'ดร.อาทิตย์'อธิบายทำไมต้องมีพระมหากษัตริย์ เราจึงไม่ควรลองผิดลองถูกแบบกบเลือกนาย


เพิ่มเพื่อน    

17 ก.ค.63-อาทิตย์ อุไรรัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิต และอดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Arthit Ourairat ระบุข้อความว่า

เราบอกว่า
ประเทศไทยปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
แต่พระมหากษัตริย์เป็นแค่สัญลักษณ์
ไม่ต้องลงมายุ่งเกี่ยวกับบ้านเมือง การเมือง การปกครอง การบริหาร
การเมือง การปกครอง การบริหาร เป็นเรื่องของฝ่ายการเมือง การบริหาร เท่านั้น
แต่พอเวลามีปัญหา เกิดวิกฤตใดใดขึ้นมา ที่ประเทศชาติประชาชนเดือดร้อน เราก็เรียกร้อง ถามหาว่าพระมหากษัตริย์ ทำไมไม่ช่วยแก้ใข ไม่ลงมาดูแลทุกข์สุขของประเทศชาติและประชาชน
หนักไปกว่านั้น บางคนถึงกับตั้งคำถามว่า
“มีพระมหากษัตริย์ไว้ทำไม”

พอฝ่ายการเมือง ฝ่ายบริหาร มีปัญหา ไม่สามารถบริหารบ้านเมืองให้อยู่เย็นเป็นสุขได้ เราก็วิพากษ์วิจารณ์ โจมตีตำหนิติติงฝ่ายการเมือง การบริหารไม่พอ

เราเลยเถิดขึ้นไปโจมตี พระมหากษัตริย์ด้วย

พระมหากษัตริย์ในราขวงศ์จักรีทุกพระองค์ ทรงรักและห่วงใยประเทศชาติและประชาชนทั้งสิ้น และรัชกาลที่ ๗ ก็เตรียมการที่จะพระราชทานรัฐธรรมนูญเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ตามแบบฉบับของท่านที่เห็นว่าดีงามเหมาะสมกับประเทศสยามที่สุด อันเปรียบได้กับประเทศภูฏาน ที่ได้ร่วมปรึกษาหารือและร่วมร่างรัฐธรรมนูญกับประชาชน และพระราชทานให้แก่ประเทศชาติและประชาชน และมีการเลือกตั้งมาโดยเรียบร้อยทุกครั้งจนปัจจุบัน

แต่ก็ไม่ทันใจคณะราษฎร์ ที่ทำการรัฐประหารยึดอำนาจเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี 2475

ซึ่งคณะราษฎร์ก็ไม่ต่างจากคณะทหารที่ทำการรัฐประหารต่อมาทุกครั้ง ที่ใช้กำลังยึดอำนาจและร่างรัฐธรรมนูญแบบสุกเอาเผากินชนิดที่เห็นว่าเป็นประโยชน์แก่พวกตนมากที่สุด โดยไม่คำนึงว่าจะเป็นธรรมและเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชนส่วนรวมที่เป็นเจ้าของประเทศที่แท้จริงอย่างไรเพียงใดหรือไม่

พระมหากษัตริย์ก็ทรงหวานอมขมกลืน จำใจยินยอมทำตามที่คณะราษฎร์และคณะรัฐประหารทุกชุดที่ทำตลอดมา โดยไม่อยากให้เกิดการขัดแย้งนองเลือดขึ้นในประเทศ แต่มิได้หมายความว่าพระมหากษัตริย์จะไม่ห่วงใยหรือทรงทอดทิ้งประเทศชาติและประชาชน พระมหากษัตริย์ก็ต้องระมัดระวังตัวจากการปองร้ายและทำลายจากฝ่ายที่ต้องการจะล้มล้างตลอดเวลา แม้การทำลายล้างหรือล้มล้างจะเปลี่ยนรูปแบบไปหลายรูปแบบ ทั้งการใช้อาวุธหรือกำลังประทุษร้ายโดยตรงซึ่งทำได้ยากขึ้นในปัจจุบัน แต่การทำลายล้างโดยใช้เครื่องมือต่างๆที่ให้เกิดความเกลียดชังพระมหากษัตริย์ หรือใช้พระมหากษัตริย์เป็นเครื่องมือทั้งทางตรงและทางอ้อมเพื่อเป็นการบ่อนทำลาย ก็มีมาก เช่นเรื่องการใช้มาตรา 112 กลั่นแกล้งศัตรูทางการเมืองโดยเป็นการปิดปากพระมหากษัตริย์และพระมหากษัตริย์มิได้ทรงเห็นชอบในการดำเนินการเหล่านั้นด้วย แต่ก็ได้สร้างความเข้าใจผิดให้แก่ประชาชนทั่วไปและสร้างให้เกิดความเกลียดชังต่อสถาบันพระมหากษัตริย์

ประเทศ ทุกประเทศ ต้องมี ประมุขสูงสุด

ประเทศไทยหรือสยาม ของเรา มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขมาโดยตลอดซึ่งถือว่าเป็นรูปแบบที่ดีที่สุดและเหมาะสมที่สุดสำหรับประเทศของเรา

ประเทศที่มีประมุขมาจากการเลือกตั้ง ก็ใช่ว่าจะดีกว่าหรือเหมาะสมกว่าประเทศเรา ล้มลุกคลุกคลาน จลาจลกลียุคจนแทบล่มสลายก็มากมายหลายประเทศ

ประเทศเราจึงไม่ควรลองผิดลองถูกเป็นแบบ กบเลือกนาย

แต่สมควรจะพิจารณาพินิจพิเคราะห์ศึกษาให้ลึกซึ้งและถ่องแท้ว่า
การที่ประเทศเราสงบสันติสุขผ่านพ้นวิกฤติมามากมายหลายครั้ง แต่ยังมีความมั่นคง ยั่งยืน สงบสุขและเจริญรุ่งเรืองมาได้จนถึงทุกวันนี้ จะมีรูปแบบการปกครองไหนที่ดีกว่านี้ไหม

การเมือง ที่เราต้องการให้เป็นประชาธิปไตย โดยมีนักการเมืองที่ดีงาม เสียสละเพื่อมารับใช้ประเทศชาติและประชาชน เป็นผู้มีความสามารถ ซื่อสัตย์สุจริต แท้จริงหรือไม่

อย่าดูเพียงผิวเผินเปลือกนอก หรือประชาชนถูกใช้เป็นเครื่องมือให้คนไม่ดีจริงเข้ามาเพื่อแสวงหาอำนาจและผลประโยชน์ของตนเป็นหลัก

และหลอกให้ประชาชนเราแตกแยกขัดแย้งทะเลาะบาะแว้งกันเอง

โดยหารู้ไม่ว่า ประชาชนก็เหมือนกับ
“ไก่ในกะชุ ที่จิกกันตลอทาง โดยไม่รู้อนาคตของตัวเอง”

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"