เรียกได้ว่าเป็นเหตุการณ์ลูกโซ่ที่นำไปสู่อะไรหลายๆ อย่างเลยทีเดียว สำหรับกรณีทหารอียิปต์ที่มีเชื้อโควิด-19 หนีเที่ยวห้างใน จ.ระยอง ที่นอกจากจะเป็นหนึ่งในชนวนที่ทำให้เกิดการชุมนุม ณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เช่นเดียวกับมาตรการสร้างความมั่นใจแก่คนในพื้นที่ โดยการให้มีการแข่งขันฟุตบอลไทยลีกนัดแรกแบบมีผู้ชม เป็นต้น
ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างผลกระทบใหญ่แก่คนในพื้นที่แบบเจ็บหนักเลยทีเดียว กับสถานการณ์เศรษฐกิจ ที่อาจจะต้องเป็นอัมพฤกษ์ไปอีกอย่างน้อยๆ 14 วัน หมายความว่า ความรู้สึกอึดอัด คับแค้นของชาวระยองบางส่วน ย่อมมีมากกว่าคนจังหวัดอื่นเป็นเรื่องปกติ
ขณะที่ท่าทีของนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ดูไม่ค่อยโสภามากนัก โดยเฉพาะช่วงเช้าของวันที่ 15 ก.ค. ที่เป็นวันลงพื้นที่ จ.ระยอง ในช่วงบ่ายสี่โมง โดยตอนเช้า “บิ๊กตู่” มีคิวไปงานที่เมืองทองธานี แน่นอนว่าก็ไม่พ้นบรรดากระจิบข่าวที่ไปดักหวังจะเอาประเด็นเด็ดจาก ผอ.ศบค.ตั้งแต่เช้า
มีหลายต่อหลายครั้งที่แม้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะเจอกับสถานการณ์ที่มีปัญหา แต่เจ้าตัวก็สามารถควบคุมสถานการณ์ รวมทั้งควบคุมอารมณ์ตนเองเวลาให้สัมภาษณ์สื่อ พร้อมแทรกด้วยอารมณ์ขันได้เป็นอย่างดี
แต่วันนั้นดูเหมือนว่าเจ้าตัวอารมณ์ไม่ดีนัก จากการสัมภาษณ์ที่ทั้งฟาดงวงฟาดงาใส่สื่อ ว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดความตระหนก และยังมีประโยคเด็ดอย่าง
"ถามผมว่าต้องไปเยียวยา ผมต้องไปเยียวยาใครล่ะ พ่อค้าต่างๆ ในตลาดสดที่คนไม่ไปเดินอย่างนั้นใช่ไหม หรือประชาชนที่ขายของไม่ได้ใช่ไหม"
เรียกได้ว่าท่าทีต่อเรื่องนี้เปลี่ยนไปจากวันก่อนแบบดำเป็นขาวเลยทีเดียว
ไม่รู้ว่านอนน้อยเพราะต้องเตรียมตัวออกมางานแต่เช้ารึเปล่า พอโดนนักข่าวสะกิดจุดนิดเดียว ปรอทนายกฯ ถึงกับเกือบแตก เลยทีเดียว…อิอิ
ใบไม้ห้าแฉก
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |