"ธรรมเกียรติ กันอริ"


เพิ่มเพื่อน    

    

     รับรู้การจากไปของ "ธรรมเกียรติ กันอริ" นักเขียนและคอลัมนิสต์ชื่อดัง "ผกาธรรม" ผ่านข้อความที่มีการส่งกันในห้องไลน์ ด้วยความอาลัยอย่างมากมาย เพราะ "พี่ธรรมเกียรติ" นั้นเคยเป็นนักเขียนประจำหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์อยู่นาน

     จำได้ว่า แม้จะเลิกเขียนบอกอำลาคอลัมน์ในไทยโพสต์ไปแล้ว "พี่ธรรมเกียรติ" จะแวะเวียนเข้ามาเยี่ยมเยียนน้องๆ ทุกวันที่ 21 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันเกิดของไทยโพสต์นั่นเอง

     ครั้งสุดท้ายที่ได้ทักทายกับ "พี่ธรรมเกียรติ" เห็นได้ชัดว่าร่างกายอ่อนล้าลงไปพอสมควร และพี่ก็บอกว่า ปีนั้นอาจจะเป็นครั้งสุดท้ายเพราะมีปัญหาสุขภาพ 

     เมื่ออ่านข้อความว่า พี่ธรรมเกียรติ กันอริ จากไปเมื่อเช้าวันที่ 14 ก.ค.2563 สิ่งที่จดจำได้อย่างแม่นยำคือ รอยยิ้มของพี่ และวาจาที่ไพเราะเสนาะหูทุกครั้งที่ได้สนทนาด้วย

     สำหรับความรู้ความสามารถในการเป็นนักเขียนของท่านนั้น ต้องได้รับการยกย่องชื่นชมว่าเป็นหนึ่งในนักเขียนที่ใช้ความรู้ด้านประวัติศาสตร์มาร้อยเรียงได้อย่างหมดจด และสมแล้วกับนามปากกา "ผกาธรรม" เพราะจะมีการสอดแทรกและเล่าเรื่องราวอันเกี่ยวกับพุทธศาสนาและธรรมะได้อย่างงดงาม

     โดยส่วนตัวที่เรียกว่าห่างไกลกับรุ่นของพี่ธรรมเกียรติอย่างมองไม่เห็นฝุ่น จึงขออนุญาตนำบางส่วนจากเฟซบุ๊กของ "รสนา โตสิตระกูล" มาย้อนรำลึกถึงพี่ที่สมควรแก่การนับถือที่ชื่อ "ธรรมเกียรติ กันอริ" นะคะ

     ..พี่ธรรมเกียรติกับดิฉันเป็นเพื่อนบ้านใกล้เรือนเคียงกันในย่านริมคลองทวีวัฒนามาไม่น้อยกว่า 25 ปี ภาพที่ผู้คนในย่านนั้นเคยคุ้นตาคือ ชายร่างท้วมวัยกลางคนสวมเสื้อกุยเฮง นุ่งโสร่งออกมาซื้อของกินในยามเช้า ด้วยบุคลิกภูมิฐานเจรจาสุภาพ ผู้คนที่พบเห็นแม้ไม่รู้จักก็มักจะเรียกท่านว่า “อาจารย์” พี่ธรรมเกียรติเป็นคนรักบ้าน แม้ในปี 2554 ที่น้ำท่วมใหญ่ในย่านนั้น ท่านก็ไม่ย้ายไปไหนเหมือนคนอื่น ดิฉันในฐานะ ส.ว.กทม. ตอนนั้นได้ไปเยี่ยมท่านผู้อาวุโสซึ่งยังยิ้มแย้มได้เมื่ออุทกภัยมาอย่างน่าทึ่ง

    ท่านเป็นคอลัมนิสต์ ในชื่อผกาธรรมอยู่ระยะหนึ่ง มีงานสอนวิชาพุทธศาสนา วัฒนธรรมไทยให้กับบางสถาบัน และมีงานเขียนเป็นเล่มขายดีตีพิมพ์ไม่น้อยกว่า 5 ครั้งคือ “พระนครควรชม” เป็นคู่มือท่องเที่ยวกรุงเทพฯ เชิงศิลปวัฒนธรรม โบราณคดีที่ต้องการชักชวนให้ชนรุ่นใหม่ เที่ยวไปให้ไกล จากใกล้เกลือกินด่าง ส่วนอีกเล่มที่น่าหาอ่านเป็นผลงานของพี่ธรรมเกียรติกับคณะคือ“วรรณพฤกษ์พรรณนา” ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับไม้มงคลในวรรณคดีไทยและพุทธศาสนา

    แต่งานทางความคิดของพี่ธรรมเกียรติที่ละเว้นจะกล่าวเสียมิได้คือ ความคิดทางการศึกษา อันเป็นวิชาที่ท่านเคยร่ำเรียนมาในสำนักวิทยาลัยครูประสานมิตร (รุ่นเดียวกับพี่พิภพ ธงไชย) ท่านเคยเป็นผู้จัดทำ "รายงานสภาวะการศึกษาไทยปี 2542-2543 ส่วนเรื่องประวัติศาสตร์การเมืองนั้นต้องกลับไปหาอ่านบทความ "ปรีดี พนมยงค์กับพระพุทธศาสนา" (วารสารธรรมศาสตร์ ปีที่ 25 ฉบับที่ 1 ม.ค.-เมษ. 2542)....

     ด้วยประการฉะนี้ จึงขอคารวะนักคิดนักเขียนแบบอย่างที่ดีงามและมีความพอเพียงในการใช้ชีวิต ของพี่ธรรมเกียรติด้วยความจริงใจค่ะ

                                               "ป้าเอง"  


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"