‘ทอน-บุตร’โชว์วิสัยทัศน์ เขย่าประเทศ-เขี่ยทหาร


เพิ่มเพื่อน    

 

2 บิ๊กคณะก้าวหน้าแข่งโชว์วิสัยทัศน์ "ธนาธร" ลั่นยึดมั่นอุดมการณ์พรรคอนาคตใหม่ที่ถูกยุบ ปลุกเขย่าการเมืองท้องถิ่นแบบไม่เคยมีใครทำมาก่อน ด้าน "ปิยบุตร" ชี้ปัญหาที่ดินทำกินแก้ไม่ยาก แค่กองทัพ ส่วนราชการ และเศรษฐีเลิกถือครองที่ดิน

    เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2563 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า เปิดตัวเทปแรกของรายการเฟซบุ๊กไลฟ์ “ก้าวหน้า Talk: คุณถาม เราตอบ” ที่มุ่งหวังเป็นช่องทางการสื่อสารประจำสัปดาห์ ระหว่างแกนนำคณะก้าวหน้ากับประชาชน
    ได้มีผู้ถามเข้ามาว่า การต่อสู้ในระบบสิ้นหวังหรือยัง? นายธนาธรระบุว่า ต้องตอบว่ายัง พรรคอนาคตใหม่เมื่อถูกยุบไป ได้ทำให้เกิดสององค์กรขึ้นมาใหม่ กลุ่ม ส.ส.ที่ยังยึดมั่นในอุดมการณ์ ได้ย้ายไปอยู่พรรคก้าวไกล ซึ่งการทำงานในรอบเดือนกว่าๆ ที่ผ่านมาน่าจะเป็นบทพิสูจน์แล้วว่าคุณภาพในการทำงานในสภาตามระบบของพวกเขายังคงเป็นปากเสียง พูดให้คนเล็กคนน้อย ยังคงยึดมั่นในอุดมการณ์เดิมของพรรคอนาคตใหม่อยู่ ให้เวลาอีกสักนิด พรรคก้าวไกลก็จะเติบโตเป็นที่พึ่งของประชาชนได้ ตนก็ต้องขอให้ทุกคนร่วมกันสนับสนุนพรรคก้าวไกลด้วย
    ประธานคณะก้าวหน้ากล่าวว่า ตนและกรรมการบริหารพรรคคนอื่นๆ ก็ไม่ท้อถอยเช่นกัน ยังคงเดินหน้าต่อ และได้จัดตั้งคณะก้าวหน้าขึ้นมาด้วยวัตถุประสงค์หลัก เช่น การรณรงค์ทางความคิด รณรงค์วาระทางสังคมที่แหลมคม รณรงค์วาระทางสังคมที่เป็นประโยชน์กับประชาชน ปักธงความคิด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือประเด็นทางสังคมอื่นๆ รวมถึงการทำงานในด้านการเมืองท้องถิ่น ซึ่งคณะก้าวหน้ากำลังขับเคลื่อนเพื่อนำไปสู่การส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งตำแหน่งบริหารในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ใน 4,000 แห่งทั่วประเทศ โดยในระยะที่ผ่านมานี้ คณะก้าวหน้าได้เริ่มต้นผลักดันการสรรหาผู้สมัครที่จะลงชิงตำแหน่ง อปท.ไปแล้ว
    “ลองนึกดูว่าถ้าเรามีนายกเทศมนตรี อบต. อบจ. ที่ไม่โกงกิน ทุจริตคอร์รัปชัน มีเจตจำนงที่แน่วแน่ที่จะเอางบประมาณของท้องถิ่นไปสร้างสิ่งที่ดีให้ท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็นสิ่งแวดล้อม น้ำ โรงเรียน ถนนหนทาง ให้งบประมาณทั้งหมดถูกนำไปใช้ด้วยแนวความคิดที่สร้างสรรค์ ยืนหยัดเรื่องประชาธิปไตย ความเสมอภาค ชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน ประเทศไทยจะไปได้ไกลแค่ไหน และนี่คือการเปลี่ยนแปลงท้องถิ่นและประเทศ” นายธนาธรกล่าว
    จากนั้น จึงมีหนึ่งในผู้ชมรายการที่พิมพ์คำถามเข้ามาว่า ในการเลือกตั้งท้องถิ่นของคณะก้าวหน้า จะสู้กับผู้มีอิทธิพลได้อย่างไร?  นายธนาธรตอบว่า เราจะใช้รูปแบบการทำงานเดิมสมัยที่เราเป็นพรรคอนาคตใหม่ คือจะไม่ใช้เงินซื้อเสียง ไม่ใช้อิทธิพล และการขับเคลื่อนด้วยนโยบายเป็นหลัก
    นายธนาธรกล่าวว่า นี่คือความก้าวหน้าของประชาธิปไตย ภาคพลเมือง และนโยบายสาธารณะ ถ้าเราทำแบบนี้ได้ประเทศไทยจะเปลี่ยนไปแค่ไหน และนี่คือความหมายที่ตนบอกว่าเราจะมาเขย่าการเมืองท้องถิ่น ทุกท่านเคยทำร่วมกับตนสำเร็จมาแล้วในการเมืองระดับชาติ เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 ลองมาทำร่วมกันอีกสักครั้ง
    "ครั้งนี้ทำในระดับบ้านเกิดของเราเอง ทำที่การเมืองท้องถิ่น ผมเชื่อว่าแนวทางการเมืองแบบนี้ไม่เคยมีใครทำมาก่อน และจะเป็นแนวทางการเมืองที่เปลี่ยนประเทศไทย ประชาธิปไตยในระดับชาติจะแข็งแรงไม่ได้ถ้าประชาธิปไตยในระดับท้องถิ่นไม่แข็งแรง มาลองทำร่วมกันอีกครั้ง" นายธนาธรกล่าว
    ด้านนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า เดินทางไปร่วมงาน “11 ปี ชุมชนบ่อแก้ว กับเส้นทางการต่อสู้เพื่อสิทธิที่ดินและความเป็นธรรมทางสังคม” ณ ชุมชนบ่อแก้ว ต.ทุ่งพระ อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16-17 กรกฎาคม
    โดยนายปิยบุตรบรรยายถึงปัญหาที่ดินว่า ในประเทศไทยมีอยู่หลายพื้นที่ แต่จากการสังเกตปัญหาที่ดินในประเทศไทย พบว่ามีจุดร่วมกันเดียวกันอยู่ 3 ประการ ได้แก่ 1.ความเหลื่อมล้ำ 2.ระบบราชการรวมศูนย์ 3.ความไม่แน่นอนของการใช้ประโยชน์ที่ดิน ที่ดินคือปัจจัยพื้นฐานในการผลิต เป็นปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีวิต หากไม่มีที่ดิน ก็ไม่มีเครื่องไม้เครื่องมือที่จะผลิตหรือหารายได้มาเลี้ยงชีวิต ที่ดินคือชีวิตของเกษตรกร และที่ดินยังเป็นปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีวิต เพราะต้องใช้สำหรับอยู่อาศัย เมื่อที่ดินเป็นทั้งปัจจัยการผลิตและปัจจัยพื้นฐานของชีวิต ดังนั้นที่ดินจึงไม่ควรถูกออกแบบให้กลายเป็นสินค้าหรือวัตถุที่เอาไว้สำหรับเก็งกำไรเพื่อให้คนมั่งมีเก็บเอาไว้เป็นจำนวนมหาศาล
    "ที่ดินไม่เหมือนกับนาฬิกา เพชร แก้ว แหวน ที่เก็บไว้ก็ไม่ได้เดือดร้อนใคร แต่ที่ดินถ้าเก็บไว้มากๆ กระทบต่อการทำมาหากินของคนที่ไม่มีที่ดินทำกิน ไม่ควรมีกองทัพ ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ จำนวนมากถือที่ดินจำนวนมหาศาลเก็บเอาไว้ไม่ได้ทำอะไร ประชาชนเข้าไปยุ่งเกี่ยวไม่ได้ แต่เก็บไว้อย่างนั้น และยังมีเศรษฐีจำนวนมากที่มีที่ดินมากสุดลูกหูลูกตา ในขณะที่พี่น้องประชาชนที่มีที่ดินเป็นปัจจัยการผลิต กว่าจะได้ที่ดินมาทำกินแต่ละตารางกิโลเมตรยากเย็นแสนเข็ญเหลือเกิน แต่กับคนบางกลุ่มมีเงินก็ไปกว้านซื้อได้"
    นายปิยบุตรกล่าวว่า แนวทางการแก้ไขปัญหามีทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว ขั้นแรกต้องยุติการดำเนินคดีกับพี่น้องประชาชนเป็นการชั่วคราวก่อน โดยเฉพาะจากนโยบายทวงคืนผืนป่า เพราะเราไม่สามารถมีเวทีพูดคุยกันได้อย่างจริงจัง ตราบใดที่เจ้าหน้าที่ยังจับพี่น้องประชาชน จับเข้าคุกดำเนินคดีขึ้นโรงขึ้นศาลอยู่ ข้อที่สองคือบรรดาประกาศคำสั่งต่างๆ ของ คสช. ที่ออกมาทวงคืนผืนป่าต้องยกเลิกทิ้ง เพราะประกาศคำสั่ง คสช.เหล่านี้ มีเกราะคุ้มกันไว้ว่าเขียนยังไงก็ถูกเสมอ ตรวจสอบไม่ได้ อำนาจต่อรองของพี่น้องก็ไม่มี เพราะเขาทำอะไรก็ถูก ข้อที่สามคือต้องเอาเจ้าหน้าที่ทหาร-กองทัพออกไปจากปัญหาที่ดินให้หมด
    "กองทัพมีหน้าที่ป้องกันประเทศรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักร แต่ทำไมกองทัพประเทศไทยต้องมายุ่งกับเรื่องที่ดิน ป่าไม้ตามนโยบายทวงคืนผืนป่า เวลาเปิดโต๊ะเจรจาจะมีตัวแทนจาก กอ.รมน.มานั่งด้วยทุกครั้ง เพราะเขามองเรื่องที่ดินเป็นเรื่องความมั่นคงของรัฐ จึงให้ทหารมาตีเส้นแบ่งเรื่องที่ดินได้ แต่ในปัจจุบันปัญหาเรื่องที่ดินทำกินไม่ใช่เรื่องความมั่นคงของรัฐ แต่เป็นเรื่องของความมั่นคงในชีวิตของพี่น้องประชาชนต่างหาก ต้องให้รัฐบาลพลเรือนจัดการ ไม่ใช่ทหาร"
    ระยะกลางต้องมีการเก็บภาษีที่ดินแบบก้าวหน้า เพื่อจะส่งผลให้คนที่ถือครองที่ดินมากๆ กักตุนที่ดินไว้ ต้องกระจายที่ดินออก รวมทั้งต้องออกแบบการถือครองที่ดินเชิงโครงสร้าง ขณะนี้การแก้ไขปัญหาที่ดินส่วนมากเป็นการแก้ไขเป็นกรณีๆ ไป เช่น ชุมชนบ่อแก้ว ต่อสู้มา 11 ปี เมื่อทำสำเร็จก็ถือเป็นต้นแบบให้ที่อื่นๆ แต่สุดท้ายไม่เคยแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างภาพใหญ่เลย พอต่อสู้ตรงนี้จบก็ต้องไปสู้ที่ใหม่ หรือพอสู้ๆ ไปมีปัญหาใหม่อีกก็ต้องสู้ใหม่อีก สรุปคือมือขวาต้องทำมาหากิน มือซ้ายต้องเตรียมไว้ต่อสู้ว่าจะเอาที่ดินไปเมื่อไหร่
    นายปิยบุตรกล่าวว่า ระยะยาวต้องแก้ไขเรื่องความซับซ้อนของการถือครองที่ดิน ต้องแบ่งให้มีน้อยประเภท ประเทศไทยมีการแบ่งที่ดินหลายประเภทมาก เพราะรัฐมีแนวคิดว่ารัฐเป็นเจ้าของที่ดินหมด เอกชนเป็นเจ้าของได้ แต่ที่เหลือถือว่ารัฐเป็นเจ้าของหมด พี่น้องประชาชนที่ต้องใช้ที่ดินจึงต้องมาถูกจัดแบ่งเป็นประเภทๆ เราต้องมาทบทวนว่าแทนที่จะแบ่งแค่ว่าที่ดินเป็นของเอกชนกับรัฐ ต้องมาดูวิธีการจัดการที่ดินแบบใหม่ๆ อย่างการจัดการแบบสมบัติร่วม คือให้ทุกคนใช้ประโยชน์ร่วมกัน ไม่ต้องเป็นของใคร หลายประเทศเริ่มวิธีคิดแบบนี้แล้ว เราต้องเอามาเริ่มบ้าง.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"