ลองของปักหลักค้างคืน! สนท.-กลุ่มเยาวชนปลดแอก ฝ่า พ.ร.ก.ฉุกเฉินชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ปราศรัยเดือด มีตุลา พฤษภา เป็นต้นแบบ โวลั่น! อีก 10 ปีข้างหน้าลูกหลานจะบอกว่าเราคือ 2563 โมเดล สุดท้ายยอมรับไม่พอใจยุบอนาคตใหม่ มีงูเห่าโผล่ "ธนาธร-วัฒนา" ยุเด็กลงถนน ให้กำลังใจสู้กับเผด็จการ "ศรีสุวรรณ" พลิกกฎหมายเตือนเตรียมตัวคุก 2 ปี

    เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2563 กลุ่มสหภาพนักเรียนนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย หรือ สนท. และกลุ่มเยาวชนปลดแอก- Free YOUTH.) นำโดยนายทัตเทพ เรืองประไพกิจเสรี เลขาธิการกลุ่มเยาวชนปลดแอก, น.ส.จุฑาทิพย์ ศิริขันธ์ ประธาน สนท. จัดกิจกรรมเคลื่อนไหวทางการเมือง รวมตัวจัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์เพื่อแสดงออกแนวคิดทางการเมือง ในเวลา 17.00 น. ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ซึ่งเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวมทั้งไม่มีการขออนุญาตชุมนุมตาม พ.ร.บ.การชุมนุมแต่อย่างใด
    พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผยว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. มีความเป็นห่วงเป็นใยกลุ่มบุคคลและเยาวชนที่จะออกมาแสดงความเคลื่อนไหวในบริเวณดังกล่าว โดยมอบหมายให้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสสร์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. กำกับดูแลความสงบเรียบร้อย ตลอดจนการกระทำที่เป็นความผิดต่อกฎหมาย พร้อมเน้นย้ำเจ้าหน้าที่ตำรวจบังคับใช้กฎหมาย โดยยึดหลักนิติศาสตร์และรัฐศาสตร์ควบคู่กัน
    สำหรับการแสดงออกทางการเมืองนั้น สามารถกระทำได้ หากมีความคิดเห็นที่แตกต่าง แต่ต้องกระทำโดยไม่ขัดต่อกฎหมาย หรือไปละเมิด กระทบสิทธิผู้อื่น โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่อยู่ภายใต้ การประกาศ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินฯ ในการป้องกันการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) รวมถึงการแสดงพฤติกรรม การแสดงความคิดเห็นที่ไม่สร้างสรรค์ ในลักษณะที่หยาบคาย ก้าวร้าว สร้างความเกลียดชัง ใส่ร้ายป้ายสีผู้หนึ่งผู้ใด เป็นสิ่งที่ไม่ดี และไม่สมควรกระทำ เพราะเข้าข่ายความผิดต่อกฎหมายบ้านเมืองได้
    รองโฆษก ตร.กล่าวต่อว่า ขอฝากเตือนไปยังบุคคลและเยาวชนที่จะออกมาจัดกิจกรรมในครั้งนี้ โปรดใช้วิจารณญาณในการแสดงความคิดเห็นและการแสดงออก ประกอบกับการกระทำที่เป็นความผิดต่อกฎหมายต่างๆ และการฝ่าฝืน พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินฯ ขอให้ปฏิบัติตามประกาศ ข้อกำหนด และมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคจากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง เพื่อช่วยให้ประเทศไทยกลับมาสู่ภาวะปกติ ผ่านพ้นช่วงเวลาที่วิกฤติไปได้ในเร็ววัน
    ด้านนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เผยว่า การจัดการชุมนุมดังกล่าว ผู้จัดคงรู้แจ้งแล้วว่าเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย โดยเฉพาะ ม.9 (2) แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 2548 ซึ่งบัญญัติไว้ชัดเจนว่า “ห้ามมิให้มีการชุมนุมหรือมั่วสุมกัน ณ ที่ใดๆ หรือกระทําการใดอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย” ซึ่งสอดรับกับข้อกำหนด ฉบับที่ 1 ข้อ 5 และฉบับที่ 2 ข้อ 2(2) มีอัตราโทษตาม ม.18 จำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนั้นยังมีกฎหมายอื่นอีกมากที่จะสามารถเอาผิดกับผู้จัดการชุมนุมและผู้ชุมนุมได้ อาทิ พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง 2493 พ.ร.บ.จราจรทางบก 2522 รวมทั้งประมวลกฎหมายอาญา ม.215 ฐานมั่วสุมกันเกินกว่าสิบคนหรือก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง
"ธนาธร"ยุเด็กลงถนน
    ดังนั้น เมื่ออำนาจตาม พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะตกมาอยู่ในการบังคับของนายกรัฐมนตรี และ ศบค. ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 2548 และยังไม่ได้มีการยกเลิกการประกาศใช้ พ.ร.ก.ดังกล่าวแล้ว แกนนำที่จะขึ้นเวทีทุกคนก็จงเตรียมตัวเตรียมใจถูกดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปเถิด แล้วอย่ามาฟูมฟายว่าถูกรังแกจากอำนาจรัฐเลย เพราะถ้าตำรวจไม่จับกุมดำเนินคดี ก็อาจถูกข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตาม ป.อ.157 ได้ แม้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินสมควรที่จะยกเลิกได้แล้ว แต่ในขณะนี้รัฐบาลเขายังไม่ยอมยกเลิก แม้เราจะไม่ชอบ พ.ร.ก. แต่กฎหมายก็ต้องเป็นกฎหมาย
    ขณะที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ให้สัมภาษณ์ว่า ขนาดไม่ได้ไปร่วมกิจกรรมใดๆ ก็ยังถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ชักใย สนับสนุน ทั้งนี้ ตนมองว่านักศึกษาทำกิจกรรมด้วยเจตจำนงที่แน่วแน่ พวกเราไม่ได้มีส่วนเข้าไปร่วมตัดสินใจ ดังนั้นจึงไม่ได้ไปเข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้ เนื่องจากกลัวว่าไปแล้วจะถูกกล่าวหาว่าอยู่เบื้องหลัง เป็นผู้ชักใย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ได้ให้กำลังใจ
    "ผมขอส่งกำลังใจให้กับนักศึกษาและประชาชนที่ต้องการเรียกร้องให้ประเทศไทยกลับสู่ประชาธิปไตย ต่อสู้กับเผด็จการ รวมถึงเชิญชวนประชาชนที่ได้ยินเสียงผม ขอให้สนับสนุนกลุ่มนักศึกษากลุ่มนี้ด้วย ขอให้ประชาชนไปร่วมชุมนุมในครั้งนี้ เพื่อแสดงออกว่าเราไม่ต้องการรัฐบาลที่มาจากการสืบทอดอำนาจ การทำรัฐประหาร และต้องการให้ประเทศเดินกลับสู่ประชาธิปไตย" นายธนาธรกล่าว
    เมื่อถามถึงกรณีที่คารวะ 2 นักเคลื่อนไหวที่มาชูป้ายขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ด้วยคำหยาบระหว่างลงพื้นที่ จ.ระยอง จนถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าสนับสนุนการใช้คำหยาบคาย นายธนาธรกล่าวว่า การแสดงออก การวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล ไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมาย เป็นสิ่งที่ชอบธรรมในระบอบประชาธิปไตย ในต่างประเทศเวลาเคลื่อนไหวก็มีการใช้คำที่รุนแรงมากกว่านี้ และมองว่าการเคลื่อนไหวนี้ไม่ใช่เรื่องการใช้คำหยาบ แต่มองว่าเป็นความกล้าหาญในการท้าทายอำนาจที่ไม่เป็นธรรม
    "ทุกวันนี้คนที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาล ก็ถูกคุกคาม ยัดข้อหา ยัดคดี ซึ่งเป็นสิ่งที่คนธรรมดากลัว ดังนั้นจึงต้องปกป้องกันและกัน และขอบคุณคนที่กล้าหาญที่ลุกขึ้นมาพูดในสิ่งที่คนทั่วไปไม่กล้า เพราะเขาพูดแทนคนส่วนใหญ่ของประเทศ" ประธานคณะก้าวหน้ากล่าว
    นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย แสดงความเห็นว่า เห็นด้วยว่าพลเอกประยุทธ์คือตัวปัญหาของประเทศ หากปล่อยให้บริหารบ้านเมืองต่อจะสร้างความเสียหายไม่รู้จบ เพราะนอกจากจะอุดมไปด้วยความว่างเปล่าทางสติปัญญาแล้ว ยังมีทัศนคติที่ไม่ดีต่อระบอบประชาธิปไตยและการปรองดอง เห็นได้จากการแต่งตั้งคณะกรรมการปฏิรูปประเทศที่เต็มไปด้วยกลุ่มคนที่เคยเป่านกหวีดเรียกร้องให้พลเอกประยุทธ์ยึดอำนาจ ซึ่งนอกจากจะเป็นการตอกลิ่มความขัดแย้งให้เพิ่มมากขึ้น ยังแสดงถึงความไม่จริงใจในการปฏิรูป
    เขาระบุว่า ต้นตอของปัญหาคือรัฐธรรมนูญที่ออกแบบมาเพื่อให้พลเอกประยุทธ์สืบทอดอำนาจ หากมีการยุบสภาเพื่อให้มีการเลือกตั้งใหม่ก็จะได้พลเอกประยุทธ์ หรือคนแบบพลเอกประยุทธ์กลับเข้ามาทำความเสียหายให้บ้านเมืองอีก ดังนั้น ควรแก้ไขหรือร่างรัฐธรรมนูญใหม่ก่อนแล้วยุบสภา ขอย้ำว่าการชุมนุมเป็นเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญและเป็นกิจกรรมที่ได้รับการผ่อนผันให้ทำได้ในระหว่างการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
ฝ่าพรก.ฉุกเฉินจัดชุมนุม
    "ขอให้กำลังใจทุกท่าน ขอให้ปลอดภัย ขอให้ข้อเรียกร้องสำเร็จ และขอเรียกร้องมายังตำรวจให้เคารพสิทธิและเสรีภาพของประชาชน จะได้ไม่มีคดีติดตัวหลังเกษียณ เพราะเผด็จการอีกไม่นานก็ไป จะไม่มีใครคุ้มกะลาหัวให้" แกนนำพรรคเพื่อไทยรายนี้กล่าว
    ต่อมาเวลา 15.30 น. ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ?ถนนราชดำเนิน พ.ต.อ.อัศวยุทธ นุชพุ่ม รอง ผบก.น.6 กล่าวถึงการชุมนุมว่า ตำรวจได้จัดกองร้อยน้ำหวานจำนวนหนึ่งจากกองกำกับการอารักขาและควบคุมฝูงชนไว้คอยดูแลรักษาความปลอดภัยของมวลชนที่มาชุมนุม สำหรับโรงพักท้องที่ จะมีตำรวจ สน.ชนะสงครามกับ สน.สำราญราษฎร์ และตำรวจจราจรกลางเข้าอำนวยการจราจร ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ไม่ได้เข้ามาห้ามหรือปราบปรามการชุมนุม แต่จะมาชี้แจงกลุ่มผู้ชุมนุมให้ปฏิบัติตามแนวทางควบคุมโรค ตามประกาศใน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยให้ผู้ชุมนุมเว้นระยะห่างจากกัน
    พ.ต.อ.อัศวยุทธกล่าวต่อว่า ส่วนบริเวณฐานอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยนั้น มีเจ้าหน้าที่นำต้นไม้มาประดับตกแต่งใหม่ เพื่อเปลี่ยนจากของเดิมที่ปลูกไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปคอยกันไม่ให้กลุ่มมวลชนเข้าไปเหยียบย่ำจนเกิดความเสียหาย
    ขณะที่ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มมวลชนหลากหลายช่วงอายุ ตั้งแต่วัยรุ่นไปจนถึงวัยสูงอายุ? ซึ่งส่วนใหญ่ต่างสวมชุดสีดำตามธีมที่กลุ่มผู้จัดนัดหมายไว้ เริ่มเข้าพื้นที่เพิ่มมากขึ้นจนแน่นหน้าทางเดินร้านอาหารแมคโดนัลด์ ซึ่งนับเป็นการชุมนุมทางการเมืองครั้งใหญ่ครั้งแรก หลังมีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยตลอดระยะเวลาเกือบครึ่งปีที่ผ่านมา
    มีกลุ่มผู้จัดการชุมนุมนำโครงเหล็กมาเตรียมตั้งเวทีพากันลงจากรถกระบะ ก่อนวิ่งไปกลางถนน ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมรายอื่นๆ ที่อยู่ในเขตแนวกั้นของเจ้าหน้าที่บนบาทวิถีล้มแผงกั้นแล้วตามลงถนนกันไปจนปิดช่องทางจราจรเหลือ 2 ช่อง ส่งผลให้การจราจรติดขัด
    ต่อมา นายพริษฐ์ ชีวารักษ์ แกนนำกลุ่มสหภาพนักเรียนนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย(สนท.) ขึ้นกล่าวปราศรัยว่า การมารวมตัวกันวันนี้ เป็นสัญญาณเตือนถึงรัฐบาลว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉินถูกนำมาใช้ควบคุมประชาชน ยิ่งนำกฎหมายมาใช้ในทางที่ไม่ชอบ วันหนึ่งไม่ว่ากฎหมายใดก็จะหมดความศักดิ์สิทธิ์ ขอให้ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินทันที ไม่เช่นนั้นประชาชนจะออกมายกเลิกเอง
    จากนั้นนายอานนท์ นำภา ทนายความด้านสิทธิมนุษยชน ปราศรัยว่า กลุ่มบุคคลที่ไม่ได้มาร่วมชุมนุม ได้แก่ ผู้ลี้ภัยทางการเมือง นักโทษการเมือง ที่ผ่านมาเผด็จการรังแกผู้เห็นต่าง เด็กมัธยมถูกทหารพาตัวขึ้นคุกคาม เซ็นสัญญาไม่เคลื่อนไหวทางการเมือง
    "เรามาถึงจุดนี้เพราะบ้านเมืองมีอภิสิทธิ์ชน เคยมีผู้ปรามาสว่า อย่างมากเป็นได้แค่ฮ่องกงโมเดล ผมอยากบอกว่าเราไม่มีฮ่องกงโมเดล มีแต่ตุลา พฤษภา และใน 10 ปีข้างหน้า ลูกหลานจะบอกว่าเราคือ 2563 โมเดล"
    นายอานนท์ยังปราศรัยว่า วันนี้ทุกคนมารวมตัวกัน เป็นภาพที่สวยงาม เกือบ 10 ปีที่ประชาชนไม่ได้กลับมาบนถนนราชดำเนิน ข้อเรียกร้องของพวกเราเป็นไปตามกฎหมายทุกประการ การขอให้ยุบสภา เพราะรัฐบาลมาจากการเลือกตั้งที่ไม่ชอบธรรมตั้งแต่แรก มีการยุบพรรคอนาคตใหม่ที่ประชาชนเลือก เราได้เห็น ส.ส.งูเห่า ขอครั้งหน้าอย่าเลือกอีก เราขอเรียกร้องให้ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ไม่มีรัฐธรรมนูญไหนให้เผด็จการตั้ง ส.ว. เลือกตัวเองเป็นนายกฯ ถ้ามีการเลือกตั้งใหม่ ต้องเลือก ส.ส.น้ำดี อย่าให้ ส.ว.มาโหวตเลือกนายกฯ นี่คือภาระหน้าที่ของพวกเรา
    ต่อมาในช่วงค่ำ นายพริษฐ์กล่าวระหว่างเดินในพื้นที่การชุมนุม หลังกลุ่มผู้ชุมนุมขยายพื้นที่การชุมนุมจากอนุสาวรีย์ประขาธิปไตย มาถึงบริเวณแยกคอกวัวว่า จะปักหลักชุมนุมค้างคืน พร้อมทั้งนายอานนท์ได้โพสต์ข้อความเชิญชวนผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า แกนนำประกาศปักหลักชุมนุมค้างคืน ท่านที่เพิ่งเลิกงานหรืออยู่ที่บ้านจะตามมาชุมนุมยังมาได้เรื่อยๆ
    ทั้งนี้ มีผู้มาร่วมชุมนุมเดินทางเข้ามาในช่วงค่ำนับพันคน ทำให้ต้องปิดการจราจรตั้งแต่แยกคอกวัวไปจนถึงแยกป้อมมหากาฬ ( สะพานผ่านฟ้าลีลาศ) ส่วนกิจกรรมในพื้นที่การชุมนุม มีการปราศรัยสลับการเล่นดนตรีอย่างต่อเนื่อง.