16 ก.ค.2563 นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยถึงกรณีราคาหมูเนื้อแดงในหลายพื้นที่ขยับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องว่า กรมฯ ได้มีการติดตามอย่างใกล้ชิด และได้ประสานพาณิชย์จังหวัดให้ลงพื้นที่ตรวจสอบราคาจำหน่ายหน้าฟาร์มและในตลาดสดว่าราคาจำหน่ายอยู่ในราคาที่เหมาะสมหรือไม่ โดยที่ตกลงกันไว้ราคาหน้าฟาร์มต้องไม่เกินกิโลกรัม (กก.) ละ 80 บาท เพื่อให้ราคาหมูเนื้อแดงหน้าเขียงไม่เกินกก.ละ 150-160 บาท ส่วนที่ราคาปรับเพิ่มขึ้น เชื่อว่าเป็นระยะสั้นๆ เพราะมีความต้องการเพิ่มขึ้นจากการคลายล็อกดาวน์ เปิดสถานการศึกษา และมีความต้องการจากต่างประเทศ หลังจากเกิดโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรระบาด

“หากราคาพุ่งต่อเนื่องเกิน 2 สัปดาห์ ก็จะต้องใช้มาตรการอื่นๆ ในการเข้าไปควบคุมราคาไม่ให้สูงจนเป็นภาระของผู้บริโภค เช่น การจำกัดการส่งออกไปต่างประเทศ การร่วมมือกับสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติจำกัดราคาหน้าฟาร์ม การจัดงานธงฟ้าเพื่อจำหน่ายเนื้อหมูราคาถูก เป็นต้น”

อย่างไรก็ตาม ในการดูแลราคาเนื้อหมู ต้องดูแลทั้ง 2 ฝั่ง คือ ฝั่งผู้เลี้ยงและผู้บริโภค โดยขณะนี้ราคาหมูเป็นปรับสูงขึ้น ก็เป็นผลดีต่อเกษตรกร ที่ต้องแบกรับภาระราคาหมูตกต่ำมานาน และบางช่วงก็ขาดทุน หากราคาปรับขึ้นตามกลไกตลาด ก็ต้องเข้าใจ แต่ถ้าปรับขึ้นเกินจริง ก็จะเข้าไปดูแล เพื่อไม่ให้ผู้บริโภคได้รับผลกระทบ และไม่อยากให้ประชาชนเกิดความตื่นตระหนก โดยคาดว่าราคาจะค่อยๆ ปรับลงเป็นปกติในไม่ช้า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่าราคาหมูเนื้อแดงในหลายพื้นที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องไปถึงกก.ละ 170-180 บาท จากราคาหมูเป็นเพิ่มขึ้นเป็นกก.ละ 86-87 บาท ทำให้ราคาปรับเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 10 ปี จนส่งผลกระทบให้ร้านอาหารที่ใช้หมูเป็นวัตถุดิบ เช่น หมูทอด หมูแดดเดียว กุนเชียงหมู หรืออาหารอื่นๆ ที่ใช้หมูเป็นวัตถุดิบ เริ่มมีการปรับราคาเพิ่มขึ้น และเรียกร้องให้กรมการค้าภายในเข้ามาดูแล