“ประภัตร” แจงปมชาวนาลุกฮือ ระบุ นาสุพรรณฯไม่มีน้ำเหมือนอ่างทอง ปัดกุญแจประตูน้ำอยู่ที่ตัวเอง แต่กรมชลประทานเป็นคนเก็บไว้
14 ก.ค.63 - ที่ทำเนียบรัฐบาล นายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรและสหกรณ์ และ ส.ส.สุพรรณบุรี พรรคชาติไทยพัฒนา (ชพท.) ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีนายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง และนายกรวีร์ ปริศนานันทกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) พร้อมชาวนา จ.อ่างทอง รวมตัวกันปิดถนน กล่าวหา รมช.เกษตรฯ ไม่ยอมปล่อยน้ำให้ชาวนา จ.อ่างทอง แต่ปล่อยน้ำให้ จ.สุพรรณบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ของตัวเอง ว่า การที่มี ส.ส.พรรคภูมิใจไทยออกมาพูดตนก็ดีใจ เพราะเป็นหน้าที่ของผู้แทนราษฎร ที่ออกมาดูแลชาวนา
นายประภัทร กล่าวว่าตนขอชี้แจงถึงเส้นทางน้ำไหลผ่าน คือ กำแพงเพชร นครสวรรค์ มาถึงเขื่อนเจ้าพระยาเหลือประมาณ 10 ถึง 12 ล้านคิว และในส่วนนี้จะมีการแบ่งน้ำอย่างเสมอภาค เป็นไปตามพื้นที่ คือ คลองมะขามเฒ่าอู่ทอง ไม่มีการปล่อยน้ำเลย เพราะมีปริมาณน้ำไม่เพียงพอ นอกจากนี้ ยังปล่อยน้ำให้กับแม่น้ำท่าจีและแม่น้ำน้อย ซึ่งในเขตแม่น้ำน้อยมีการทำนาล่วงหน้าในเขต จ.อ่างทองแล้วประมาณ 60,000 ไร่ คนจังหวัดสุพรรณบุรีทำนาไปแล้วประมาณ 100,000 ไร่เศษ ดังนั้น ปริมาณน้ำที่ลงไปจึงไม่มีการส่งลงคลองใดๆ ทั้งสิ้น อีกทั้งยังต้องส่งไปยังแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อไล่น้ำเค็ม อีกส่วนหนึ่งยังส่งไปยังจ.สระบุรี ในเรื่องดังกล่าวนี้ตนเห็นใจชาวนาเพราะทุกคนอยากได้น้ำและทำนา เพราะหากขาดน้ำไปจะไม่สามารถทำอะไรได้เลย แต่การที่บอกว่าน้ำฝั่งโน้นหรือฝั่งนี้มากกว่ากันนั้นไม่เป็นความจริง ไม่อยากให้มีความเข้าใจผิดหรือแตกแยกกัน เราจัดสรรน้ำด้วยความเป็นธรรม
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มีการทำความเข้าใจกับประชาชน จ.อ่างทองแล้วหรือยัง นายประภัตร กล่าวว่า ชาวนาเริ่มเข้าใจแล้ว ตนได้มอบหมายให้รองอธิบดีกรมชลประทานไปชี้แจง ส่วนที่มีการขู่ว่าจะมีการปิดถนนนั้น มองว่าเป็นความรู้สึกเนื่องจากเขาอยากได้น้ำ อยากทำนา เราไม่โทษอะไร อย่างไรก็ตาม กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศว่า ในเดือน ส.ค.นี้จะมีพายุใหญ่ซึ่งเราหวังว่าถ้ามีมาจริงจะทำให้เกษตรกรทำนาได้อย่างสะดวก และยังมีการประเมินอีกว่าในสิ้นปีนี้จะมีน้ำเก็บมากกว่าปีที่แล้ว เราดีใจว่าชาวนาจะได้ทำนาถึงสองครั้ง ตนยืนยันว่าน้ำฝั่งจ.อ่างทอง และจ.สุพรรณบุรี ไม่มีเหมือนกัน
เมื่อถามว่า มีปัญหาการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ นายประภัตร กล่าวว่า ตนมองว่าไม่น่าใช่เรื่องการเมือง แต่เป็นความรู้สึกของชาวบ้านที่อยากได้น้ำทำนา ไม่มีการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น ทุกคนเหมือนลูกหลานของตน เพียงแต่ยังไม่ได้มีการพูดคุยส่วนตัวกับทั้งสอง ส.ส. เพราะยังไม่ได้เจอ แล้วตนอยากมาชี้แจงสถานการณ์ทั่วไปด้วยความห่วงใยประชาชน ว่าต้นทุนน้ำของเราไม่มีจริงๆ อย่างไรก็ตาม สำหรับกุญแจประตูน้ำนั้นอยู่กับทางกรมชลประทานซึ่งเป็นคนเก็บดูแลไว้
เมื่อถามถึงกรณี ส.ส. ขอนแก่นพรรคเพื่อไทยเปิดเผยข้อมูลพบมีเจ้าหน้าที่จากกระทรวงเกษตรฯไปเรียกเก็บเงินจากชาวบ้าน ที่อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น ในโครงการขุดเจาะบ่อบาดาลด้วยโซล่าเซลล์ในราคาหัวละ 35,000 บาทถึง 80,000 บาทนั้น นายประภัตร กล่าวว่า ทางกระทรวงไม่มีนโยบายให้เจ้าหน้าไปเก็บเงินจากประชาชน เพราะโครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่รัฐบาลจัดสรรให้ประชาชนได้มีน้ำใช้ฟรี ส่วนตัวยังไม่ทราบเรื่องที่เกิดขึ้น และจะให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบในวันนี้ เพราะรัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณไปช่วยเหลือประชาชนแล้ว ดังนั้น หากมีเรื่องการเรียกรับเงินขอให้เปิดเผยข้อมูลหรือนำเรื่องมาแจ้งกลับหน่วยงานของรัฐเพื่อที่จะได้ดำเนินการกับข้าราชการโดยยืนยันว่าจะเอาผิดทั้งทางวินัยและทางอาญาอย่างเด็ดขาด
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |