“บิ๊กตู่” สั่งพรรคร่วมรัฐบาลคุยกันหาทางออกปม กมธ.งบฯ ล่ม อย่าให้ขัดแย้ง หวั่นกระเทือน พ.ร.บ.งบฯ 64 "อนุทิน" ลั่นเสียงข้างมากจะรวบทำงานคนเดียวไม่ได้ ต้องแบ่งหน้าที่ให้กับทุกคน ขณะที่ “วราเทพ” แบบไต๋  พปชร.กินรวบประธานคณะอนุฯทุกชุด

     พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่ประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 ล่ม หลังจากนายชาดา? ไทยเศรษฐ์? ส.ส.อุทัยธานี? พรรคภูมิใจไทย? (ภท.)? ในฐานะกรรมาธิการ เสนอนับองค์ประชุม? รวมถึงมีกรรมาธิการในพรรคอื่นๆ? วอล์กเอาต์ว่า เป็นเรื่องของผู้ที่เกี่ยวข้อง พรรคการเมือง และทุกฝ่ายต้องหารือร่วมกันว่าปัญหาเกิดจากตรงไหน อย่างไร หาทางออกร่วมกันให้ได้ ถ้าไม่คุยกันก็ตกลงไม่ได้ ก็จะเป็นอยู่อย่างนี้ จะเดินหน้าประเทศไปไม่ได้ จะมีปัญหาต่อการจัดทำงบประมาณ
    "การจัดทำงบประมาณปี 2564 เป็นเรื่องสำคัญ และจะอยู่ในช่วงการเปิดและการปิดสภาต่อไปด้วย เพราะ 1 ปีจะต้องมีการเปิดและการปิดสภา 2 ครั้ง ฉะนั้นต้องระมัดระวังตรงนี้ด้วย ขอให้เร่งดำเนินการ อย่าให้เกิดความขัดแย้ง เพื่อให้การพิจารณางบประมาณเป็นไปตามกรอบเวลา" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
    นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ถึงการประชุมกรรมาธิการงบประมาณ 2564 ที่มีเหตุล่มเมื่อ 21 ก.ค.ที่ผ่านมา?หลังกรรมาธิการซีกรัฐบาลไม่พอใจการทำงานพรรคพลังประชารัฐ ที่ไม่ยอมกระจายตำแหน่งประธานให้พรรคร่วมว่า กรณีดังกล่าวไม่น่าจะเป็นปัญหาต่อการทำงาน เพราะน่าจะเกิดจากการปรับจูนกัน และการทำงานร่วมกันต้องให้เกียรติ?ซึ่งกันและกัน แม้จะมีเสียงข้างมาก ก็จะมารวบการทำงานคนเดียวไม่ได้ ตามหลักประชาธิปไตย?เพื่อแบ่งหน้าที่ให้กับทุกคนเชื่อ จากปัญหาที่เกิดขึ้นจะมีการพูดคุยกันแล้ว
    ขณะที่    นายสันติ? พร้อมพัฒน์? รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาร่าง? พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ? พ.ศ.2564?  ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อวันที่? 20? ก.ค. ตนไม่ได้เข้าประชุมคณะกรรมาธิการฯ? เนื่องจากต้องไปยื่นหนังสือต่อวุฒิสภา? แต่เดี๋ยววันนี้? (21? ก.ค.)? ตนจะเข้าไปดู?
    ผู้สื่อข่าวถามว่า? เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นจากการเเบ่งคณะอนุกรรมาธิการวิสามัญไม่ลงตัวของพรรคร่วมใช่หรือไม่? นายสันติ? บอกว่า ไม่ทราบ ต้องขอไปดูก่อนว่าภูมิใจไทยและคนอื่นๆ ที่เป็นกรรมาธิการของเขาวอล์กเอาต์ มันเกิดอะไรขึ้น
    วันเดียวกัน ภายหลัง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เดินทางมายังห้องทำงานตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบฯ เพื่อเตรียมประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นั้น ปรากฏว่านายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 และเป็น ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ได้เข้าพบ พล.อ.ประวิตร
    ทั้งนี้ คาดว่าเป็นการหารือกันถึงกรณีที่ประชุม กมธ.วิสามัญเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 ล่ม จากพรรคร่วมรัฐบาลหลายคนวอล์กเอาต์ โดยมีรายงานข่าวว่าสาเหตุที่พรรคภูมิใจไม่พอใจ เนื่องจากกรรมาธิการจาก พปชร.นั่งเป็นประธานอนุกรรมาธิการวิสามัญคณะต่างๆ เองทั้งหมด โดยไม่เกลี่ยให้พรรคร่วมรัฐบาล รวมถึงภูมิใจไทยก็อยากนั่งเป็นประธานอนุกรรมาธิการวิสามัญก่อสร้าง โดยใช้เวลาหารือประมาณ 30 นาที
    ที่รัฐสภา นายวราเทพ รัตนากร รองประธานคณะกรรมาธิการ  (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 กล่าวว่า การประชุม กมธ.เมื่อวันที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมา ไม่มีปัญหาความขัดแย้งใดๆ ในที่ประชุม ทุกอย่างราบรื่นมาตลอด มีการกำหนดกรอบไว้ตั้งแต่การประชุมครั้งแรกแล้วว่าจะดำเนินการพิจารณาอย่างไร
    นายวราเทพกล่าวต่อว่า ส่วนที่ระบุว่าสาเหตุความขัดแย้งมาจากการที่พรรคพลังประชารัฐจะยึดโควตาประธานอนุ กมธ.ทั้ง 7 คณะ ไม่แบ่งให้พรรคอื่นนั้น ยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่มีการหารือว่า จะมีคณะอนุ กมธ.ทั้งหมดกี่คณะ คณะอะไรบ้าง และใครจะเป็นประธาน ยังไม่มีการคุยกันเลย จะไปขัดแย้งกันอย่างไร
    ทางด้านนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ที่ปรึกษาคณะ กมธ.วิสามัญฯ กล่าวว่า เป็นผลมาจากการประชุม กมธ. ไม่เคยพูดคุยถึงแนวทางที่ชัดเจนการทำงาน ทิศทางของงบประมาณตั้งเป้าไว้ว่า จะต้องปรับลด แต่ไม่เคยมีการพูดคุยจะปรับลดกันอย่างไร มีแต่การให้หน่วยงานต่างๆ ชี้แจงไปเรื่อยๆ โดยไม่มีข้อสรุปอะไรออกมาเลย ทำให้การทำงานของ กมธ.ล่าช้า นอกจากนี้ คณะอนุ กมธ.ชุดต่างๆ ที่เบื้องต้นคาดว่าจะมี 7 คณะ ก็ยังไม่มีการแต่งตั้ง เรื่องนี้จะต้องมีการพูดคุยกันเพื่อปรับแนวทางการทำงานให้ชัดเจนโดยเร็ว ส่วนกระแสข่าวที่ระบุพรรคพลังประชารัฐจะฮุบโควตาประธานอนุ กมธ. 7 คณะไว้ฝ่ายเดียว จนทำให้เกิดความไม่พอใจใน กมธ.นั้น ขณะนี้อนุ กมธ.ทั้ง 7 ชุดยังไม่มีการแต่งตั้ง แต่ตามปกติแล้ว ตำแหน่งประธานอนุ กมธ.จะเป็นไปตามสัดส่วนโควตาของพรรคการเมือง หากพรรคพลังประชารัฐตั้งธงจะเอาหมดทุกคณะ แสดงว่าแม้แต่พรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันก็ไม่แบ่งให้ ถ้าเป็นเช่นนี้สัญญาณออกมาไม่ดีแน่
    "เท่าที่ทราบขณะนี้พรรคภูมิใจไทยกับพรรคประชาธิปัตย์จับมือกันใน กมธ.แน่นมาก ถ้าพรรคพลังประชารัฐไม่อ่อนลงก็ต้องมีปัญหาเกิดขึ้นอีก อยู่ที่ปัญหาจะไปเกิดใน กมธ.หรือในสภา ที่ผ่านมาพรรคพลังประชารัฐไม่ยอมส่งตัวแทนที่มีอำนาจการตัดสินใจมาเข้าร่วมประชุม ทำให้เกิดปัญหา จึงควรให้ความสำคัญกับ กมธ.มากกว่านี้"
    นายวราเทพ รัตนากร รองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564   แถลงอีกครั้งว่า ไม่ทราบว่าสาเหตุ กมธ.ล่มมาจากอะไร แต่การประชุมใน กมธ.ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด การที่นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ที่ปรึกษา กมธ.ระบุว่าการประชุม กมธ.งบฯ ไม่มีการกำหนดกรอบการพิจารณานั้น ยืนยันว่าไม่จริง กมธ.มีการกำหนดกรอบและแผนงานชัดเจนว่าหน่วยงานใดจะมาชี้แจงเมื่อใด แต่ประธานที่ประชุมไม่มีอำนาจตัดสินใจอะไรได้ มีเพียงแค่ทำหน้าที่ตามมติที่ประชุมและควบคุมการประชุมให้เป็นไปตามข้อบังคับ ไม่ได้มีการรอคำสั่งจากภายนอก
    "นายวรวัจน์ชอบนำความเห็นส่วนตัวไปอ้างเป็นมติที่ประชุม ถ้า กมธ.ไม่เห็นด้วยมักขู่จะวอล์กเอาต์ อย่างไรก็ตาม ถึงการพิจารณาของ กมธ.จะล่าช้ากว่าแผนที่กำหนดไป 3 วัน แต่เชื่อว่า จะสามารถพิจารณาได้แล้วเสร็จทันภายในกรอบ 105 วัน โดย กมธ.จะนำร่าง พ.ร.บ.ส่งให้สภาได้ในวันที่ 16-17ก.ย.นี้"
    ผู้สื่อข่าวถามว่า สาเหตุความขัดแย้งมาจากเรื่องการแบ่งโควตาประธานอนุ กมธ. 7 คณะ ที่พรรคพลังประชารัฐจะยึดไปทั้งหมดใช่หรือไม่ นายวราเทพตอบว่า การแต่งตั้งประธานอนุ กมธ. ไม่เกี่ยวกับประธาน กมธ. ที่ผ่านมาให้ตัวแทนฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านไปเจรจาเรื่องแบ่งโควตาประธานอนุ กมธ.แล้ว แต่ยังไม่นำกลับมารายงานต่อที่ประชุม กมธ.  
    ซักว่าพรรคพลังประชารัฐสามารถยึดโควตาประธานอนุ กมธ.ได้ทั้ง 7 คณะ หรือต้องแบ่งตามสัดส่วนพรรคการเมือง นายวราเทพกล่าวว่า ไม่มีข้อบังคับเขียนว่าประธานอนุ กมธ.ต้องมีสัดส่วนจากทุกพรรคการเมือง ขึ้นอยู่กับข้อตกลงที่ทั้งสองฝ่ายจะทำกัน อย่างการพิจารณา กมธ.งบประมาณปี 2563 ก็มีประธานอนุ กมธ.ทุกชุดเป็นของพรรคพลังประชารัฐหมด ก็ไม่เห็นมีปัญหาอะไร และปีนี้เชื่อว่าทุกอย่างน่าจะลงตัวได้อย่างไม่มีปัญหา ขณะนี้ยังไม่มีการแต่งตั้งคณะอนุ กมธ.ใดๆ คาดว่าในช่วงสัปดาห์ที่ 3 ของการทำงานของ กมธ.จะเริ่มแต่งตั้งอนุ กมธ.ชุดต่างๆ ได้.