'ทรัมป์'ยอมรับโควิดในสหรัฐยังเลวร้ายลงได้อีก


เพิ่มเพื่อน    

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เปลี่ยนท่าทีหลังโพลทุกสำนักชี้เรตติ้งดิ่งส่อแพ้เลือกตั้ง จัดแถลงข่าวโควิด-19 ครั้งแรกรอบ 3 เดือน ยอมรับสถานการณ์ในหลายรัฐจะเลวร้ายลงอีก ขณะยอดติดเชื้อรายวันเกิน 60,000 รายมา 8 วันติด ส่วนออสเตรเลียติดเชื้อรายวันเป็นสถิติใหม่ กรุงโตเกียวของญี่ปุ่นขอประชาชนอยู่บ้าน

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ถือหน้ากากอนามัยประกอบการแถลงข่าวที่ทำเนียบขาวเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2563

    ข้อมูลอย่างเป็นทางการจากฐานข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์เมื่อวันพุธที่ 22 กรกฎาคม ชี้ว่า จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาทั่วโลกใกล้หลัก 15 ล้านรายแล้ว และเสียชีวิตเกิน 616,000 ราย เกือบ 1 ใน 4 ของผู้เสียชีวิตอยู่ในสหรัฐ ซึ่งเป็นประเทศที่สถานการณ์รุนแรงที่สุดหลังจากผู้นำประเทศดูเบาความรุนแรงของวิกฤตินี้

    เอเอฟพีรายงานว่า วันอังคารที่ผ่านมา ประธานาธิบดีทรัมป์จัดแถลงข่าวอย่างเป็นทางการเรื่องโรคระบาดนี้เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 3 เดือน โดยเขามีท่าทีที่จริงจังมากขึ้นและยอมรับว่าสถานการณ์ในบางพื้นที่จะเลวร้ายลงกว่านี้ "บางพื้นที่ในประเทศเรากำลังเป็นไปด้วยดีอย่างมาก พื้นที่อื่นๆ ดีไม่เท่า และโชคไม่ดีที่บางทีมันจะเลวร้ายลงก่อนที่มันจะดีขึ้น" ทรัมป์กล่าว

    ทรัมป์ยกเลิกการแถลงข่าวสรุปสถานการณ์ไวรัสเมื่อปลายเดือนเมษายน หลังจากเขาถูกล้อเลียนที่แนะให้ฉีดยาฆ่าเชื้อใส่ร่างกายผู้ป่วยโควิด-19 การกลับมาแถลงข่าวไวรัสอีกในครั้งนี้เป็นความพยายามควบคุมการสื่อสารก่อนหน้าจะถึงการเลือกตั้งในอีก 100 วันเศษ โดยผลสำรวจชี้ว่าชาวอเมริกัน 2 ใน 3 ไม่เชื่อมั่นความเป็นผู้นำของทรัมป์ในการรับมือโควิด-19 และโพลทุกสำนักระบุว่า เขามีคะแนนตามหลังอดีตรองประธานาธิบดีโจ ไบเดน คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต

    สหรัฐมีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 142,000 คน และติดเชื้อ 3.9 ล้านคน โดยรัฐในฝั่งตะวันตกเฉียงใต้และภาคใต้ยังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ในวันอังคารที่ผ่านมา มีผู้ป่วยโควิด-19 ในสหรัฐเสียชีวิต 961 คน สูงที่สุดในรอบหลายสัปดาห์ และมีผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 68,524 คน เป็นยอดติดเชื้อรายวันเกิน 60,000 คนเป็นวันที่ 8 ติดต่อกัน

    หลายประเทศที่ผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ที่ทำลายเศรษฐกิจ กำลังเผชิญการระบาดระลอกที่สอง  เมื่อวันพุธ ออสเตรเลียมีผู้ติดเชื้อรายใหม่มากเป็นสถิติสูงสุดในรอบเกือบ 4 เดือน ที่ 502 ราย ส่วนใหญ่พบในรัฐวิกตอเรียในภาคตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ ที่ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังพยายามดิ้นรนควบคุมการระบาดในกรุงเมลเบิร์น ซึ่งอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์มาเกือบ 2 สัปดาห์แล้ว และวันพฤหัสบดีนี้มาตรการบังคับให้ประชาชนทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในที่สาธารณะจะเริ่มมีผลบังคับใช้

    กรุงโตเกียวของญี่ปุ่นก็กำลังเผชิญคลื่นระบาดลูกที่สองอยู่ในขณะนี้ สัปดาห์ที่ผ่านมามีผู้ติดเชื้อรายใหม่วันละหลายร้อยราย โดยพบการติดเชื้อแบบกลุ่มจากร้านอาหารและโรงภาพยนตร์ ยูริโกะ โคอิเกะ ผู้ว่าราชการกรุงโตเกียว กล่าวเมื่อวันพุธว่า ขณะนี้ไวรัสไม่ได้แพร่เชื้้อในกลุ่มคนหนุ่มสาวเท่านั้น แต่ยังรวมถึงกลุ่มวัยกลางคนและผู้สูงอายุด้วย และขอให้ประชาชนงดออกนอกบ้านในช่วงเทศกาลวันหยุดยาว 4 วันตั้งแต่วันพฤหัสบดีนี้.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"