14 ก.ค.63 - ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงข่าวนัดพิเศษว่า สำหรับสถานการณ์ติดเชื้อโควิด-19 ผู้ป่วยรายใหม่ 7 รายในสถานที่เฝ้าระวังที่รัฐจัดให้ ผู้ป่วยยืนยนสะสม 3,227 ราย หายป่วยรวม 3,091 ราย ผู้ป่วยรักษาอยู่ 78 ราย เสียชีวิตคงที่ 58 ราย สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ 6 ราย เดินทางมาจากอียิปต์ เป็นนักศึกษาชายไทย อายุ 20-32 ปี เดินทางถึงไทยวันที่ 8 ก.ค. เข้าพักในสถานที่เฝ้าระวังที่รัฐจัดให้ จ.ชลบุรี และตรวจหาเชื้อในวันที่ 11 ก.ค.ผลตรวจพบเชื้อ โดยพบว่ามี 4 รายมีประวัติเสี่ยงสัมผัสกับผู้ติดเชื้อรายก่อนหน้า ส่วนรายที่ 7 เดินทางจากสหรัฐอเมริกา เป็นหญิงไทยอายุ 66ปี อาชีพแม่บ้าน เดินทางถึงไทยวันที่ 9 ก.ค. เข้าพักในสถานที่เฝ้าระวังที่รัฐจัดให้ที่กรุงเทพฯ และตรวจหาเชื้อวันที่12 ก.ค. ผลตรวจพบเชื้อ ไม่มีอาการ สำหรับสถานการณ์ทั่วโลกยอดผู้ติดเชื้อรวม 13,235,760 ราย รักษาหายแล้ว 7,696,381 ราย เสียชีวิต 575,525 ราย
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวถึงกรณีมีทหารอียิปต์ติดเชื้อ 1 ราย และออกไปยังพื้นที่จังหวัดระยอง ว่า ตนขออภัยที่วันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมาให้ข้อมูลไม่ละเอียดเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ขณะนี้สาธารณสุขจังหวัดระยองได้รับข้อมูลโดยละเอียดแล้ว ดยไทม์ไลน์เที่ยวบินทางทหาร EGY1216 มีกัปตันเรือและลูกเรือรวม 31 คน เดินทางมาจากประเทศปากีสถานเข้ามาในไทยวันที่ 8 ก.ค. ลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา เวลา 19.00 น. และเข้าพักที่โรงแรมดีวารี อ.เมือง จ.ระยอง โดยมีการประสานงานจองห้องพักที่เป็นบริษัทของสายการบินภาคพื้นโดยสถานทูตเป็นผู้เลือก มีการกำหนดพักที่โรงแรมดีวารี ระหว่างวันที่ 8-11 ก.ค. และมีภารกิจทางทหาร คือ วันที่ 6 ก.ค.เดินทางจากอียิปต์มายังสหรัฐอาหรับอิมิเรตส์ จากนั้นวันที่ 7 ก.ค.เดินทางจากสหรัฐอาหรับอิมิเรตส์ไปยังปากีสถาน วันที่ 8 ก.ค.จากปากีสถานถึงประเทศไทยที่ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา เวลา 19.00 น.ก่อนเดินทางถึงโรงแรมดีวารีเวลา 23.00 น. ทุกคนเข้าพักโดยมีเพื่อนร่วมห้องอีก 1 คน ยกเว้นกัปตันที่พักห้องเดี่ยว วันที่ 9 ก.ค.ออกจากโรงแรมบินไปทำภารกิจทางทหาร แวะเติมน้ำมันที่เมืองเฉินตู ประเทศจีน และบินกลับมาประเทศไทยถึงเวลา 23.30 น.วันเดียวกัน ก่อนเดินทางกลับที่พักเวลา 02.00 น.วันที่ 10 ก.ค. และเวลา11.20 น.ลูกเรือจำนวนหนึ่งออกจากที่พักไปห้างสรรพสินค้า2 แห่งในจ.ระยอง คือห้างแหลมทองและห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลระยอง และวันที่ 11 ก.ค.เดินทางกลับอียิปต์เวลา 11.30 น.
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ทีมสอบสวนโรคของสาธารณสุขจังหวัดร่วมกับทีมสอบสวนโรคอำเภอเมือง ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองระยองและตำรวจภูธรจ.ระยอง ร่วมกันตรวจประเมินและติดตามผู้เดินทางจากประเทศอียิปต์วันที่ 10 ก.ค. ทั้งผลสอบสวนเพิ่มเติมวันที่ 13 ก.ค.ข้อมูลภาพการบันทึกจากกล้องวงจรปิดของโรงแรมพบลูกเรือเพียงร้อยละ 10 หรือจากทั้งหมดมีเพียงแค่ 3 รายใส่หน้ากากอนามัยขณะออกนอกเคหะสถาน ซึ่งส่วนใหญ่มีหน้ากากอนามัยติดตัวแต่ไม่ได้ใส่ วันที่ 10 ก.ค.ลูกเรือ 27 รายรวมผู้ติดเชื้อด้วย ได้เดินเท้าเข้าไปเที่ยวและซื้อสินค้าที่ห้างสรรพสินค้าแหลมทอง จ.ระยองใช้เวลาตั้งแต่ เวลา 11.25 น. และเดินทางกลับโรงแรมเวลา 14.56 น. โดยผู้ติดเชื้อสวมหน้ากากอนามัยขณะออกไปข้างนอก และนอกจากนี้ลูกเรืออีก4 คนเหมารถแท็กซี่ส่วนบุคคลเดินทางไปห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลระยองเวลา 14.30 น. และเดินทางกลับเวลา18.00 น.และเรียกแท็กซี่คันเดิมให้ไปรับ โดยทีมสอบสวนโรคได้ติดตามคนขับแท็กซี่แล้วยืนยันว่าผู้ติดเชื้อไม่ใช่ผู้โดยสาร1 ใน 4 รายที่ไปรับ-ส่ง
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า สำหรับผู้ติดเชื้อได้แบ่งกลุ่มผู้ที่มีความเสี่ยงสูง 9 ราย กลุ่มโรงแรมดีวารี 7 ราย ได้แก่ผู้จัดการโรงแรม2ราย พนักงานขาย 1 ราย แม่บ้าน 4 รายทำงานประจำชั้นที่พบผู้ติดเชื้อคือชั้น7และ8 ทั้งนี้ไม่มีอาการระบบทางเดินหายใจ โรงแรมให้หยุดงาน 14 วัน วันที่ 13-27 ก.ค.โดยให้แยกกักตนเองอยู่ที่โรงแรมพลายเพลย์ ต.ท่าประดู่ จ.ระยอง และ อีก 2 รายเป็นพนักงานขับรถตู้รับส่งไปโรงแรม และอีกกลุ่มคือผู้สัมผัสที่มีความเสี่ยงต่ำ จำนวน9 รายคือ ทีมสอบสวนโรคและทีมตรวจคนเข้าเมืองระยอง ส่วนมาตรการเพิ่มเติมได้เข้าไปประเมินที่โรงแรมเรื่องการใช้แอพพลิเคชั่นไทยชนะ การมีจุดคัดกรอง การจัดชุดอาหารต่างๆ ซึ่งทีมสอบสวนโรคได้เก็บข้อมูลชุดต่างๆ
โฆษก ศบค. กล่าวว่า และจากการเข้าไปตรวจสอบบริเวณห้างแหลมทองมีผู้ใช้บริการช่วงเวลาเดียวกับคณะทหารอียิปต์จำนวน 394 คน ขณะที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลระยอง มีผู้ใช้บริการในเวลาเดียวกัน 1,488 คน ขณะนี้มีอยู่ 7 คนที่ไม่สามารถติดต่อทางโทรศัพท์ได้ กรมสอบสวนโรคจะติดตามเพื่อมาตรวจสอบต่อไป และยังต้องดูอาการของคณะที่เหลือหากไม่มีการติดเชื้อเพิ่มก็ไม่จำเป็นต้องสอบสวนโรคเพิ่ม อย่างไรก็ตามคณะของชาวอียิปต์นี้ขออนุญาตเดินทางมาจากกระทรวงการต่างประเทศ และยอมรับว่ากรณีเช่นนี้เกิดขึ้นหลายเที่ยวบินแล้ว เป็นไปตามข้อกำหนด (5) ที่ยกเว้นให้ผู้ควบคุมยานพาหนะสามารถเดินทางมาปฏิบัติภารกิจภายในราชอาณาจักรได้ แต่ต้องมีกำหนดที่ชัดเจนของคำสั่งศบค.ฉบับที่ 7/2563
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีลูกสาวอุปทูตซูดานประจำประเทศไทย ที่เดินทางมาจากภูมิภาคแอฟริกา จากการตรวจสอบพบว่ามารดานำผู้ป่วยและครอบครัวไปตรวจเชื้อโควิดในวันที่ 7 ก.ค.ที่ผ่านมา ผลตรวจเป็นลบ ก่อนออกเดินทางวันที่ 9 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งมีคนไทย 245 คนร่วมเที่ยวบินมาด้วย และมาถึงประเทศไทย วันที่ 10 ก.ค.เดินทางมาถึงคัดกรองแล้วไม่มีอาการ ทางอุปทูตจึงนำครอบครัวไปพักที่คอนโดมิเนียม One X Sukhumvit 26 ไม่ได้แวะพักที่ไหน แต่จากการเก็บตัวอย่างส่งตรวจ พบผู้ป่วยมีเชื้อ 1 รายจึงส่งตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง จากนั้นวันที่ 12 ก.ค.ครอบครัวดังกล่าวย้ายไปที่บ้านพักสถานเอกอัครราชทูต ในซอยสวนพลู อย่างไรก็ตาม คอนโดมิเนียมดังกล่าวเคยมีผู้ติดเชื้อโควิดแล้ว 2 คน ทำให้ทางคอนโดมิเนียมทำความสะอาดเป็นอย่างดี และกรณีดังกล่าวมีผู้สัมผัสผู้ติดเชื้อเสี่ยงสูง 7 ราย คือ คนในครอบครัว 3 ราย คนขับรถยนต์ 1 ราย เจ้าหน้าที่สถานทูตฯ 1 ราย และคนขับรถตู้ 2 ราย ผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 15 ราย คือผู้ใช้ลิฟต์ต่อจากครอบครัวนี้ โดยการเดินทางเข้ามาของครอบครัวอุปทูตดังกล่าวถือเป็นข้อยกเว้น ตามคำสั่งศบค.ที่ 7/2563 กรณีอนุญาตให้บุคคลในคณะทูต คู่สมรสและครอบครัวเดินทางเข้ามาในประเทศไทยได้
เมื่อถามว่าการเดินทางเข้ามาของทหารอียิปต์มีเจ้าหน้าที่กำกับหรือไม่และใครเป็นผู้รับผิดชอบ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ศบค.จะเป็นผู้รับผิดชอบและจะพยายามทำให้ดีที่สุด ส่วนการเดินทางของผู้ควบคุมยานพาหนะนั้น ตามคำสั่งศบค.ไม่ได้กำหนดให้มีผู้ควบคุม เพียงแต่ให้ใช้แอพพลิเคชั่นติดตามตัว เท่าที่ทราบเขามีการโหลดแอพฯไว้ แต่จะใช้หรือไม่ ต้องสอบสวนเพิ่มเติม ซึ่งเราพบว่ามีความหละหลวม คือ สถานทูตฯติดต่อโรงแรมที่พักโดยตรง นำไปสู่การเข้าพัก แล้วศบค.รับทราบทีหลัง แต่ก็ไม่ละเลยจึงทำให้ตรวจพบในครั้งนี้
เมื่อถามต่อว่ามีการขอให้ศบค.ยกเลิกสิทธิวีไอพี หรือทบทวน และถูกวิจารณ์ว่าศบค.การ์ดตก นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ตนก็เสียใจว่ากับคำพูดที่ว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐการ์ดตกเสียเอง ขออภัยในสิ่งที่เกิดขึ้น เราจะรับสิ่งต่างๆมาปฏิบัติให้ดีที่สุด เพื่อแก้ปัญหาชุดข้อต่อเล็กๆต่างๆ ในจุดที่หละหลวม เป็นความรับผิดชอบของพวกเรา ที่ยังไม่ละเอียดในแต่ละข้อต่อ เดิมคิดว่าลูกเรือจะมาลงที่สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ แต่ครั้งนี้ไปลงที่สนามบินนานาชาติอู่ตะเภา เป็นสิ่งที่ไม่คาดคิดมาก่อน เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ต้องจัดการ
"ทั้งนี้ ที่ประชุมศบค.ชุดเล็กเมื่อช่วงเช้ามีมติเรื่องเกี่ยวกับการทูต สรุปว่า ศบค.จะทบทวนการผ่อนคลายมาตรการกักกันของบุคคลในคณะทูต โดยเฉพาะคู่สมรส บิดามารดา หรือบุตร โดยกระทรวงการต่างประเทศจะต้องทบทวนและให้นักการทูตเข้าพักในสถานที่กักตัวของรัฐเป็นเวลา 14 วัน รวมถึงให้กระทรวงการต่างประเทศยกเลิกอนุญาตการบินเข้าของเที่ยวบินกองทัพอากาศอียิปต์ ที่อนุญาตไปแล้ว 8 เที่ยวบิน และให้ชะลอการอนุญาตเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรแบบผ่อนคลายมาตรการเข้าพักในสถานที่กักตัวของรัฐ ของกลุ่มที่มีเหตุยกเว้นหรือได้รับอนุญาต กลุ่มบุคคลในคณะทูตฯ และกลุ่มนักธุรกิจเดินทางในระยะสั้น ขอให้ชะลอออกไปก่อน และทบทวนระบบอีกครั้ง ก่อนที่จะรับคนต่างชาติเข้ามา ต้องขออภัยคนจังหวัดระยอง ที่เด็กต้องปิดโรงเรียน และกทม. พวกเราไม่สบาย เราจะทำให้ดีที่สุดและละเอียดยิ่งกว่านี้"นพ.ทวีศิลป์ระบุ
เมื่อถามอีกว่ามีกระแสข่าวคณะชาวอียิปต์ไปเที่ยวกลางคืน และไปเที่ยวอาบ อบ นวดหรือไม่ นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า จากการตรวจสอบคณะดังกล่าวไม่ได้ออกนอกโรงแรมในช่วงเวลากลางคืน และคณะนี้ไม่ใช่วีไอพี เป็นเพียงคณะลูกเรือ และส่วนใหญ่กรณีเช่นนี้จะพักกันที่โรงแรมโนโวเทล สุวรรณภูมิ มีเพียงคณะนี้เท่านั้นที่มาลงที่สนามบินนานาชาติ อู่ตะเภา ดังนั้นศบค.จะเป็นผู้รับผิดชอบ
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า ศบค.จะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ หลายเรื่องเป็นเรื่องใหม่ที่คาดการณ์ไม่ถึงไม่รู้ว่ามีรายละเอียดมาก หลังจากนี้ก็จะต้องปรับปรุง ตนในฐานะโฆษกศบค.ยืนยันว่าทุกภาคส่วนทำงานอย่างหนัก จึงเห็นความเข้มแข็งของการพบผู้ติดเชื้อ นี่คือระบบของการตรวจสอบของมดงานในพื้นที่ ที่ทำงานได้อย่างดี ต้องขอชื่นชม ตนที่อยู่ในศบค.จะมองภาพใหญ่ แต่ต้องพึ่งคนในพื้นที่ ดูภาพย่อยแล้วนำมาประกอบกัน เพื่อปกป้องประเทศของเรา และขอขอบคุณประชาชนทุกคนที่จะทำความเข้าใจและให้โอกาสพวกเราทำงาน หากมีอะไรไม่สบายใจสามารถแจ้งเข้ามาได้ เรายินดีพัฒนาปิดจุดอ่อนต่างๆได้ดีที่สุด
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |