รายการ "ถามสุดซอย" ทางช่องเนชั่น ช่อง 22 ดำเนินรายการโดย "เอิ๊ก-พรหมพร ยูวะเวส" เปิดใจสัมภาษณ์ "อีฟ-อภิสร์ญา พัฒนวรทรัพย์" หรือ "อีฟ แม็กซิม" ไล่ฟ้อง "กานต์-วิภากร ศุขพิมาย" ถึง 4 คดี
“ฟ้อง 4 คดี ก็มีหมิ่นประมาท 2 คดี แล้วก็ขับไล่เป็นการข่มขืนใจ และมีหมิ่นประมาทอยู่ในนั้นด้วย รวม 4 คดี เรื่องเริ่มจากเขาโพสต์เฟซบุ๊กด่าเรา ด่ารุนแรงถึงพ่อแม่ ทำให้เรายอมไม่ได้ มีหนึ่งคดีที่ตัดสินไปแล้ว ที่หมิ่นประมาทมีหลายคำ หนึ่งในนั้นคือคำว่าเหลือมที่เขาใช้ด่าเรา
เขาน่าจะเข้ามาตอนพี่เสกมีไบโพลาร์กำเริบ มีการไลฟ์สด ตอนนั้นลูกชายพี่เสกกลับมาพอดี คบกันได้ปีกว่า ตอนนั้นเขาเริ่มติดต่อมาให้พาพี่เสกไปรักษา เพราะน้องเสือลูกชายเขามีสิทธิ์เซ็นเป็นเจ้าของไข้ เราไม่ได้พาพี่เสกไปรักษาเพราะตอนนั้นอยู่กันแค่ 2 คนและเราอยู่ในฐานะคู่หมั้น เราไม่ได้มีสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของไข้ ตัวพี่เสกตอนนั้นเขาก็ไม่ได้ยอมไป
ที่ทางนั้นเรียกเราว่าเหลือม หาว่าเราเกาะพี่เสก ไม่ได้ทำมาหากินอะไร พี่เสกให้เงินใช้เดือนละ 3 หมื่นและให้แม่อีกเดือนละ 2 หมื่น คือการอยู่ตรงนั้นก็เหมือนเราไม่ได้ออกไปทำงาน เพราะพี่เสกให้เราอยู่ตรงนั้น แล้วเขาบอกว่าการที่เราอยู่ตรงนั้นก็เหมือนเป็นการช่วยงานเขาไปในตัวด้วย เพราะเราได้ช่วยงานเขาในหลายๆเรื่อง ทั้งงานคอนเสิร์ต เราก็อยู่กับเขาตลอด ก็เหมือนเราทำงานกับเขา เขาก็จ่ายเงินให้เราและแม่ เขาว่าเราไปเกาะพี่เสก มันเป็นความคิดของเขา ส่วนคำที่ว่าเราอยู่บ้านไม่ได้ทำอะไร เขาไม่ได้มาใช้ชีวิตอยู่กับเรา เอาความคิดนี้มาจากไหนไม่รู้
บ้านที่เกิดเรื่องราว เป็นชื่อพี่เสกค่ะ ต้องเท้าความว่าตอนเกิดเรื่อง ทางนั้นเข้ามาที่บ้าน พี่เสกเขาเอาเอกสารทางศาลมาให้ดู ว่าเขามีสิทธิ์ครอบครองบ้าน จะให้ใครอยู่ก็ได้ แต่โฉนดเป็นของลูก ตอนที่หย่าพี่กานต์ก็ได้ไปซื้อบ้านอีกหลังหนึ่งให้เขาและลูกอยู่ หลังนั้นก็เป็นสิทธิ์ของเขาเลย
ตอนเขาบุกเข้ามาในไลฟ์สดเขาพูดเยอะค่ะ อีฟก็เพิ่งตื่นเพราะเช้ามาก ตอนนั้นพี่เสกไม่อยู่ ถ้าตามสิทธิ์ตอนนั้นไม่ใช่บ้านพี่กานต์ อีฟไม่ได้อยากจะอยู่เหมือนที่เขาเข้าใจว่าเราอยากอยู่ อยากเกาะ พอมีปัญหา อีฟก็อยากกลับบ้าน เพราะอีฟก็มีบ้านอยู่ มีแม่อยู่ ก็บอกพี่เสกว่าขอกลับบ้าน เพราะตรงนั้นมันก็เครียด แต่เขาไม่ให้อีฟกลับ อีฟก็ปรึกษาทนายส่งให้เขาดูตลอดว่าเราพูดกับเขายังไง เราก็ยืนยันว่าตอนนั้นพี่เสกเป็นคนให้เราอยู่ เราก็ปรึกษาทนาย เขาก็บอกว่าขับไล่เราไม่ได้ ซึ่งฝั่งโน้นมีการฟ้องขับไล่ เหมือนใช้สิทธิ์ของลูกชาย แต่ตรงนั้นพอเราออกมาปุ๊บ เขาก็ไปถอนฟ้อง แต่จริงๆ ตัวเขาไม่มีสิทธิ์จะไล่ อีฟก็ออกมาตั้งแต่วันนั้นและไม่ได้กลับไปเลย ที่ไม่กลับไปอีกเพราะเหมือนตัวพี่เสกเขาไม่ชัดเจน และไม่เด็ดขาด
ทางนั้นเขาบอกว่าเราปล่อยบ้านรก สกปรก ไม่เก็บที่นอนเลย เรื่องเก็บที่นอน เป็นวันเดียวที่เขาเห็น เขาบุกไปที่บ้าน ตอนนั้นเป็นการนอนข้างล่างที่โซฟา 3 คน พี่เสกตื่นเป็นคนสุดท้าย พี่เสกเอาผ้าห่มไปเก็บที่ชั้นล่าง ซึ่งอีฟไม่ได้เป็นคนเก็บ เขาเห็นวันนั้นวันเดียว ซึ่งเราอยู่กันมาเป็นปี เขาไม่ได้เห็นตอนเราอยู่กันสองคน แล้วจะมาเหมารวมก็ไม่ถูก
ดูแลพี่เสกยังไง หลักๆก็คือพาพี่เสกไปหาหมอ ดูเรื่องยา การดูแลสุขภาพ ทำกับข้าวให้บ้าง การทำความสะอาดจะมีแม่บ้าน เราอยู่กันสองคน พี่เสกเขาไม่ให้ทำ ตอนนั้นเขาป่วย ก็จะมีความคิดแปลกๆ หน่อย เราทำหลายหน้าที่เลยนะคะ พี่เสกเองก็พูดว่าเหมือนอีฟทำให้ทุกอย่าง ทั้งขับรถพาไปเล่นดนตรีต่างจังหวัด อีฟขับไปทั้งไปทั้งกลับ ไปกันสองคนก็ไปมาแล้ว แต่คนอื่นไม่เห็นค่ะ
พี่เสกเขามีแค่พูดปรามๆ เขาให้เหตุผลว่ายิ่งเขาไปห้าม จะทำให้ฝั่งนั้นด่าเราเพิ่มขึ้น จากที่ทางนั้นมาไล่อีฟ อีฟไม่โทษว่าส่วนหนึ่งเป็นความผิดของพี่เสก ในมุมอีฟ อีฟเข้าใจว่าพี่เสกไม่ได้รู้เรื่อง เพราะ ณ ตอนที่เรายังอยู่ เขาพยายามกดดันพี่เสกเพื่อให้เราออกจากบ้าน เราก็อยากออก ไม่ใช่อยากจะอยู่ แต่พี่เสกไม่ปล่อยเราไป เรารักใคร เราก็จริงจังกับคนนั้น เราก็ได้รับความรู้สึกตรงนั้นด้วย ก็ค่อนข้างจริงจัง อยู่กับเขาเพราะรักด้วย ใช้ชีวิตแบบคู่รักทั่วไปเลย วันนี้ยังรักไหมตอนนี้เราออกมานานแล้ว มันไม่แล้วค่ะ ไม่เกลียดไม่โกรธเลยค่ะ เฉยๆ
อีกคดีที่้ฟ้องเป็นคดีต่อเนื่องกัน พอเราออกมาแล้วเขาให้นักร้องในค่ายแต่งเพลงว่าเรา วันเหตุการณ์ที่เขาไล่เราออกมา และมีเสียงเราอยู่ในเพลง เข้าข่ายหมิ่นประมาทค่ะ ที่ฟ้องทั้งหมด เราอยากให้เขาสำนึกผิดว่าการที่เขาทำแบบนี้ไม่ใช่เฉพาะอีฟ กับใครก็ได้มันเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย ไม่ใช่นึกจะด่าใครก็ได้ แล้วก็อยากให้เขาขอโทษ
ฟ้องครั้งแรก เรามีคำท้ายฟ้องว่าให้เขาขอโทษ ลบโพสต์ที่ด่าเรา และห้ามโพสต์ด่าเราอีก เราขอแค่นี้ มีการนัดไกล่เกลี่ย 2 ครั้ง ซึ่งเขาไม่มา เขาไม่ประสงค์จะไกล่เกลี่ย ถ้าเขามา ณ ตอนนั้น คุยกันจบ ทำตามที่เราขอไป เขาไม่ต้องจ่ายเงินสักบาท แค่ขอโทษ ลบโพสต์ที่ด่าเราเยอะๆ และไม่มีการพาดพิงอีก แต่ไม่มีการไกล่เกลี่ย ความตั้งใจของเราคืออยากให้เขาได้รับโทษมากกว่า เขาบอกถ้าให้จ่าย 7 ล้าน ยอมติดคุกดีกว่าก็แล้วแต่ศาลจะเห็นสมควรเลยค่ะ
พี่เสกได้ติดต่อให้มายอมกัน อย่ามีเรื่องมีราวไหมเหรอ ก็มีค่ะ ตั้งแต่ตอนอยู่กับเขา เราก็บอกเขาแล้วว่าขอให้อย่ามายุ่ง เพราะทางโน้นโพสต์ด่าเรา ไม่เกี่ยวกับพี่เสก ก็บอกว่าไม่ต้องมาขอให้ถอน ให้ยอม พอเราออกมาแล้วพี่เสกก็ให้คนมาคุยอีกครั้ง เหมือนอยากให้จบดีๆ เราก็ยืนยันเหมือนเดิมว่าเราไม่ยอม ณ วันที่อยู่ตัวพี่เสกก็ไม่ได้ปกป้องเรา การที่เราฟ้อง ก็ฟ้องเพื่อปกป้องตัวเอง เขาก็ไม่มีสิทธิ์ให้เราถอนฟ้อง ยอมง่ายๆค่ะ
เขาจดทะเบียนสมรสกันรอบที่ 3 ทราบค่ะ เหมือนเราตัดใจแล้วก็ไม่ได้รู้สึกอะไรแล้ว พี่เสกเคยพูดว่าไม่มีทางกลับไปจดทะเบียนกับทางโน้นอีก หลายๆ คนก็รู้ค่ะ เขาก็เคยพูดออกสื่อ ส่วนวันนี้ไม่ได้เป็นอย่างที่พูดก็ไม่รู้เหมือนกัน สถานะตอนนี้เหมือนเป็นคนอื่นไปแล้ว ไม่รู้สึกอะไรแล้ว เฉยๆเลย ไม่ได้มีอะไรจะบอกค่ะ ล่าสุดที่เขาไลน์มาให้อีฟถอนฟ้องคดี อีฟก็บล็อกไลน์เขาไปแล้ว เพราะไม่มีอะไรต้องคุยกันแล้วเราก็ขาดกันแล้ว”
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |