“คลัง” ยันมีแผนรับมือได้หากโควิด-19 ระบาดรอบ 2 แจงที่ผ่านมาไทยรับมือได้ดี เชื่อสถานการณ์ที่เกิดตอนนี้ไม่บานปลาย มั่นใจโครงการเที่ยวไปด้วยกันยังเดินหน้าต่อได้ "วิรไท" ย้ำเศรษฐกิจไทยผ่านจุดต่ำสุดแล้ว
นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า ยอมรับว่ามีความน่าเป็นห่วงหากเกิดการระบาดของโควิด-19 ขึ้นอีกครั้ง เพราะจากการล็อกดาวน์ประเทศอย่างเต็มรูปแบบในช่วง มี.ค.-เม.ย.2563 และค่อยๆ ผ่อนปรนมาเรื่อยๆ จึงเริ่มเห็นว่าในช่วงนี้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจขึ้น ซึ่งจะมีผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจบ้างแล้ว แต่หากโควิด-19 กลับมาอีกรอบ อาจมีผลต่อบรรยากาศเหล่านี้ได้
อย่างไรก็ตาม ยังยืนยันว่ากระทรวงการคลังมีแผนรองรับกรณีหากเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 กลับมารุนแรงมากขึ้นอีกครั้งแน่นอน โดยยังคงมีเครื่องมือทางการคลังเพียงพอในการดำเนินการอย่างเต็มที่ รวมไปถึงการหาแหล่งเงินที่มาจากการกู้ที่จะใช้ในการฟื้นวิกฤติในครั้งนี้ หากต้องใช้เงินเพิ่มในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว
“เชื่อว่าเรารับมือได้ดี สถานการณ์ตอนนี้อาจจะเป็นช่องโหว่ แต่ก็จะแก้ไขได้ ไม่น่าบานปลาย แต่ในด้านการคลังก็พร้อมรับมือเต็มที่ มีแหล่งเงินเพียงพอ แม้จะต้องยอมรับว่าหากมีการกลับมาระบาดรอบ 2 อาจต้องใช้เงินเยอะในการประคองเศรษฐกิจก็ตาม แต่ยังไม่น่าห่วง” นายลวรณกล่าว
นอกจากนี้ ทาง สศค.ยังเชื่อว่ากรณีดังกล่าวยังไม่กระทบต่อโครงการเที่ยวไปด้วยกัน ที่สนับสนุนให้คนไทยเที่ยวในประเทศในช่วงเดือน ก.ค.-ต.ค.นี้ เพื่อกระตุ้นการบริโภคในประเทศและการท่องเที่ยวให้กลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง เพราะมาตรการนี้ได้เน้นให้คนไทยเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีคนไทยติดเชื้อโควิด-19 และสถานการณ์ที่เกิดขึ้นขณะนี้ มีเพียงจังหวัดระยองที่เดียวที่ได้รับผลกระทบ ขณะที่จังหวัดอื่นยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่
ขณะที่นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ประเมินเศรษฐกิจไทยได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ในช่วงไตรมาส 2/2563 ก่อนจะทยอยฟื้นตัว โดยต้องให้ความสำคัญกับนโยบายด้านอุปทานเพื่อปรับโครงสร้างเศรษฐกิจให้สอดคล้องกับบริบทใหม่หลังโควิด-19 โดยในช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา มีมาตรการควบคุมการระบาดโควิด-19 ออกมา และสามารถควบคุมโควิด-19 ได้เป็นผลสำเร็จ ต่อจากนั้นจึงเห็นการเริ่มทยอยผ่อนคลายมาตรการควบคุมการระบาดออกมา ตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจทยอยปรับเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ ทั้งการเดินทาง การจับจ่ายใช้สอย และการผลิต
"ในส่วนของมาตรการที่ ธปท.ได้ออกมาเพื่อรับมือกับผลกระทบที่เกิดจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้มีการพิจารณาถึงการกลับมาระบาดรอบที่สองแล้ว โดยมาตรการที่ออกมาแบ่งเป็น 3 ระยะ ได้แก่ การป้องกันการตื่นตระหนกของตลาดการเงิน การเยียวยา และการปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งก็มีหลายมาตรการที่สามารถนำมาใช้ได้หากเกิดการระบาดระลอก 2 กลับมาอีกครั้ง แต่ในสถานการณ์ปัจจุบันประเมินว่ามาตรการที่ ธปท.กำลังดำเนินอยู่มีความสามารถเพียงพอที่จะดูแลระบบเศรษฐกิจได้เพียงพออยู่” นายวิรไทกล่าว.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |