“ประยุทธ์-ศบค.” แอ่นอกรับผิดกรณีปล่อยทหารอียิปต์-ลูกอุปทูตติดโควิด-19 เข้าไทย ชี้เหตุเกิดจากการไม่มีวินัย ไม่เคารพกติกา สั่ง กต.ทบทวนอภิสิทธิ์คณะทูต-เที่ยวบิน กำชับสถานประกอบการห้ามการ์ดตก หากพบสั่งปิดทันที “กต.” ชงทันที “วีไอพี” ต้องอยู่ในสถานกักกันทางเลือก 14 วัน และจ่ายเงินเอง ทอ.ยกเลิก 8 เที่ยวการบินจากอียิปต์ “หมอทวีศิลป์” ขอโทษคนไทยและชาวระยอง พร้อมแจงยิบไทม์ไลน์ทหารและลูกอุปทูต เผยมีกลุ่มเสี่ยง 2 เคส รวม 16 ราย
เมื่อวันอังคาร ยังคงมีความต่อเนื่องจากกรณีทหารอียิปต์และบุตรสาวของอุปทูตซูดานประจำประเทศไทย ซึ่งเดินทางเข้าประเทศไทยโดยได้รับข้อยกเว้นตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19
สำหรับความเคลื่อนไหวที่คอนโดมิเนียม ONE X ย่านสุขุมวิท 26 ซึ่งเป็นที่พักของครอบครัวอุปทูตซูดานนั้น กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พร้อมด้วยกรุงเทพมหานครได้นำรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยพระราชทานเข้าตรวจสอบ รวมทั้งนำรถตรวจเชื้อมาตรวจให้ผู้อยู่ในคอนโดฯ ทุกคน ทั้งผู้พักอาศัยและบุคลากรที่ทำงาน และนำทีมเข้าทำความสะอาดในคอนโดฯ ทุกชั้น ทั้งห้องส่วนตัวและส่วนกลาง โดยสอบสวนโรคและทำ Swab test แก่ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 7 ราย และผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 15 ราย ซึ่งจะทราบผลในวันที่ 15 ก.ค. และมีคนในคอนโดฯ ขอตรวจ 230 ราย ตรวจแล้ว 160 ราย รวมทั้งได้ขอให้ผู้พักอาศัยในคอนโดฯ กักตัวเองอย่างน้อย 14 วัน
ส่วนที่โรงแรม D Varee Diva Central จังหวัดระยอง ซึ่งเป็นที่พักของคณะทหารอียิปต์ ได้ประกาศปิดโรงแรม โดยให้พนักงานโรงแรมหยุดปฏิบัติงานทันที และเข้ารับการตรวจคัดกรอง รวมถึงแยกตนเองเพื่อเฝ้าดูอาการจนครบ 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 14-28 ก.ค. รวมทั้งปิดโรงแรมโดยไม่มีกำหนด อย่างต่ำไม่น้อยกว่า 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 14 ก.ค. เพื่อทำความสะอาดและอบโอโซนฆ่าเชื้อโรคในทุกพื้นที่ของโรงแรม
ขณะที่ พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ด้านความมั่นคง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ได้กักตัวตำรวจ 6 นาย สังกัดภูธร จ.ระยอง ที่ได้ร่วมกับคณะของกรมควบคุมโรค เข้าไปตรวจเชื้อทหารอียิปต์ที่โรงแรมดีวารีแล้ว 14 วันตามขั้นตอน
ด้าน นพ.พลวรรธน์ วิทูรกลชิต ผู้ตรวจราชการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวถึงการใช้ระบบแอปพลิเคชันไทยชนะกรณีทหารอียิปต์ว่า พบว่ามีคนอยู่ห้างแหลมทองในเวลาเดียวกับทหารอียิปต์ 394 คน ทางกรมควบคุมโรคจึงให้เราส่ง SMS และแจ้งเตือนไปยังเบอร์โทรศัพท์ทั้งหมดที่อยู่ในระบบ โดยข้อความที่ส่งไปคือ 1.ให้ท่านกักตัวอยู่บ้าน 2.ให้สมาชิกในครอบครัวอยู่บ้าน พร้อมเบอร์ของเจ้าหน้าที่กรมควบคุมโรคส่งไปให้โทร.ติดต่อกลับ หรือเราโทร.ติดต่อไป และ 3.ให้มาตรวจโควิดได้ฟรี จะมีรถไปตรวจที่ระยอง
ส่วนนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวถึงการสั่งปิดโรงเรียนที่ จ.ระยอง และ 2 แห่งใน กทม. คือ รร.สามเสนวิทยาลัยและสายน้ำผึ้งว่า เป็นไปตามมาตรการรักษาความปลอดภัยของ สธ. และเป็นการตัดสินใจของผู้ว่าฯ โดยเบื้องต้นจะปิดโรงเรียนใน กทม. 1 วัน ก่อนประเมินว่าจะต้องปิดทั้งหมดกี่วัน
นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง กล่าวว่า ได้สั่งปิดโรงเรียนทั้งหมด 127 แห่งใน จ.ระยอง ทั้งของรัฐและเอกชน โดยมีมาตรการให้เรียนทางออนไลน์ หรือสลับเวลาเรียน ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
ขณะเดียวกัน พล.อ.ท.พงษ์ศักดิ์ เสมาชัย โฆษกกองทัพอากาศ (ทอ.) ได้ชี้แจงถึงกรณี ทอ.อนุญาตน่านฟ้าให้อากาศยานทหารอียิปต์เข้าประเทศไทยว่า ขั้นตอนคือ สถานทูตของประเทศนั้นๆ ติดต่อไปยังกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) และเมื่อ กต.เห็นว่าเป็นเครื่องบินทหารก็ประสานมายัง ทอ.พิจารณาว่ามีความขัดแย้งเรื่องความมั่นคงหรือไม่ หลัง ทอ.ตรวจสอบแล้วพบว่าไม่มีปัญหา และเคยมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ก็ตอบกลับไปยัง กต.ว่าไม่ขัดข้อง ถือเป็นการทำหน้าที่ตามปกติของ ทอ.ที่ต้องพิจารณาในส่วนที่ต้องรับผิดชอบ
“ทอ.ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้พิจารณาในกรณีเป็นเครื่องทหารว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคง และเมื่อเครื่องมาลงในพื้นที่แล้ว ทุกอย่างต้องเข้าสู่มาตรการที่ได้กำหนดไว้ ไม่ใช่ว่า ทอ.มีอำนาจพิจารณาอยู่ในขอบเขตที่จำกัด” พล.อ.ท.พงษ์ศักดิ์กล่าว และว่า ภารกิจอากาศยานอียิปต์เป็นภารกิจบินเดินทางประจำในลักษณะของการบินของอากาศยานของรัฐจากต้นทางถึงปลายทาง เป็นความชอบธรรมทางกฎหมาย ในการขอลงจอดเพื่อเติมน้ำมัน พักเครื่องและลูกเรือ เฉกเช่นการบินของอากาศยานของไทยที่จะประสานขอลงจอดพักเครื่องและลูกเรือในระหว่างต้นทางถึงปลายทางได้
ด้านนายเชิดเกียรติ อัตถากร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษก กต. กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ตามปกติกรณีเครื่องบินทหารจะเข้ามาในไทยต้องยื่นเรื่องขอรับการอนุมัติผ่านสถานเอกอัครราชทูตประเทศนั้นๆ ซึ่งกรณีของอียิปต์เป็นเครื่องบินทหารขอเข้ามาเปลี่ยนถ่ายและลำเลียงอะไหล่ ซึ่ง กต.ได้ส่งเรื่องไปยัง ทอ.ให้พิจารณาว่าจะอนุญาตหรือไม่ โดยสถานเอกอัครราชทูตอียิปต์ประจำประเทศไทยได้ประสานงานกับทางการไทยมาตลอด สำหรับกรณีทหารรายนี้สถานเอกอัครราชทูตอียิปต์ได้แสดงความเสียใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้น และพร้อมร่วมมือกับฝ่ายไทยในการแก้ไขปัญหา ทั้งนี้รัฐบาลอียิปต์ได้ยื่นเรื่องขออนุญาตให้เครื่องบินทหารของอียิปต์ 8 เที่ยวบินเข้าไทย แต่ล่าสุด ทอ.ได้ขอยกเลิกคำขอทั้งหมดแล้ว
รื้ออภิสิทธิ์คณะทูต
นายเชิดเกียรติยังกล่าวถึงการดูแลคณะทูตต่างประเทศที่จะเดินทางเข้ามาในไทยว่า จากนี้ไปต้องรักษาสมดุล โดยคำนึงถึงอนุสัญญาเวียนนา ควบคู่กับการควบคุมโรคและความปลอดภัยด้านสาธารณสุขของไทย ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับบุตรสาวของอุปทูตซูดาน ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค.ชุดเล็ก ได้พิจารณาตามคำขอของ กต.ที่ให้ทบทวนมาตรการการเดินทางของคณะทูตต่างประเทศทั้งหมด เพื่อให้มีมาตรการต่างๆ ที่เพิ่มความเข้มข้นมากขึ้น ซึ่งหนึ่งในนั้นจะกำหนดให้คณะทูตต่างประเทศและครอบครัวเมื่อเข้ามาในไทยแล้ว ต้องเข้าสู่การกักตัวในสถานที่กักกันของรัฐแบบทางเลือกซึ่งบุคคลนั้นต้องเสียค่าใช้จ่ายเองเป็นเวลา 14 วัน ซึ่งเปลี่ยนแปลงจากเดิมที่บุคลากรของคณะทูตต่างประเทศ เมื่อเข้ามาในไทยต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อ แล้วให้ไปกักตัวอยู่ในสถานที่ที่สถานทูตประเทศนั้นๆ กำหนด โดยเรื่องดังกล่าวจะต้องหารือและกำหนดรายละเอียดอีกครั้ง ในการประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในวันที่ 17 ก.ค.นี้
ทั้งนี้ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รองผู้บัญชาการทหารบก (รอง ผบ.ทบ.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุม ศบค.ชุดเล็กถึงกรณีทหารอียิปต์ว่า เป็นความผิดส่วนบุคคลที่ลักลอบออกไปนอกพื้นที่ที่กำหนด เป็นการกระทำฝ่าฝืนส่วนบุคคล ไม่ได้เกิดจากความหละหลวมหรือความผิดพลาดของระบบ แต่ก็จะเสนอนายกฯ ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค.ว่า ต้องทบทวนมาตรการผ่อนปรนทั้งหมดสำหรับบุคคลที่ได้รับอนุญาตให้เข้าราชอาณาจักรไทย ไม่ว่าจะเป็นทหารหรือคณะทูตต่างประเทศและครอบครัว รวมถึงจะเสนอชะลอบุคคลที่เข้ามาในระยะสั้น และไม่ต้องอยู่ในสถานที่กักกันที่รัฐกำหนดไว้ให้ทบทวนหรือยกเลิกไปก่อน
ต่อมาในเวลา 11.30 น. นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. แถลงข่าวนัดพิเศษถึงสถานการณ์ติดเชื้อโควิด-19 ว่ามีผู้ป่วยรายใหม่ 7 รายในสถานที่เฝ้าระวังที่รัฐจัดให้ ผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,227 ราย หายป่วยรวม 3,091 ราย ผู้ป่วยรักษาอยู่ 78 ราย เสียชีวิตคงที่ 58 ราย สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ 6 ราย เดินทางมาจากอียิปต์ เป็นนักศึกษาชายไทย อายุ 20-32 ปี โดยมี 4 รายมีประวัติเสี่ยงสัมผัสกับผู้ติดเชื้อรายก่อนหน้า ส่วนรายที่ 7 เดินทางจากสหรัฐอเมริกา เป็นหญิงไทย อายุ 66 ปี อาชีพแม่บ้าน
นพ.ทวีศิลป์กล่าวถึงกรณีมีทหารอียิปต์ติดเชื้อ 1 นายว่า ไทม์ไลน์เที่ยวบินทางทหาร EGY1216 มีกัปตันเรือและลูกเรือรวม 31 คน เดินทางมาจากปากีสถาน เข้าไทยวันที่ 8 ก.ค. ลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา เวลา 19.00 น. และเข้าพักที่โรงแรมดีวารีระหว่างวันที่ 8-11 ก.ค. ในเวลา 23.00 น. ทุกคนเข้าพักโดยมีเพื่อนร่วมห้องอีก 1 คน ยกเว้นกัปตันที่พักห้องเดี่ยว วันที่ 9 ก.ค. ออกจากโรงแรมบินไปทำภารกิจทางทหาร แวะเติมน้ำมันที่เมืองเฉิงตู ประเทศจีน และบินกลับมาประเทศไทย ถึงเวลา 23.30 น.วันเดียวกัน ก่อนเดินทางกลับที่พักเวลา 02.00 น.วันที่ 10 ก.ค. และเวลา 11.20 น. ลูกเรือจำนวนหนึ่งออกจากที่พักไปห้างสรรพสินค้า 2 แห่งใน จ.ระยอง คือห้างแหลมทองและห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ระยอง และวันที่ 11 ก.ค.เดินทางกลับอียิปต์เวลา 11.30 น.
ศบค.แจงยิบไทม์ไลน์
นพ.ทวีศิลป์กล่าวอีกว่า ข้อมูลภาพการบันทึกจากกล้องวงจรปิดของโรงแรมพบลูกเรือเพียง 10% หรือจากทั้งหมดมีเพียงแค่ 3 รายใส่หน้ากากอนามัยขณะออกนอกเคหสถาน ซึ่งส่วนใหญ่มีหน้ากากอนามัยติดตัวแต่ไม่ได้ใส่ วันที่ 10 ก.ค. ลูกเรือ 27 ราย รวมผู้ติดเชื้อด้วยได้เดินเท้าเข้าไปเที่ยวและซื้อสินค้าที่ห้างสรรพสินค้าแหลมทอง ใช้เวลาตั้งแต่เวลา 11.25 น. และเดินทางกลับโรงแรมเวลา 14.56 น. โดยผู้ติดเชื้อสวมหน้ากากอนามัยขณะออกไปข้างนอก ส่วนลูกเรืออีก 4 คนเหมารถแท็กซี่ส่วนบุคคลเดินทางไปห้างเซ็นทรัล ระยอง เวลา 14.30 น. และเดินทางกลับเวลา 18.00 น. และเรียกแท็กซี่คันเดิมให้ไปรับ โดยทีมสอบสวนโรคได้ติดตามคนขับแท็กซี่แล้ว ยืนยันว่าผู้ติดเชื้อไม่ใช่ผู้โดยสาร 1 ใน 4 รายที่ไปรับ-ส่ง
นพ.ทวีศิลป์กล่าวอีกว่า สำหรับผู้ติดเชื้อได้แบ่งกลุ่มผู้มีความเสี่ยงสูง 9 ราย กลุ่มโรงแรมดีวารี 7 ราย ได้แก่ ผู้จัดการโรงแรม 2 ราย, พนักงานขาย 1 ราย, แม่บ้าน 4 ราย ทำงานประจำชั้นที่พบผู้ติดเชื้อ คือ ชั้น 7 และ 8 โดย โรงแรมให้หยุดงาน 14 วัน วันที่ 13-27 ก.ค. และให้แยกกักตนเองอยู่ที่โรงแรมพลายเพลย์ ต.ท่าประดู่ จ.ระยอง และอีก 2 รายเป็นพนักงานขับรถตู้รับ-ส่งไปโรงแรม และอีกกลุ่มคือผู้สัมผัสที่มีความเสี่ยงต่ำ 9 ราย คือ ทีมสอบสวนโรคและทีมตรวจคนเข้าเมืองระยอง
โฆษก ศบค.กล่าวอีกว่า จากการเข้าไปตรวจสอบบริเวณห้างแหลมทอง มีผู้ใช้บริการช่วงเวลาเดียวกับคณะทหารอียิปต์ 394 คน ขณะที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลมีผู้ใช้บริการในเวลาเดียวกัน 1,488 คน ขณะนี้มีอยู่ 7 คนที่ไม่สามารถติดต่อทางโทรศัพท์ได้ กรมสอบสวนโรคจะติดตามเพื่อมาตรวจสอบต่อไป และยังต้องดูอาการของคณะที่เหลือ หากไม่มีการติดเชื้อเพิ่มก็ไม่จำเป็นต้องสอบสวนโรคเพิ่ม
นพ.ทวีศิลป์ยังกล่าวถึงกรณีลูกสาวอุปทูตซูดานว่า มารดานำผู้ป่วยและครอบครัวไปตรวจเชื้อโควิดในวันที่ 7 ก.ค. ผลตรวจเป็นลบ ก่อนออกเดินทางวันที่ 9 ก.ค. ซึ่งมีคนไทย 245 คนร่วมเที่ยวบินมาด้วย และมาถึงไทย วันที่ 10 ก.ค. เดินทางมาถึงคัดกรองแล้วไม่มีอาการ อุปทูตจึงนำครอบครัวไปพักที่คอนโดมิเนียม One X ไม่ได้แวะพักที่ไหน แต่จากการเก็บตัวอย่างส่งตรวจ พบผู้ป่วยมีเชื้อ 1 ราย จึงส่งตัวเข้ารับการรักษาที่ รพ.แห่งหนึ่ง จากนั้นวันที่ 12 ก.ค. ครอบครัวดังกล่าวย้ายไปที่บ้านพักสถานเอกอัครราชทูตในซอยสวนพลู ซึ่งคอนโดมิเนียมดังกล่าวเคยมีผู้ติดเชื้อโควิดแล้ว 2 คน ทำให้คอนโดฯ ทำความสะอาดเป็นอย่างดี และกรณีดังกล่าวมีผู้สัมผัสผู้ติดเชื้อเสี่ยงสูง 7 ราย คือ คนในครอบครัว 3 ราย, คนขับรถยนต์ 1 ราย, เจ้าหน้าที่สถานทูตฯ 1 ราย และคนขับรถตู้ 2 ราย ผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 15 ราย คือผู้ใช้ลิฟต์ต่อจากครอบครัวนี้
ถามว่ามีการขอให้ ศบค.ยกเลิกสิทธิวีไอพี หรือทบทวน และถูกวิจารณ์ว่า ศบค.การ์ดตก นพ.ทวีศิลป์ยอมรับว่า เสียใจกับคำพูดที่ว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐการ์ดตกเสียเอง ขออภัยในสิ่งที่เกิดขึ้น เราจะรับสิ่งต่างๆ มาปฏิบัติให้ดีที่สุด เพื่อแก้ปัญหาชุดข้อต่อเล็กๆ ต่างๆ ในจุดที่หละหลวม เป็นความรับผิดชอบของพวกเราที่ยังไม่ละเอียดในแต่ละข้อต่อ เดิมคิดว่าลูกเรือจะมาลงที่สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ แต่ครั้งนี้ไปลงที่สนามบินนานาชาติอู่ตะเภา เป็นสิ่งที่ไม่คาดคิดมาก่อน ทั้งนี้ ที่ประชุม ศบค.ชุดเล็กได้มีมติเรื่องเกี่ยวกับการทูต สรุปว่า ศบค.จะทบทวนการผ่อนคลายมาตรการกักกันของบุคคลในคณะทูต
"ต้องขออภัยคนจังหวัดระยอง ที่เด็กต้องปิดโรงเรียน และ กทม. พวกเราไม่สบายใจ เราจะทำให้ดีที่สุดและละเอียดยิ่งกว่านี้" นพ.ทวีศิลป์กล่าว และว่า ศบค.จะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ หลายเรื่องเป็นเรื่องใหม่ที่คาดการณ์ไม่ถึง ไม่รู้ว่ามีรายละเอียดมาก หลังจากนี้ก็จะต้องปรับปรุง ซึ่งในฐานะโฆษก ศบค. ยืนยันว่าทุกภาคส่วนทำงานอย่างหนัก และขอขอบคุณประชาชนทุกคนที่จะทำความเข้าใจและให้โอกาสพวกเราทำงาน หากมีอะไรไม่สบายใจสามารถแจ้งเข้ามาได้ เรายินดีพัฒนาปิดจุดอ่อนต่างๆ ได้ดีที่สุด
มีรายงานแจ้งการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าช่วงหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ปรารภถึงกรณีทหารอียิปต์ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ผ่านมา ไทยทำดีอยู่แล้ว แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นนั้น เกิดจากบางคนที่ขาดระเบียบวินัยเท่านั้น ซึ่งเรื่องนี้ก็ต้องแก้ไขกันไป
บิ๊กตู่แอ่นอกรับผิด
ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์แถลงหลังประชุมคณะรัฐมนตรีว่า ไม่น่าจะเกิดขึ้นเลย เกิดจากการไม่เคารพกติกา ไม่มีวินัย ไม่คิดถึงส่วนรวม ทำให้เกิดปัญหา ความรับผิดชอบก็โทษกันไปมา ซึ่งในฐานะผู้อำนวยการ ศบค. ขอรับผิดชอบตรงนี้ด้วย สิ่งสำคัญที่สุดต้องหาวิธีการปิดจุดหละหลวมเหล่านี้ให้ได้ และวันนี้ได้ส่งทีมลงพื้นที่ติดตามเก็บข้อมูลเชิงลึกแล้ว รวมถึงตรวจหาพื้นที่สัมผัส และผู้อยู่ในช่วงเวลาดังกล่าว เพื่อให้ทุกคนเกิดความสบายใจมากที่สุด และเร็วที่สุด
“ได้สั่งการให้ ศบค.ไปทบทวนเรื่องเหล่านี้ มาตรการผ่อนคลายต่างๆ ทั้งบรรดาสถานทูต เอกอัครราชทูตต้องปฏิบัติตามระบบระเบียบทุกประการ ต้องทบทวนตรงนี้ใหม่ ส่วนการอนุญาตบินเข้ามาจากต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องบินทหาร หรือที่ใดก็ตามต้องเป็นตามมาตรการตามที่กำหนดไว้ ได้ให้กระทรวงการต่างประเทศหารือกับสถานเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทยไปแล้ว อย่าให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก พร้อมกับระงับทุกเที่ยวบินที่เข้ามา ทั้งหมด ไม่ให้เข้ามาอีก จนกว่าจะแก้ปัญหานี้ได้”
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ทุกปัญหามีความสำเร็จและมีส่วนที่ต้องแก้ไขเพิ่มเติมมาตรการ ซึ่งรัฐบาลโดย ศบค.ไม่ได้หยุดยั้งเรื่องเหล่านี้เลย ฉะนั้นขอให้เชื่อมั่นมาตรการสาธารณสุขของเรา ถ้ามองว่าจะเลวร้ายหรือไม่ดีทำนองนี้ ก็ขอให้เชื่อมั่นระบบสาธารณสุขของเรา แต่มันไม่ควรจะเกิดขึ้น อันนี้เป็นสิ่งที่เสียใจ ต้องขอโทษพี่น้องประชาชนคนไทยด้วย จะต้องมาดูแลกันให้มากที่สุดในหลายประเด็น ซึ่งหลายปัญหาเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด อาจเกิดข้อบกพร่องบางประการในหลายที่ ซึ่งได้ย้ำในที่ประชุม ครม. และให้ ศบค.แก้ไขทบทวนทุกอย่าง โดยเฉพาะมาตรการในการผ่อนคลายต่างๆ
“สิ่งที่กังวลอีกในกรณีที่การ์ดตกในหลายส่วนด้วยกัน ทั้งภาคประชาชน สถานผู้ประกอบการต่างๆ ซึ่งผมได้เน้นย้ำให้ตรวจตราให้รัดกุมมากกว่าเดิม และปิดทันที โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานที่เที่ยวกลางคืน ผับ บาร์ ที่ที่มีคนหนาแน่น ผมได้รับการรายงานมา ต้องปิดทันที ถ้าไม่แก้ไข ส่วนนี้ผู้ประกอบการต้องร่วมมือ เมื่อกำหนดมาตรการไปแล้ว แต่ถ้าไม่ปฏิบัติก็ต้องยกเลิกไปจนกว่าจะแก้ไขให้ได้ และวันนี้ต้องขอย้ำเรื่องการสวมหน้ากาก ล้างมือ โหลดแอปพลิเคชันในการเช็กอินสถานที่ต่างๆ การเว้นระยะห่างยังต้องมี” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
เมื่อถามว่า ถือเป็นบทเรียนที่จะต้องกลับมาล็อกดาวน์ห้ามชาวต่างชาติเข้ามาหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ขอทบทวนก่อน ถ้าจะปิดทีเดียวเลยต้องหามาตรการที่เหมาะสมกับสถานการณ์ ส่วนจะกระทบถึงแผนการ Medical tourists หรือไม่นั้น ได้แจ้งทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาไปแล้ว ให้เตรียมการไว้ก่อน แต่การจะอนุมัติหรือไม่ ต้องดูสถานการณ์ทั้งภายในและภายนอกประเทศ เราไม่ผลีผลาม ไม่เช่นนั้นจะเกิดปัญหาอีก เพราะถ้าคนจำนวนมากเข้ามา และเจอแบบนี้ ที่ไม่รักษาวินัย ไม่เคารพกติกา ก็จะเกิดปัญหา
เมื่อถามว่าจำเป็นต้องแบล็กลิสต์ประเทศอียิปต์เลยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า คงไม่ถึงขนาดนั้น
เมื่อถามว่าจากกรณีที่เกิดขึ้นต้องขยายการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินต่อไปอีกหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ยังไม่พูดถึงตรงนั้น เพราะยังมีเวลา เหลืออีกเกือบเดือน พูดไปก่อนเดี๋ยวเป็นเรื่องอีก ต้องดูตามสถานการณ์ ส่วนพื้นที่ชายแดนก็ยังต้องเข้มงวด.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |