน ยังมีเรื่องกฎหมาย การปรับกฎระเบียบและเรื่องอื่นๆ อีกจำนวนมาก ถ้าเชื่อมั่นในตัวนายกฯ ก็ขอให้เชื่อมั่นต่อไป จะทำให้ดีที่สุด “แต่ถามว่าจะถูกใจทุกคนหรือไม่ที่นั่งตรงนี้ ก็คงไม่ได้”
ถามว่าหลายคนอยากให้มีความชัดเจน เพราะนักการเมืองจะได้เลิกวิ่งเพื่อตำแหน่ง นายกฯ ย้อนถามว่า “วิ่งกับใคร ถ้าเป็นเรื่องของพรรคก็เป็นเรื่องภายในพรรคเขา เขาก็เสนอมา แต่ในส่วนของรัฐบาลเราก็รับฟัง เพราะเป็นเรื่องของพรรคการเมือง ซึ่งนายกฯ ก็ต้องดูในส่วนนี้ด้วย วันนี้รัฐบาลมาจากการเลือกตั้ง ต้องดูว่ากลไกเขาว่าอย่างไร ดังนั้นถ้าทุกคนคิดว่าเหมาะสม ก็เข้ามาเป็นรัฐมนตรี พิสูจน์ฝีมือกันมา ก็เท่านั้นเอง”
ผู้สื่อข่าวถามว่า โผ ครม.ใหม่จะเรียบร้อยทุกอย่างเมื่อใด นายกฯ ตอบว่า เสร็จกลางเดือนหน้านี่แหละ เร็วกว่านี้คงไม่ได้
เมื่อถามว่า สรุปแล้วนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะได้เก้าอี้รัฐมนตรีหรือไม่ นายกฯ ไม่ตอบคำถามดังกล่าว ขณะที่นางนฤมลซึ่งเดินตามหลัง พล.อ.ประยุทธ์ได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ
ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ตอบผู้สื่อข่าวกรณีการปรับ ครม. ตำแหน่งลงตัว ไม่มีปัญหาใช่หรือไม่ ว่า "ไม่มี" ส่วนกณีนายสุเทพ ยอมแลกกระทรวงแรงงานกับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมนั้น พล.อ.ประวิตรได้ปิดประตูรถไม่ตอบคำถาม จากนั้นได้กดกระจกรถลงเพื่อพูดคุยกับสื่อมวลชนอีกรอบ
นายเขตรัฐ เหล่าธรรมทัศน์ และ น.ส.จุฑาทัต เหล่าธรรมทัศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมพลังประชาชาติไทย เข้ายื่นประวัติของนายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ กรรมการบริหารพรรครวมพลังประชารัฐ เป็นรัฐมนตรีในโควตาของพรรคแทน ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล อดีต รมว.แรงงาน ที่ลาออกไปก่อนหน้านี้ ซึ่งคาดว่าจะเป็นตำแหน่ง รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เนื่องจากนายสุเทพออกมาระบุให้นายกฯ เป็นผู้ตัดสินใจ
โดยนายเขตรัฐเผยว่า มายื่นแบบแสดงประวัติและแบบแสดงคุณสมบัติผู้ได้รับการเสนอชื่อแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรี เพื่อประกอบพระบรมราชวินิจฉัย ส่วนจะเป็นกระทรวงใด ให้อยู่ที่การตัดสินใจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม เพราะพรรครวมพลังประชาชาติไทยเป็นพรรคของคนทำงาน ที่มีความเป็นมืออาชีพ ไม่ใช่นักการเมืองอาชีพ ที่จะทำให้ความปวดหัวของนายกฯ มีมากขึ้น
นายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง ส.ส.นครศรีธรรมราช ในฐานะรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณีที่นายสายัณห์ ยุติธรรม ส.ส.เขต 7 นครศรีธรรมราช พรรค พปชร. แถลงจุดยืนของ ส.ส. 13 คนภาคใต้ว่า เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนบุคคลหรือในนามส่วนตัว ยืนยันว่าเคารพการตัดสินใจและการแสดงความคิดเห็นของ ส.ส.ทุกคน ดังนั้นในการแถลงข่าวบางครั้งอาจจะเป็นเพียงความเห็นส่วนบุคคล มิใช่ความคิดเห็นของ ส.ส.ภาคใต้ทั้ง 13 คน
นายสัณหพจน์ยังกล่าวกรณีนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย โจมตี พล.อ.ประยุทธ์ ว่าการที่นายอนุสรณ์ออกมาพาดพิงถึงพรรคพลังประชารัฐไปในทางเสียหาย โดยเฉพาะกรณีการเสนอรายชื่อรัฐมนตรี ตนเห็นว่านายอนุสรณ์น่าจะสำคัญตัวเองผิดไป เหมือนว่าตัวนายอนุสรณ์นั้นเป็นสมาชิกของพรรคพลังประชารัฐคนหนึ่ง ซึ่งดูจะเป็นการก้าวล่วงการทำงานของพรรคพลังประชารัฐจนเกินไป
ทั้งนี้ ตนยืนยันว่าขณะนี้ผู้บริหารพรรคพลังประชารัฐ ตั้งแต่พล.อ.ประวิตร คณะกรรมการบริหารพรรค ส.ส. และสมาชิกพรรค ในฐานะพรรคแกนนำรัฐบาล กำลังทำหน้าที่ของตัวเอง ในการรับฟังปัญหาจากประชาชนทุกพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อนำมากำหนดทิศทาง นโยบาย และนำเสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์พิจารณา เพื่อให้ช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาของพี่น้องประชาชนทุกคน
ขณะที่นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงโผ ครม.ที่ปรากฏเป็นข่าวล่าสุดว่า ถ้าโผ ครม.ที่ปรากฏเป็นข่าวเป็นโผ ครม.จริง แสดงว่า พล.อ.ประยุทธ์ได้ครึ่งหนึ่งจากการรักษาหน้า นำโควตาคนนอกเข้ามาได้ 2 ตำแหน่ง พรรคพลังประชารัฐได้ครึ่งหนึ่ง จากการลงทุนระเบิดภูเขาเผากระท่อมไล่อดีตหัวหน้า อดีตเลขาธิการพรรค ตามขู่ ตามทุบ ตามทวงเก้ารัฐมนตรี สุดท้ายได้มา 2 ตำแหน่ง ถ้ารายชื่อเป็นจริงตามนั้น ประชาชนไม่ได้อะไร มีแต่เสียกับเสีย ทั้งเสียเวลา เสียโอกาส จากการเกิดภาวะสุญญากาศทางการทำงานแก้ไขปัญหาวิกฤติประเทศ สุดท้ายพายเรือวนในอ่างใบเดิม
“ข้าราชการเกียร์ว่าง นักลงทุนภาคธุรกิจ ภาคประชาชน รอดูรายชื่อรัฐมนตรีใหม่ ถ้าเป็นไปตามโผ 6 ปีที่ผ่านมาและหลังจากปรับ ครม. จะมีแต่ทรงกับทรุด เตรียมตัวนับถอยหลังอายุรัฐบาล เพราะประชาชนจะไม่ทนอีกต่อไป” นายอนุสรณ์กล่าว
มีรายงานความคืบหน้าในการปรับ ครม. เริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น เพื่อให้การแก้วิกฤติเศรษฐกิจเป็นไปอย่างต่อเนื่อง และลดแรงกระเพื่อมทางการเมือง ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ระบุว่านายปรีดี ดาวฉาย นายกสมาคมธนาคารไทย และนายไพรินทร์ ชูโชติถาวร อดีต รมช.คมนาคม ยังไม่ยืนยันชัดเจนนั้น คนที่นายกฯ ระบุ มีความเป็นไปได้สูงว่าหมายถึงนายไพรินทร์เพียงคนเดียว ที่มีเหตุผลส่วนตัวบางอย่างทำให้ยังไม่ตอบรับมาช่วยงานในตำแหน่งรัฐมนตรี และล่าสุดมีรายงานว่านายไพรินทร์ได้ขอถอนตัวจากการเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีแล้ว ดังนั้นโผ ครม.ที่จะมีการปรับครั้งนี้ จะเกิดขึ้นในเฉพาะตำแหน่งที่ว่างลงเท่านั้น โดยนายปรีดีจะควบตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง
ขณะเดียวกัน มีชื่อนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ จะมาดำรงตำแหน่ง รมว.พลังงาน, นายอนุชา นาคาศัย ส.ส.ชัยนาท และเลขาธิการพรรค พปชร. ดำรงตำแหน่ง รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายสุชาติ ชมกลิ่น ส.ส.ชลบุรี และรองหัวหน้าพรรค พปชร. ดำรงตำแหน่ง รมว.แรงงาน ส่วนตำแหน่ง รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) นั้น จะเป็นของนายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ กรรมการบริหารพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) ทำให้ตำแหน่งรัฐมนตรีที่ว่างลงจะมีคนมารับหน้าที่แทนครบถ้วนแล้ว
ส่วนนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะไม่มีตำแหน่งในการปรับ ครม. เนื่องจากมีรายงานว่านางนฤมลยังไม่ได้ให้กรอกแบบประวัติและคุณสมบัติ ต่างจากคนที่มีชื่อเป็นว่าที่รัฐมนตรีคนอื่นๆ.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |