19 ก.ค.63-นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานนปช. กล่าวตอนหนึ่งในรายการ"ลมหายใจพีซทีวี เวทีทัศน์"ทางสถานีโทรทัศน์พีซทีวี กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มเยาวชนปลดแอกที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยว่า การชุมนุมนั้นสิ่งที่จำเป็นจะต้องทำทั้ง 2 ฝ่ายคือการแข่งความอดทนซึ่งกันและกัน ตนผ่านเหตุการณ์พฤษภาคม 2535 ซึ่งในขณะนั้นก็เป็นคนหนุ่มสาวเหมือนกับคนเหล่านี้ จึงรู้ว่าคนหนุ่มสาวเป็นพลังบริสุทธิ์ มีความฝันมีความหวัง ดังนั้นการต่อสู้เพื่อชาติบ้านเมืองนั้นเป็นหน้าที่ และประเทศใดคนหนุ่มสาว ไม่กล้าที่จะลุกขึ้นมาต่อสู้นั้นประเทศนั้นจะหามีอนาคตไม่
นายจตุพรกล่าวว่า การต่อสู้การแสดงออกของคนหนุ่มสาวของประเทศที่มีอนาคต ผู้มีอำนาจต้องมองด้วยภาวะการณ์ปกติ เพราะหากมองว่าเป็นภัยคุกคามที่จะต้องกำจัดนั้นสุดท้ายแล้วเหตุการณ์จะลุกลามบานปลาย ประชาชน ซึ่งเป็นพ่อแม่ของนักศึกษาทนไม่ได้ก็จะออกมา ขณะเดียวกันการชุมนุมก็ต้องเตรียมความพร้อมให้ครบถ้วนทั้ง อุปกรณ์เครื่องเสียง และระบบการจัดการ์ดรักษาความปลอดภัยในการปกป้องและลดความสูญเสียในการชุมนุมเพราะปรากฏการณ์ที่เกิดการกรูเข้าไปนั้นสามารถทำให้เกิดเหตุการรณ์ได้ตลอดเวลา
"ฝ่ายผู้ปกครองจะต้องใจกว้าง จะต้องมีความอดทนให้ถึงที่สุด ขณะเดียวกันข้อเรียกร้องของบรรดาคนหนุ่มสาว 3 ข้อนั้น ก็ต้องยึดกุมให้แข็งแรงและที่สำคัญต้องไม่ไปก้าวล่วงสถาบันพระมหากษัตริย์ เพราะจะทำให้เป็นจุดอ่อนโดยฉับพลัน ซึ่งทั้ง 3 ข้อเรียกร้องนั้นเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญทั้งการเรียกร้องให้ยุบสภาฯ การเรียกร้องไม่ให้มีการคุกคามบุคคลที่มีความเห็นต่างและเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หากขีดเส้นใต้ไว้ 3 ข้อนี้ เชื่อว่าสถานการณ์จะสามารถเดินได้ตามปกติ บทเรียนการชุมนุมแต่ละครั้ง ซึ่งไม่ได้บอกว่าคนรุ่นไหนจะเก่งกว่าคุณรุ่นไหน ดังนั้นปรากฏการณ์เมื่อวานนี้ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นอีกครั้ง"
ประธานนปช.กล่าวว่า ในภาวะการของประเทศที่คนไร้ทางออกนั้นรัฐต้องยอมรับความเป็นจริงว่าคนไทยอยู่ท่ามกลางความยากลำบาก การเยียวยาไม่ครบถ้วนอีกทั้งการเยียวยาเท่านั้นไม่สามารถดำรงชีพได้ตลอดไปเหล่านี้ต้องยอมรับความเป็นจริงว่าความเดือดร้อนดังกล่าวนั้น คนจะไหลไปรวมกับนักศึกษาโดยอัตโนมัติ ดังนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการแก้ไขปัญหาให้ตรงจุดและใจกว้าง ต้องไม่คิดในการที่จะล้อมปราบเพราะจะทำให้สถานการณ์ของประเทศยุ่งยากมากยิ่งขึ้น
"ส่วนตัวเห็นด้วยกับการยุติการชุมนุมตอนเที่ยงคืน เพราะการชุมนุมข้ามคืนหากไม่พร้อมก็อย่าทำ ให้รักษาระดับความสำเร็จเอาไว้ และหากไม่พร้อมก็ต้องปรับให้เข้ากับสถานการณ์ จึงเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องที่สุดเพราะคนที่มาร่วมชุมนุมไม่ได้เตรียมตัว คนจัดก็ไม่ได้เตรียมตัว และสถานที่ทุกอย่างก็ขาดความพร้อมทั้งหมดในการชุมนุมยืดเยื้อได้ในทางปฎิบัติ รวมถึงจุดดูแลการรักษาความปลอดภัยก็ไม่ได้มีการเตรียมการ ดังนั้นในสถานการณ์ที่มีความเปราะบางทุกฝ่ายจะต้องใช้ความอดทนกันอย่างเต็มที่ นอกจากนี้หากมองด้วยมุมปรากฏการณ์ว่าความแข็งแรงของกระบวนการนักศึกษานั้นคือความเป็นอิสระ ซึ่งผมห้ามแกนนำนปช.อย่าเข้าไปใกล้ เพราะเราเป็นกระบวนการที่เกี่ยวข้องทางการเมือง ดังนั้นหากเข้าไปใกล้เมื่อไหร่จะเป็นเหตุให้การต่อสู้ของนิสิตนักศึกษา มีสภาพที่ไม่แข็งแรง เพราะพลังบริสุทธิ์จะเป็นภูมิต้านทานที่ดีที่สุด ดังนั้นบรรดานักการเมืองพรรคการเมืองจะต้องเว้นระยะห่างจากพลังบริสุทธิ์เหล่านี้ "
นายจตุพรกล่าวว่า การต่อสู้ทางการเมืองต่อไปนี้ไม่ควรจะมีการบาดเจ็บล้มตายหรือต้องสูญสิ้นอิสรภาพและเห็นว่าการต่อสู้ของประชาชนนิสิตนักศึกษานั้นเป็นหน้าที่ปกติของคนที่เกิดภายในประเทศนี้.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |