องค์การอนามัยโลก "ห่วงกังวล" เกี่ยวกับรายงานการพบผู้ป่วยโรคปอดอักเสบในเติร์กเมนิสถาน ที่รัฐบาลยังคงยืนกรานไม่มีผู้ป่วยโควิด-19 ในประเทศแม้แต่รายเดียว

    ผู้แทนขององค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) เพิ่งได้ไปเยือนประเทศเอเชียกลางแห่งนี้เป็นเวลา 10 วัน หลังจากถูกเลื่อนมาตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิ โดยแคเธอรีน สมอลล์วูด เจ้าหน้าที่ฉุกเฉินอาวุโสประจำยุโรปของดับเบิลยูเอชโอ แถลงข่าวที่กรุงอาชกาบัดเมื่อวันพุธที่ 15 กรกฎาคม ว่าดับเบิลยูเอชโอตระหนักและห่วงกังวลเกี่ยวกับรายงานเรื่องโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันหรือโรคปอดอักเสบในประเทศนี้ และแนะนำให้รัฐบาลเติร์กเมนิสถานใช้มาตรการต่างๆ ซึ่งรวมถึงการติดตามโรค "เสมือนกับว่าโควิด-19 กำลังหมุนเวียนอยู่แล้ว"

    เมื่อวันจันทร์ เติร์กเมนิสถานเริ่มบังคับให้พลเมืองสวมหน้ากากอนามัย หลังจากกระทรวงสาธารณสุขเตือนเกี่ยวกับฝุ่นละอองหนาแน่นและเชื้อโรคในอากาศ โดยมีการคาดเดากันมากว่า รัฐบาลเผด็จการอำนาจนิยมของประเทศอดีตสมาชิกสหภาพโซเวียตแห่งนี้กำลังจะยอมรับว่าไวรัสโคโรนาแพร่ถึงประเทศแล้ว แม้หน่วยงานด้านสาธารณสุขยังไม่รายงานว่ามีผู้ติดเชื้อก็ตาม

    ในการแถลงข่าวเมื่อเช้าวันพุธ ราชิด เมเดรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศ กล่าวในเชิงว่า ไวรัสนี้อาจแพร่เข้าเติร์กเมนิสถานผ่านพายุฝุ่นหรือเกลือจากก้นทะเลอารัล ซึ่งเป็นทะเลสาบน้ำเค็มที่แห้งเหือดอยู่ในประเทศอุซเบกิสถานและคาซัคสถาน

    เดือนที่แล้ว กระทรวงการต่างประเทศเติร์กเมนิสถานเคยกล่าวถึงคำเตือนด้านสุขภาพของสถานทูตสหรัฐที่ให้ชาวอเมริกันในประเทศนี้เฝ้าระวังว่าอาจมีไวรัสโคโรนาระบาดอยู่ ว่าเป็น "ข่าวปลอม".