"บิ๊กตู่" หอบคณะลงพื้นที่ศรีสะเกษ กินทุเรียนภูเขาไฟคลายทุกข์การเมือง อ้อนชาวบ้านร่วมสร้างความสงบเรียบร้อยไม่ขัดแย้ง อย่าหลงเชื่อข้อมูลบิดเบือนบนโซเชียล ไหว้พระขอพรหลวงพ่อตาตนปางสะดุ้งมาร
เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม เวลา 07.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย, นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ, นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม และนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ อดีต รมว.คมนาคม ร่วมคณะมาด้วย ท่ามกลางกระแสข่าวปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง ไปลงที่ท่าอากาศยานทหารกองบิน 21 จ.อุบลราชธานี เพื่อไปตรวจราชการ จ.ศรีสะเกษ
ทั้งนี้ เวลา 10.15 น. พล.อ.ประยุทธ์และคณะได้เดินทางมายังสวนทุเรียนทับทิม เพื่อตรวจเยี่ยมการปรับวิถีชีวิตภายใต้มาตรฐานใหม่นิวนอร์มอล และการพัฒนาเศรษฐกิจของพื้นที่ ผ่านการเยี่ยมชมวิถีเกษตรแบบครบวงจร โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดและเกษตรกร ในพื้นที่ให้การต้อนรับ โอกาสนี้ นายกฯ ได้มอบประกาศกรมทรัพย์สินทางปัญญาเรื่องการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์หอมแดงและกระเทียมศรีสะเกษให้กับตัวแทนเกษตรกร พร้อมพบปะเกษตรกรกลุ่มคนรุ่นใหม่กันทรลักษ์ และกลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ เพื่อพัฒนาเครือข่ายสมาชิกและธุรกิจเกี่ยวกับการบริหารเกษตรแบบครบวงจรอย่างยั่งยืน
โดยระหว่างนายกฯ เยี่ยมชมสวนทุเรียน พูดด้วยสีหน้านิ่งๆ ว่า “ขอวันนี้มีความสุขหน่อยนะ” ก่อนจะตัดทุเรียนจากต้นที่ทางสวนได้จัดเตรียมไว้และชิมทุเรียน จากนั้นกล่าวว่า ดีใจที่มาพบปะกับพวกเรา เราคุ้นเคยกันอยู่แล้ว ทุกอย่างที่รัฐบาลทำมามีความก้าวหน้ามาตลอด อะไรไม่ดีก็ปรับปรุงแก้ไข ที่ผ่านมารัฐบาลพัฒนาเรื่องถนน เรื่องแหล่งน้ำไปเยอะ มีหลายร้อยโครงการที่เตรียมไปถึงปี 65 ถ้ามีอะไรเร่งด่วนจะเพิ่มเติมให้ตามงบที่มีอยู่
"วันนี้ดีใจได้มาพูดคุยในบรรยากาศไม่เป็นทางการ นายกฯ ก็เป็นชาวบ้านเหมือนประชาชนคนหนึ่ง ถ้าชาวบ้านมีความสุข ผมก็มีความสุขไปด้วย ผมไม่ต้องการอะไร แต่เราต้องเดินสู่อนาคต ทำต่อเนื่องทุกๆ ปี ยุทธศาสตร์ชาติมีความจำเป็น อะไรที่เป็นหลักต้องทำต่อ ส่วนที่มองกันว่าไกลเกินไปนั้น เราต้องคิดถึงลูกหลาน การขับเคลื่อนต้องรวดเร็วขึ้นตามแบบชีวิตวิถีใหม่ เพราะหลายอย่างช้าเกินไป ต้องมีการแก้กฎหมาย สภาต้องแก้ให้ผม โดยเฉพาะในเรื่องการค้าการลงทุน วันนี้ต่างชาติก็ให้การยอมรับ ขอแค่บ้านเมืองสงบเรียบร้อย มีเสถียรภาพ ไม่มีความขัดแย้ง ผมขอแค่นี้ จะได้มีกำลังใจทำงานต่อไป บางทีเรื่องเล็กน้อยก็เป็นเรื่องได้ทุกเรื่อง เพราะวันนี้เป็นโลกยุคใหม่ ก็มีทั้งคนที่เข้าใจและไม่เข้าใจ ก็ต้องช่วยสร้างความเข้าใจให้คนอื่นด้วย ที่มีการส่งต่อกันมาในโซเชียลมีเดีย จริงหรือไม่จริงก็ไม่รู้ มันก็อันตราย ผมก็ไปห้ามใครไม่ได้อยู่แล้ว" พล.อ.ประยุทธ์ระบุ
ในช่วงท้ายมีชาวบ้านร้องเรียนปัญหาหนี้นอกระบบ โดยนายกฯ กล่าวว่า ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนจะสั่งการให้ตำรวจในพื้นที่ไปเดินแก้ปัญหาให้หมด และจะสั่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้ดำเนินการยึดทรัพย์ให้หมด ยึดให้ถึงตระกูล ไม่ใช่ตัวเล็กตัวน้อยอย่างเดียว รวมทั้งเรื่องยาเสพติดด้วย ซึ่งการทุจริตคอร์รัปชันหรือใครโกง ไม่ว่าจะเป็นทหารหรือตำรวจ ขอให้ประชาชนส่งข้อมูลมาให้ตน จะจับมันให้ดู แต่ประชาชนต้องไว้ใจตำรวจและทหาร ไม่เช่นนั้นก็จะเป็นอยู่อย่างนี้ ถ้ามัวระแวงและไม่ไว้ใจกัน และถ้ามีคนเลวอยู่ ต้องเอาออกให้หมด พอใจหรือไม่ เพราะมีอยู่แล้วทั้งคนดีและคนเลว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การลงพื้นที่ของนายกฯ และคณะครั้งนี้ ถือเป็นการลงพื้นที่ต่างจังหวัดครั้งแรก หลังจากมีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ขณะที่โฆษกประจำสำนักนายกฯ ได้นำพัด “รวมไทย สร้างชาติ” ที่ระบุช่องทางสื่อสารข้อมูลข่าวสารรัฐบาลในทุกช่องทางและถุงผ้าไทยคู่ฟ้ามาแจกให้กับเกษตรกร นักธุรกิจ และประชาชนด้วย
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์และคณะเดินทางไปยังวังชมภูรีสอร์ท อ.กันทรลักษ์ เพื่อรับประทานอาหารกลางวัน ต่อมาเดินทางไปยังโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน บ้านหนองใหญ่ ต.รุง อ.กันทรลักษ์ เพื่อพบครู นักเรียนและผู้ปกครอง และตรวจเยี่ยมการพัฒนาการเรียนการสอนช่วงเปิดภาคเรียน ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ตามนโยบายการป้องกันของรัฐบาล โดยมีอธิบดีกรมอนามัยรายงานความก้าวหน้าการดำเนินการดังกล่าว
ขณะที่ในช่วงบ่าย นายกฯ และคณะเดินทางไปที่วัดสำโรงเกียรติ อ.ขุนหาญ เพื่อตรวจเยี่ยมการพัฒนาเชิงพื้นที่ด้วยโครงการพลังบวร (บ้าน วัดและโรงเรียน) โอกาสนี้ยังได้สักการะหลวงพ่อตาตน พระพุทธรูปปางสมาธิสะดุ้งมารแบบขอม และนมัสการพระอธิการอุทัย มหาปุญโญ เจ้าอาวาสวัดสำโรงเกียรติด้วย ทั้งนี้ นายกฯ ยังได้ร่วมปลูกต้นทุเรียนภูเขาไฟที่ถือว่าเป็นผลไม้เศรษฐกิจของ จ.ศรีสะเกษด้วย
ด้านนายอาคมปฏิเสธว่า นายกฯ ไม่ได้มีการทาบทามให้มาดำรงตำแหน่งใน ครม. ตอนนี้ตนเป็นเพียงชาวบ้าน และมาวันนี้ในฐานะคนศรีสะเกษ มานำเสนอผลงานโครงการทำถนนที่ได้ผลักดันจนแล้วเสร็จในพื้นที่อีสานใต้
ต่อมาเวลา 14.00 น. พล.อ.ประยุทธ์และคณะตรวจเยี่ยมการพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) ตามนโยบายการป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 และเยี่ยมชม “New Normal วิถีชีวิตใหม่บริบทโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน” พร้อมรับฟังรายงานภารกิจตามมาตรการผ่อนปรนในการป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 และการดำเนินการหลังเปิดภาคเรียนของโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน บ้านหนองใหญ่ อำเภอกันทรลักษ์ ตามมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยมีผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ผู้กำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 22 อุบลราชธานี และครูโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน บ้านหนองใหญ่ ให้การต้อนรับ
พร้อมกันนี้ นายกฯ ได้พบปะทักทายครู นักเรียน และผู้ปกครองของโรงเรียน และติดตามการขับเคลื่อนพื้นที่นวัตกรรมทางการศึกษาของจังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งจังหวัดศรีสะเกษเป็น 1 ใน 8 จังหวัด นำร่องในพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา ในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ปฏิรูปการศึกษาของนายกรัฐมนตรี โดยนายกฯ กำชับให้ครูแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน ให้เกิดการยอมรับ และขอให้ทำงานเป็นทีมสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง พร้อมกับพัฒนาตัวเองไปพร้อมกับเด็กนักเรียน ครูเป็นหน้าที่ที่สำคัญ เปรียบเหมือนพ่อแม่คนที่ 2 ต้องหมั่นคอยสังเกตว่าเด็กแต่ละคนมีความถนัดด้านไหน และส่งเสริมให้ถูกทาง ในส่วนของนักเรียน ขอให้รักษาสุขภาพให้แข็งแรง กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ และตั้งใจเรียน รักพ่อแม่ รักคุณครูให้มาก โตขึ้นมาเป็นเยาวชนที่ดี เป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าของประเทศ
โอกาสนี้ พล.อ.ประยุทธ์ได้สอนเทคนิคการวาดต้นไม้ให้กับเด็กนักเรียนว่า ต้องวาดองค์ประกอบของต้นไม้ให้ครบ ถึงจะเป็นต้นไม้ที่สมบูรณ์ พร้อมกับแนะวิธีการแปรงฟันสูตร 2 คูณ 2 คือแปรงฟันวันละ 2 ครั้ง ครั้งละ 2 นาที พร้อมกับให้เปิดน้ำใส่ภาชนะในการแปรงฟันจะได้ช่วยกันประหยัดน้ำ
จากนั้น นายกฯ ได้เยี่ยมชมโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน ตามพระราชดำริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ โดยได้ชื่นชม และขอให้ขยายโครงการไปยังโรงเรียนต่างๆ ด้วย.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |