15 ก.ค.63 - ที่ศาลากลาง​จังหวัด​เชียงใหม่​ นายรัฐพล นราดิศร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยนายแพทย์จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ และคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกันแถลงผลการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ โดยรองผู้ว่าฯเชียงใหม่ กล่าวว่า​ ขอความร่วมมือประชาชนปฏิบัติตามมาตรการต่างๆ เพื่อร่วมกันป้องกันโรคอย่างเคร่งครัดต่อไป ส่วนการควบคุมดูแลคนที่มาจากจังหวัดระยอง ซึ่งขณะนี้ถือว่าเป็นพื้นที่เสี่ยง ผู้ที่เดินทางมาจะต้องกรอกแบบ ชม.1 ทั้งที่เดินทางโดยเครื่องบินและทางรถยนต์ส่วนตัว เพื่อสะดวกในการติดตาม ควบคุม กรณีพบผู้ติดเชื้อเกิดขึ้น​ส่วนผู้ที่เดินทางมาจากกรุงเทพมหานคร ยังไม่พบมีความเสี่ยง

นายแพทย์กิตติพันธ์ ฉลอม ผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดวิทยาและโรคติดเชื้อ​ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า​ หลังได้รับแจ้งว่ามีผู้เดินทางมีประวัติเดินทางไปพักที่โรงแรมดีวารี จ.ระยอง ระหว่างวันที่ 8-10 ก.ค.ด้วยรถยนต์ส่วนตัวจำนวน 2 คัน รวม 9 คน แต่พักคนละชั้นกับนายทหารอียิปต์ที่พบเชื้อโควิด-19 ซึ่งจากการสอบไม่มีประวัติสัมผัสกับผู้ติดเชื้อโดยตรง แต่ทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ไม่ได้นิ่งนอนใจ และทั้ง 2 ครอบครัว หลังกลับมาเชียงใหม่ก็พักที่บ้านพัก ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการกักกันตัวเองที่บ้าน โดยส่งทีมเจ้าพนักงานโรคติดต่อกำกับดูแลอย่างใกล้ชิดและแม้จะเป็นผู้มีความเสี่ยงต่ำแต่จะกักตัวให้ครบ 14 วันตามมาตรการ

ส่วนที่มีข่าวลือที่มีการส่งต่อผ่านทางโซเชียลทั้งสถานที่ที่มีการเดินทางของกลุ่มผู้ถูกพาดพิง ยืนยันว่า​ กลุ่มคนกลุ่มนี้ไม่มีโอกาสแพร่เชื้อและมีความเสี่ยงต่ำ จึงขอให้ชาวเชียงใหม่ดำเนินชีวิตได้ตามปกติไม่ตื่นตระหนก ยกเว้นหากการตรวจพบเชื้อ จะมีการสอบสวนโรคเพิ่มเติมต่อไป

ด้านนายแพทย์จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า​ ขอให้ประชาชนยังคงปฏิบัติตามคำแนะนำต่างๆ ของกระทรวงสาธารณสุขคือ การสวมหน้ากาก หมั่นล้างมือ เว้นระยะห่างทางสังคมและลงทะเบียนเข้าออกทุกครั้งในแอพพลิเคชั่นไทยชนะ หรือสมุดลงนาม เมื่อไปใช้บริการในสถานที่ต่างๆ เพื่อจะได้ตรวจสอบย้อนหลังกรณีเกิดเหตุการณ์ได้

ล่าสุด ผลการตรวจเชื้อโควิด-19 ทั้ง 9 คน​ ผลไม่พบการติดเชื้อแต่อย่างใด แต่ยังคงต้องให้มีการกักตัวเองที่บ้านต่อไปจนครบ 14 วัน โดยไม่ประมาทและจะยังติดตามสถานการณ์​อย่างใกล้ชิด​และขอให้ประชาชนอย่าส่งข้อมูล​อันเป็นเท็จทำให้ตื่นตระหนกซึ่งผิดกฏหมายด้วย