ไทยโพสต์ "อิสรภาพแห่งความคิด" การปรับ ครม.ประยุทธ์ 2/2 มีความคืบหน้าไปมาก เมื่อ ลุงตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เปิดเผยภายหลังการประชุม ครม.ว่า จะเร่งปรับ ครม.ให้เร็วที่สุด เมื่อมีคนตอบรับแล้วก็ต้องตรวจสอบคุณสมบัติและนำรายชื่อเสนอขึ้นทูลเกล้าฯ ตามกระบวนการ พร้อมยืนยันว่าไม่มีปัญหาความขัดแย้งภายในพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โดยเฉพาะเก้าอี้ รมว.พลังงาน ซึ่งตนได้คุยกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร.แล้ว “เราไม่ได้พูดถึงว่าเป็นโควตาของใคร ผมจัดสรรให้เหมาะสมก็แล้วกัน ผมขอบคุณสมาชิก พปชร.ทุกคนด้วย ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะพูด แต่คนตัดสินใจคือผม” ก็สรุปได้ว่าวันก่อนที่ บิ๊กป้อม ไปกินก๋วยเตี๋ยวกับนายกฯ บนตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล คงหารือกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว...0

                การปรับ ครม.ครั้งนี้หลายฝ่ายจับตากันว่า ระหว่าง กลุ่มนักการเมืองเก่า กับ กลุ่ม 3 ป.บูรพาพยัคฆ์ ใครจะถือเกมเหนือใคร หากถอดรหัสจากคำพูดของ บิ๊กตู่ ก็แสดงว่า 2 พี่น้องบูรพาพยัคฆ์ ปรึกษาหารือรับรู้เกมการเคลื่อนไหวใน พปชร.มาตลอด ตั้งแต่การกดดัน กลุ่ม 4 กุมาร พ้น พปชร.กระทั่งลาออกจาก ครม.ยกทีม รวมทั้ง นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ โดยมีเป้าหมายเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนทีมเศรษฐกิจชุดใหม่ หาก บิ๊กตู่ เชื่อว่าแนวทางการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของ สมคิด+4 กุมาร มาถูกทางจะฟื้น ศก.ได้ ก็ต้องปกป้องทีม ศก.ชุดเดิมไว้ เว้นแต่เห็นว่าไปไม่ไหวต้องหาทีมใหม่แล้วหรี่ตาให้ พี่ป้อม ไฟเขียวให้คนใน พปชร.เดินเกมดังกล่าว เช่นเดียวกับเก้าอี้ รมว.พลังงาน เปรียบเสมือน ขุมทรัพย์ทองคำ หากยอมให้ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ มาคุมพลังงาน แสดงว่า 2 พี่น้องบูรพาพยัคฆ์มีวาระพิเศษในขุมทรัพย์ทองคำแห่งนี้ และทั้งหมดก็คือ การสมคบคิด-ลับลวงพรางภาคการเมือง...0

                การชุมนุมของกลุ่มนักศึกษา เยาวชนปลดแอก ลามมาถึงหน้ากองทัพบก แค่ พ.อ.หญิงคนหนึ่งโพสต์ข้อความเหน็บแหนมว่า ม็อบมุ้งมิ้ง ก็มาบุกหน้า ทบ.เป็นการท้าทาย พ.ร.ก.ฉุกเฉินและกองทัพ โดยเฉพาะการชูป้ายจาบจ้วงสถาบัน ซึ่งกระทำลักษณะเดียวกันกับการชุมนุมที่ จ.เชียงใหม่ และที่อื่นๆ สำหรับกลุ่มนี้ก็คือเครือข่ายเดียวกับ สาวกสีส้ม แกนนำพรรคก้าวไกล-คณะก้าวหน้า จึงเรียงหน้ากันออกมาปกป้อง นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ยืนยันว่า การชุมนุมคือเสรีภาพ เมื่อถามถึงกรณีปรากฏภาพผู้ชุมนุมบางคนถือป้ายเขียนข้อความที่กระทบเบื้องสูง นายปิยบุตร ตอบอย่างมีนัยว่า “ในอดีตที่ผ่านมามีการแสดงออกอะไรต่างๆ เราจะยอมรับข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าวว่ามีจริงหรือไม่ ถ้าข้อเท็จจริงมีอยู่จริง ปัญหาอยู่ที่ผู้มีอำนาจรัฐทั้งหลายจะจัดการเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างไร?”

ในการประชุมวุฒิสภา นายสมชาย แสวงการ ส.ว. หารือเกี่ยวกับการชุมนุมดังกล่าว โดยเป็นห่วงว่า “จะนำไปสู่ความรุนแรงในอนาคตเช่นเดียวกับเหตุการณ์ในอดีตได้ เพราะคนไทยส่วนใหญ่ไม่ได้เห็นด้วยกับการเปลี่ยนแปลงล้มล้างสถาบัน” พร้อมกับขอให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีที่เกี่ยวกับการล้มล้างสถาบันและการใช้สื่อออนไลน์ที่บิดเบือน เช่นเดียวกับ พล.อ.ประยุทธ์ ที่แสดงความกังวลกับการเคลื่อนไหวดังกล่าว “เห็นใจเด็กๆ เยาวชน นิสิต นักศึกษา และเป็นห่วงแทนผู้ปกครองของเขาด้วย ขอให้ระมัดระวังการละเมิดก้าวล่วง” เรื่องการดำเนินคดีตาม ม.112 เป็นเรื่องละเอียดอ่อน มิเช่นนั้นจะลุกลามบานปลาย ที่สำคัญผู้นำประเทศจะต้องเข้าใจบริบทความขัดแย้งที่เกิดความแตกแยกทางความคิดในสังคมไทย แล้วแก้ที่ต้นเหตุเพื่อสร้างความสมานฉันท์และวางรากฐานประเทศเพื่ออนาคตคนรุ่นหลังจึงจะขจัดปัญหาทั้งหมดได้...0

เช่นเดียวกับเหตุกลุ่มวัยรุ่นหลายสิบคนบุกเข้าไปทำร้ายร่างกายแพทย์และพยาบาลภายในห้องฉุกเฉิน รพ.วิภารามชัยปราการ เนื่องจากไม่พอใจทีมแพทย์ที่ช่วยเหลือเพื่อนล่าช้า หลังจากกลุ่มวัยรุ่น 2 กลุ่มก่อเหตุตะลุมบอนกันจนมีการบาดเจ็บเข้ามารักษาตัวใน รพ.ดังกล่าว ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่เกรงกลัวกฎหมายและไร้มนุษยธรรม หลายฝ่ายก็ด่าทอวัยรุ่นฝ่ายเดียว โดยไม่ย้อนไปดูต้นเหตุว่าปัญหาเหล่านี้มาจากยาเสพติดและอบายมุข แล้วทำไมเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบปล่อยให้ยาเสพติดแหล่งอบายมุขเกลื่อนเมือง มีข่าวจับยาเสพติด-บ่อนการพนันแทบทุกวัน หากแก้ที่ต้นเหตุไม่ได้ปัญหาเหล่านี้ไม่มีทางหมดไปจากสังคมไทย!...0

แซมซาย