19 ก.ค.63-นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. กล่าวถึงการผ่อนคลายในระยะที่ 6 ว่าคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) อยู่ระหว่างการพิจารณาหลายกิจการ/กิจกรรม เช่น การผ่อนคลายแรงงานต่างด้าวที่มีความจำเป็นในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน อุตสาหกรรมอาหาร การแสดงสินค้า กองถ่ายภาพยนตร์ นักท่องเที่ยวเฉพาะกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง โดยจะมีการประชุมหารือกันอย่างรอบด้านและจะนำเสนอที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ภายในสัปดาห์หน้า โดยรอให้ ผอ.ศบค.เป็นผู้กำหนดวันประชุม ส่วนที่มีความเป็นห่วงกิจการกลางคืน ประเภทผับ บาร์ ที่มีความเสี่ยงนั้น หลังจากเราเข้าไปตรวจพบว่ากิจการเหล่านี้ได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และขอขอบคุณนักเที่ยวที่ให้ความร่วมมือเช่นกัน กิจการเหล่านี้จะได้เปิดยาวๆ สามารถไปสังสรรค์กันได้
ถามถึงการพิจารณายกเลิกการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จะพิจารณาจากปัจจัยอะไรและเมื่อไร นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สัปดาห์นี้ ศบค.ชุดเล็กจะมีการพิจารณาเรื่องดังกล่าว โดยเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) จะนำข้อมูลรอบด้าน ทั้งมิติสาธารณสุข เศรษฐกิจ และมั่นคงมาพิจารณา ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า ศบค.ปล่อยให้คนติดเชื้อโควิด-19 เข้ามาในประทศเพื่อสกัดการเคลื่อนไหวทางการเมืองนั้น ขอชี้แจงว่า ตนทำงานตรงนี้ หน้าที่คือ ควบคุมโรคให้ดีที่สุดเพื่อให้คนไทยปลอดโรคและปลอดภัย การที่เรานำคนไทยและคนต่างชาติที่ต้องเข้ามาปฏิบัติภารกิจ ไม่ได้มีเจตนาให้นำเชื้อจากต่างประเทศเข้ามา แต่เราต้องการคนไทยได้กลับบ้าน และได้ปฏิบัติภารกิจเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และเมื่อคนเป็นพาหะและเข้ามา เราได้ใส่ระบบกักตัว ทุกอย่างที่เข้ามาจะอยู่ในระบบที่เราควบคุมได้ ข้อต่อหรือสิ่งต่างๆ ที่หละหลวมไม่มีอีกแล้ว ทุกคนต้องอยู่ในสถานกักตัวของรัฐก่อน
"ที่เพจแหม่มโพธิ์ดำ มีการระบุว่า “จากคอมเมนต์นึง เริ่มแล้วนำเข้าผู้ติดเชื้อ ทำให้ระบาดเบาๆ รอบสอง เพื่อต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน สกัดม็อบนักศึกษา”นั้น เนื้อหาที่เพจดังกล่าวโพสต์ ใกล้เคียงกับความจริงของกรณีเดินทางเข้าประเทศไทยในวันนั้น 600 คน แต่ที่บอกมีไข้สูง 40 คนนั้น ข้อมูลก็ใกล้เคียง แต่ไม่ใช่ไข้สูง แต่อยากใช้คำว่าเข้าเกณฑ์ PUI ขณะนี้สื่อมวลชนมีความสำคัญ จึงขอความร่วมมือในการพาดหัวข่าวอย่าหวือหวาเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด"
ซักว่า ศบค.ให้น้ำหนักความปลอดภัยของคนไทย กับความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ อันไหนมาก่อนกัน นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า เราชัดเจนมาตลอดว่าเรายึดถือความปลอดภัยคนไทยมาเป็นอับดับหนึ่ง ดังนั้น มาตรการในกิจการ/กิจกรรมทุกส่วนเป็นตัวประกอบ การจะผ่อนคลายแต่ละระยะที่ผ่านมาเกิดจากการพิจารณาความปลอดภัยของคนไทยเป็นอันดับแรก ส่วนเศรษฐกิจก็เป็นเรื่องที่เราให้ความสำคัญ แต่เป็นประเด็นถัดมา เพราะเราเห็นจากหลายประเทศที่ให้ความสำคัญเรื่องเศรษฐกิจ แต่เมื่อควบคุมโรคไม่ได้ มีการระบาด สุดท้ายก็ส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจอยู่ดี ดังนั้น เราเอาสุขภาพและการปลอดโรคก่อน
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |