ผู้นำชาติสมาชิกอียูถกมาราธอน 4 วัน 4 คืน สุดท้ายเห็นพ้องงบช่วยเหลือฟื้นฟูประเทศสมาชิกจากผลกระทบของโควิด-19 รวม 7.5 แสนล้านยูโร อีกด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โวรักชาติกว่าใคร กลับลำใส่แมสก์เพื่อเอาชนะไวรัสจีนที่มองไม่เห็น
นางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ร่วมประชุมสุดยอดผู้นำอียูที่กรุงบรัสเซลส์ เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2563
บรรดาผู้นำ 27 ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) จัดประชุมยาวนานที่กรุงบรัสเซลส์ตั้งแต่เช้าวันศุกร์ที่ผ่านมา และสามารถบรรลุความตกลงกันได้ในวันอังคาร หลังจากถกเถียงกันนานกว่า 90 ชั่วโมง โดยที่ประชุมเห็นพ้องกับแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจ 750,000 ยูโร (ราว 27.15 ล้านล้านบาท) แบ่งเป็นในรูปเงินให้เปล่าและเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ แก่ประเทศที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ซึ่งถึงขณะนี้ได้คร่าชีวิตผู้ป่วยทั่วโลกแล้วมากกว่า 610,000 คน จากผู้ติดเชื้อมากกว่า 14.7 ล้านคน
"นี่เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งประวัติศาสตร์สำหรับยุโรป" ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส กล่าว ขณะที่นายกฯ อังเกลา แมร์เคิล ของเยอรมนีก็แสดงความโล่งใจที่อียูแสดงออกได้ทัดเทียมกับวิกฤติครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของยุโรป
การเจรจาใช้เวลาเนิ่นนาน เนื่องจากความไม่ลงรอยกันระหว่างประเทศที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากไวรัสโคโรนา เช่น สเปนกับอิตาลี กับ 4 ประเทศ "ตระหนี่" ที่ประกอบด้วย เนเธอร์แลนด์, สวีเดน, เดนมาร์ก และออสเตรีย กับฟินแลนด์ ที่กังวลเรื่องค่าใช้จ่ายในการโอบอุ้มเศรษฐกิจของกลุ่มให้พ้นจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย
เงินกระตุ้นเศรษฐกิจซึ่งต้องผ่านการเจรจาทางเทคนิคและการให้สัตยาบันโดยรัฐสภายุโรป แบ่งเป็นโครงการเงินสนับสนุนแบบให้เปล่า 390,000 ล้านยูโร แก่ประเทศที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด เช่น อิตาลีและสเปน กับอีก 360,000 ล้านยูโร ในรูปเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำแก่ชาติสมาชิกทั้งหมด นอกจากนี้ที่ประชุมยังบรรลุความตกลงเกี่ยวกับงบประมาณระยะ 7 ปี มูลค่า 1.1 ล้านล้านยูโร
ขณะที่ชาติร่ำรวยในยุโรปกำลังดิ้นรนกอบกู้ภาวะเศรษฐกิจ ผู้เชี่ยวชาญกล่าวเตือนว่า ผลกระทบจากโควิด-19 จะหนักหนาที่สุดสำหรับประเทศยากจนเช่นในทวีปแอฟริกา ไมเคิล ไรอัน ผู้อำนวยการโครงการฉุกเฉินด้านสาธารณสุขขององค์การอนามัยโลก แสดงความกังวลว่า โรคนี้กำลังแพร่ระบาดเร็วขึ้นในทวีปนี้ โดยแอฟริกาใต้เพิ่งมีผู้เสียชีวิตเกิน 5,000 ศพเมื่อสุดสัปดาห์
ในอเมริกาใต้ บราซิลมีผู้เสียชีวิตเกิน 80,000 คนแล้วเมื่อวันจันทร์ จากผู้ติดเชื้อมากกว่า 2.1 ล้านคน เป็นยอดเสียชีวิตและติดเชื้อมากเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากสหรัฐ ส่วนสหรัฐนั้นมีผู้ติดเชื้อรายวันมากกว่า 60,000 คน เป็นวันที่ 7 ติดต่อกัน โดยยอดสะสมถึงวันอังคารมีมากกว่า 3.8 ล้านรายแล้ว เสียชีวิตมากกว่า 140,000 ราย
ประธานาธิบดีทรัมป์เปลี่ยนท่าทีจากที่เคยปฏิเสธหน้ากากอนามัย โดยเมื่อวันจันทร์ เขาทวีตภาพตนเองสวมหน้ากากอนามัยพร้อมข้อความว่า พวกเราเป็นเอกภาพในความพยายามเอาชนะไวรัสจีนที่มองไม่เห็น หลายคนกล่าวว่าการสวมหน้ากากเป็นความรักชาติเมื่อคุณไม่สามารถรักษาระยะห่างทางสังคมได้ "ไม่มีใครรักษามากไปกว่าผม ประธานาธิบดีคนโปรดของคุณ" ทรัมป์ทวีต.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |