‘โควิด’ป่วนระยอง! ทหารอียิปต์ติดเชื้อเดินห้างผู้ว่าฯสั่งกักตัวพนักงานรร.


เพิ่มเพื่อน    

 ไทยป่วนผวาระบาดรอบ 2! พบ "ทหารอียิปต์" ติดโควิดพักโรงแรมระยอง-เที่ยวห้าง ศบค.เร่งส่งทีมสอบสวนโรคไล่เช็ก พร้อมแจงปม ด.ญ.วัย 9 ขวบครอบครัวคณะทูตติดเชื้อพักที่คอนโดฯ ใน กทม. ยันทั้งสองเคสเข้าไทยตามข้อยกเว้น เร่งใช้ข้อมูลปิดจุดอ่อนทำงาน โซเชียลมีเดียถล่มยับ "บิ๊กแดง" ปล่อยให้ใช้สิทธิ์วีไอพีไม่ต้องกักตัว อู่ตะเภาแจงยิบทำตามขั้นตอน PUI ผู้ว่าฯ ระยองประชุมด่วน ปิดห้องพัก-กักตัวพนักงาน รร.ไล่ตรวจหาเชื้อ

    ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม เวลา 11.30 น. นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงว่า  สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย พบผู้ป่วยรายใหม่ 3 ราย ในสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ ผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,220 ราย หายป่วยสะสม 3,090 ราย ผู้ป่วยรักษาอยู่ 72 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม จำนวนคงที่ 58  ราย ทั้งนี้ไม่มีผู้ติดเชื้อภายในประเทศติดต่อกัน 49 วัน     สำหรับผู้ป่วยรายใหม่รายที่ 1 กลับจากคูเวต  เป็นชายไทย อายุ 48 ปี อาชีพรับจ้าง เดินทางถึงไทย 29 มิ.ย. เข้าพักในสถานที่เฝ้าระวังที่รัฐจัดให้ในกรุงเทพฯ วันที่ 11 ก.ค.ตรวจพบเชื้อ ไม่มีอาการ รายที่ 2 จากบาห์เรน เป็นหญิงไทย อายุ 22 ปี เดินทางถึงไทย 12 ก.ค. ผ่านการคัดกรอง ณ ด่านควบคุมโรค พบว่ามีอาการเข้าเกณฑ์ จากนั้นวันที่ 12  ก.ค.ตรวจพบเชื้อ ขณะนี้รักษาที่ รพ.ฉะเชิงเทรา
    ส่วนรายที่ 3 เป็นทหารชายสัญชาติอียิปต์ อายุ 43 ปี ซึ่งเดินทางพร้อมกับคณะรวม 31 คนในวันที่  8 ก.ค. ที่ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา และเข้าพักในสถานที่เฝ้าระวังที่รัฐจัดให้ ซึ่งเป็นโรงแรมจังหวัดระยอง วันที่ 9 ก.ค.ชายคนดังกล่าวเดินทางไปปฏิบัติภารกิจทางทหารประเทศจีนและกลับมาเมืองไทยอีกครั้งวันเดียวกัน โดยวันที่ 10 ก.ค.ตรวจหาเชื้อพร้อมลูกเรือรวมทั้งหมด 31 ราย และคณะทั้งหมดเดินทางกลับวันที่ 11 ก.ค. ทั้งนี้ผลตรวจยืนยันออกมาวันที่ 12 ก.ค. พบเชื้อ 1 ราย ส่วนอีก 30  รายไม่พบเชื้อ อย่างไรก็ตามการเดินทางของทหารกลุ่มนี้เป็นไปตามเงื่อนไขข้อยกเว้น ที่ให้ลูกเรือต่างชาติเข้ามาปฏิบัติภารกิจในประเทศไทยได้ และในขณะนี้ที่เปิดให้เดินทางเข้ามามากขึ้นตามข้อยกเว้นของ ศบค. จากนี้ทีมสอบสวนโรคจะเข้าไปสอบสวนโรคอย่างละเอียดที่โรงแรมดังกล่าว พร้อมกันนี้ยังพบว่าคณะดังกล่าวมีการเดินทางไปยังสถานที่บางแห่งใน จ.ระยอง เช่น ห้างสรรพสินค้า ซึ่งทีมสอบสวนโรคจะเข้าไปตรวจสอบ
    นอกจากนี้ยังมีกรณีผู้ป่วยเด็กหญิงอายุ 9 ขวบ เป็นครอบครัวคณะทูตจากแอฟริกา เดินทางจากแอฟริกาวันที่ 7 ก.ค.มารวม 5 คน โดยผลตรวจก่อนขึ้นเครื่องไม่พบเชื้อโควิด-19 มาถึงไทยวันที่ 10  ก.ค. ผ่านด่านคัดกรองไม่มีอาการ แต่เก็บตัวอย่างส่งตรวจ พบเชื้อในเด็กหญิงอายุ 9 ขวบ บิดาเด็กหญิงจึงนำตัวไปรักษาที่ รพ.เอกชนแห่งหนึ่งใน กทม. มีการตรวจซ้ำ ขณะที่ครอบครัวเด็กหญิงคนดังกล่าวพำนักที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งใน กทม. โดยวันที่ 11 ก.ค.เด็กหญิงคนดังกล่าวมีอาการปอดอักเสบและได้ส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลอีกแห่งหนึ่ง กรณีนี้เป็นอีกหนึ่งกรณีที่ได้รับข้อยกเว้นให้แก่คณะทูตที่มาปฏิบัติงานในประเทศไทย แล้วให้ไปพำนักอยู่ในสถานที่ของสถานทูต ซึ่งกรณีนี้เป็นคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง จากนี้จะทำการสอบสวนโรคในพื้นที่ดังกล่าว ขอให้ประชาชนในพื้นที่นั้นให้ความร่วมมือ ยืนยันเราจะดูแลอย่างดี
ศบค.เร่งปิดจุดอ่อน
    "ทั้งกรณีทหารชาวอียิปต์และเด็กหญิงที่เป็นสมาชิกครอบครัวคณะทูตถือเป็นข้อยกเว้นของ ศบค.  เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเราไม่กล่าวโทษใครเพราะเขาได้รับอนุญาต ไม่ใช่ข้อผิดพลาดอะไร ชุดข้อมูลนี้เราจะนำไปปรับปรุงวิธีการทำงาน ปิดจุดอ่อนให้เข้มแข็งมากยิ่งขึ้น เพราะกรณีของสถานทูตนั้นเราเข้าใจว่าทุกสถานทูตมีพื้นที่พำนัก แต่กรณีนี้ที่ใช้คอนโดฯ เป็นสถานที่พำนัก กระทรวงการต่างประเทศจะประสานทำความเข้าใจให้สถานทูตต่างๆ ต้องกักตัวครอบครัวในคณะทูตให้อยู่ในสถานที่ของท่านเองเป็นเวลา 14 วัน และยืนยันขณะนี้ยังไม่มีข้อเสียหายอะไรเกิดขึ้น ข่าวดังกล่าวที่ออกมาจะช่วยย้ำเตือนให้ประชาชนรู้ว่าเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องใกล้ตัว" โฆษก ศบค.ระบุ
    สำหรับสถานการณ์โลก ยอดผู้ติดเชื้อรวม 13,035,942 ราย รักษาหายแล้ว 7,582,035 ราย เสียชีวิต 571,571 ราย ขณะที่รูปแบบการเรียนการสอนของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ที่มีทั้งสิ้น 29,235 โรงเรียน สามารถเปิดเรียนได้ปกติ 24,703 โรงเรียน เรียนแบบผสมผสาน 4,532 โรงเรียน โดยแบ่งเป็น 5 รูปแบบ คือสลับชั้นมาเรียนแบบสลับวันเรียน สลับชั้นมาเรียนแบบสลับวันคู่วันคี่ สลับชั้นมาเรียนแบบสลับวันเรียน มาเรียน 5 วัน หยุด 9 วัน สลับช่วงเวลามาเรียนแบบเรียนทุกวัน สลับมาเรียนแบบแบ่งนักเรียนในห้องเรียนออกเป็น 2 กลุ่ม และเลือกรูปแบบที่  1-5 รวมกับรูปแบบอื่น
    ผู้สื่อข่าวถามว่า ข้อเท็จจริงเรื่องการปล่อยให้นักธุรกิจชาวปากีสถานที่เอกสารไม่ครบเข้ามา จะส่งกลับหรือให้ทำธุรกรรมในประเทศไทยต่อ นพ.ทวีศิลป์กลาวว่า ที่ประชุม ศบค.ชุดเล็กพูดคุยกันพบว่า ในชุดคนที่มาทั้งหมดจากปากีสถาน 27 ราย เข้ามาโดยมีเอกสารครบถ้วน แต่เอกสารระหว่างหน่วยงานของทั้ง 27 คนนั้นครบถ้วน 19 คน อีก 8 คนการประสานงานภายในของเรามีความล่าช้า ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะรับไปปรับปรุงแก้ไข
    ส่วนกรณีชาวต่างชาติที่หลบหนีเข้ามาโดยช่องทางธรรมชาติแบบผิดกฎหมายจำนวน 3,000-4,000 คนนั้น ขอชี้แจงว่าเป็นตัวเลขรวมในช่วงเดือน มิ.ย.-ก.ค. ตัวเลขกลุ่มดังกล่าวที่อยู่ในไทยไม่ได้มากขนาดนั้น เพราะเมื่อเจอตัวจะผลักดันกลับทันที ในส่วนที่เข้ามาในใจกลางประเทศก็อยู่ในสถานกักขังของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ซึ่งมีพื้นที่รองรับและมีกรมควบคุมโรคเข้าไปตรวจโรคเป็นประจำ  ไม่ได้ถือเป็นแหล่งเพาะเชื้อ ขณะนี้รอการดำเนินการขั้นตอนตามกฎหมายเพื่อส่งตัวกลับ
    นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี?และ รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงกรณีมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ชาวอียิปต์เดินทางไปในสถานที่ในพื้นที่ จ.ระยองว่า "สั่งการให้ดูแลอย่างเต็มที่เลย"
    นายอนุทินยังกล่าวถึงความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ว่าทุกอย่างคืบหน้าไปมาก และต้องนำผลการทดลองในแต่ละขั้นมาขอความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)  และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขสั่งการให้ความสำคัญ หากทุกอย่างได้มาตรฐานจะต้องทำให้รวดเร็ว ส่วนจะสามารถเสร็จสิ้นเมื่อไหร่นั้นต้องถามจากทีมแพทย์ แต่เท่าที่ทราบถือว่ามีข่าวดี ทั้งนี้ต้องระมัดระวังเมื่อผ่านการทดลองในสัตว์แล้วมาทดลองในมนุษย์ เราต้องมั่นใจจริงๆ  ว่าปลอดภัย และที่สุดแล้วก็ต้องผ่านการรับรองของ อย. ยืนยันเราพยายามทำให้ได้เร็วที่สุด แต่เราต้องเน้นเรื่องความปลอดภัยและประสิทธิภาพของวัคซีน คิดว่าการค้นคว้าในตอนนี้เขาเร่งอย่างเต็มที่ โดยกระทรวงสาธารณสุขจะให้การสนับสนุนทุกอย่าง
'บิ๊กแดง' โดนถล่มเละ
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลัง ศบค.เปิดเผยข้อมูลพบทหารสัญชาติอียิปต์ติดโควิด-19 โดยเป็นหนึ่งใน 11 กลุ่มชาวต่างชาติที่สามารถเข้าประเทศไทยได้ ตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 6) โดยจัดอยู่ในกลุ่มผู้ควบคุมยานพาหนะ ซึ่งเข้ามาในราชอาณาจักรตามภารกิจ และมีมาตรการรองรับในการกำกับดูแล พร้อมเข้าพักในโรงแรมและเดินเที่ยวห้างสรรพสินค้าที่ จ.ระยองนั้น ปรากฏว่าโซเชียลมีเดียได้โพสต์ข้อความโจมตีและเรียกร้องความรับผิดชอบจาก พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ที่ก่อนหน้านี้ได้ออกมาชี้แจงบุคคลและคณะวีไอพีจากต่างประเทศเดินทางเข้าประเทศไทยโดยไม่ต้องกักตัว 14 วัน ตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9
    ต่อมา พล.ร.ท.กฤชพล เรียงเล็กจำนงค์ ผู้อำนวยการการท่าอากาศยานอู่ตะเภา ชี้แจงถึงกรณีทหารอียิปต์เข้าพักในโรงแรมจังหวัดระยองระหว่างเครื่องบินแวะพักเติมน้ำมันสนามบินอู่ตะเภาตรวจพบการติดเชื้อโควิด-19 ว่า ขั้นตอนการปฏิบัติสำหรับผู้โดยสารที่เดินทางเข้ามาในท่าอากาศยานอู่ตะเภาต้องปฏิบัติการตามมาตรการที่ ศบค.กำหนด โดยการท่าอากาศยานอู่ตะเภาจะมีศูนย์ปฏิบัติการที่แต่งตั้งขึ้นโดยผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามคำสั่งของ ศบค.ที่นายกรัฐมนตรีลงนามไปเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ที่ให้อำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดในการออกกฎ กติกา การบริหารจัดการต่างๆ โดยอู่ตะเภาจะมีด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ มีคณะทำงานที่มีเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขมาปฏิบัติงาน ร่วมกับทางตรวจคนเข้าเมืองทำการคัดกรองโรคหรือสอบสวนโรค  (PUI) หากไม่พบผู้ต้องสงสัยหรือไม่มีผู้ใดมีพฤติการณ์ที่เสี่ยงต่อการติดต่อของโรค หรือไม่พบภาวะผิดปกติใดๆ ขั้นตอนก็จบลงและส่งต่อไปเข้าที่พัก ส่วนที่รับผิดชอบคือสาธารณสุขจังหวัดระยอง เพื่อรอการประเมินการคัดกรอง ทาง State Quarantine ก็จะรับไป
    สำหรับคณะดังกล่าวมีทั้งหมด 31 คน คาดว่ามีเพียงหนึ่งคนในคณะนั้นหนีออกมาข้างนอกระหว่างที่เข้าพัก แต่คนที่หนีออกมาคือคนที่ตรวจพบเชื้อหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ คงต้องถามรายละเอียดจาก ศบค. ทั้งนี้ ยืนยันว่าขั้นตอนการตรวจสนามบินไม่พบความผิดปกติ ซึ่งการตรวจสอบทำด้านนอกอาคารผู้โดยสาร ไม่ได้เข้ามาปะปนกับในอาคารผู้โดยสาร เพราะเป็นลักษณะของ State Aircraft มีการแจ้งเข้าออกในประเทศล่วงหน้า และต้องได้รับอนุญาตในเรื่องแผนการบิน และตารางการบินอยู่ในประเทศ ซึ่งมีหน่วยงานรับผิดชอบอยู่แล้วที่ประเทศต้นทาง จะต้องประสานมาทางกระทรวงการต่างประเทศ สถานทูตในประเทศไทย สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เป็นขั้นตอนทางการทูต หรือ Diplomatic  Clearance ซึ่งการท่าอากาศยานฯ ไม่มีอำนาจไปยับยั้ง แต่มีอำนาจในการตรวจสอบตามมาตรการที่กำหนดเพื่อควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส
    พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวยืนยันว่า กองทัพบกและ พล.อ.อภิรัชต์ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้นกับการเดินทางมาไทยของทหารสัญชาติอียิปต์ที่ติดโควิด-19 พร้อมลูกเรือ ในฐานะที่เป็นหนึ่งใน 11 กลุ่มชาวต่างชาติที่สามารถเข้าประเทศไทยได้ ตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9  แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในการสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 6) โดยจัดอยู่ในกลุ่มผู้ควบคุมยานพาหนะ ซึ่งเข้ามาในราชอาณาจักรตามภารกิจ และมีมาตรการรองรับในการกำกับดูแล ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนได้ใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูล โดยเฉพาะการติดเทรนด์ #ในทวิตเตอร์ และโซเชียลมีเดีย กล่าวหาและเชื่อมโยงให้เกิดความเข้าใจผิดว่ากองทัพบกหรือผู้บัญชาการทหารบกมีส่วนเกี่ยวข้อง
    ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดระยอง ต.เนินพระ อ.เมืองระยอง จ.ระยอง นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ  ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง กล่าวภายหลังเรียกประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดระยองเป็นการด่วนว่า หลังได้รับรายงานจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดระยอง พบว่ามีกลุ่มทหารที่เข้าพักโรงแรมแห่งหนึ่งในจังหวัดมีผลเป็นบวก 1 ราย จังหวัดระยองได้สั่งการให้ทีมสอบสวนโรค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลงไปสอบสวนโรค ตรวจสอบข้อเท็จจริง สอบสวนบุคคลที่มีความเสี่ยงในการสัมผัสใกล้ชิด ซึ่งมีตัวแทนจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่ร่วมสอบสวนโรคด้วย
    ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนว่าจะมีผู้ที่มีการสัมผัสอย่างไร ในส่วนของห้างสรรพสินค้ายังไม่ทราบว่ามีกลุ่มทหารไปเดินเที่ยวกี่ราย และคนที่ติดเชื้อไปด้วยหรือไม่ ซึ่งจะมีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของโรงแรมอย่างละเอียด คาดว่า 1-2 วันนี้น่าจะชัดเจนว่าไปที่ไหนมาบ้าง เบื้องต้นขณะนี้ได้มีการสั่งปิดห้องพักและพื้นที่ชั้นบนสุด 2 ชั้นของโรงแรมแห่งดังกล่าวที่กลุ่มทหารอียิปต์เข้าพัก และสั่งกักตัวพนักงานโรงแรม 2 คนที่ขึ้นไปเสิร์ฟอาหารบนห้องของกลุ่มทหารดังกล่าว
    นพ.สุนทร เหรียญภูมิการกิจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดระยอง กล่าวว่า ขณะนี้ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจหาเชื้อจากผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ เข้าเก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อของพนักงานที่สัมผัสใกล้ชิดรวม 12 คนเพื่อนำไปตรวจสอบที่ รพ.ระยอง และกำลังคัดกรองพนักงานที่ทำงานในวันที่ผู้ติดเชื้อเข้าพัก
ระยองผวาทั้งจังหวัด
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวจังหวัดระยองหลังทราบว่ามีกลุ่มทหารที่ติดโควิดเดินเที่ยวห้างในจังหวัดระยองต่างก็เกิดความวิตกกังวล โดยมีการตรวจสอบในช่องทางออนไลน์หาข้อมูลว่าทหารชาวอียิปต์เข้ามาพักโรงแรมแห่งใด และเดินทางไปที่ใดบ้าง พร้อมวิจารณ์ไปต่างๆ นานากรณีรัฐบาลปล่อยให้บุคคลพิเศษเข้ามาในประเทศทำให้เสี่ยงต่อการระบาดระลอก 2
     นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข กล่าวถึงกรณีทหารอียิปต์ที่มาพักโรงแรมใน จ.ระยอง และตรวจพบเชื้อโควิด-19 ว่า ตัวโรงแรมถูกสั่งปิดแล้ว และพบผู้มีความเสี่ยงสัมผัสจึงได้สั่งให้กักตัวเองเพื่อดูอาการ และจะมีการติดตามสอบสวนบุคคล รวมทั้งการตรวจเชิงรุกและสุ่มตรวจในวงกว้าง เพื่อขีดวงในการป้องกันการแพร่ระบาด ทั้งนี้ ได้รับรายงานว่าทหารอียิปต์ที่เข้ามาพักไม่ให้ความร่วมมือในการตรวจสวอป (สารคัดหลั่ง) และได้ออกไปเดินห้างสรรพสินค้า คือห้างเซ็นทรัลและห้างแหลมทองตั้งแต่เวลา 11.00-15.00 น. ดังนั้นจะต้องมีการติดตามจากกล้องวงจรปิดในการสอบสวนว่าไปในส่วนไหน  สัมผัสใครบ้าง รวมถึงรถที่ใช้เดินทางจากโรงแรมไปห้างด้วย
    "ปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นจะต้องพักในโรงแรมเท่านั้น แต่ไม่เชื่อฟัง เดินทางออกนอกโรงแรม ไม่ยอมให้ตรวจ ขัดขืน จึงต้องประสานไปที่สถานทูตถึงได้ให้ความร่วมมือ"
    รมช.สาธารณสุขกล่าวว่า ขอให้มั่นใจว่าจะขีดวงให้กว้างที่สุดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อใน จ.ระยอง โดยในวันพรุ่งนี้ตนจะลงไปในพื้นที่ด้วย ครั้งนี้ถือเป็นหนึ่งปัจจัยที่มีโอกาสทำให้เกิดการแพร่ระบาดระลอก 2 ได้ แต่จะพยายามดำเนินการอย่างรอบคอบให้ดีที่สุด หากผลสอบสวนพบว่ามีจุดบกพร่องอย่างไรก็จะดำเนินการแก้ไขไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นอีก จะต้องคุยกันว่าต้องมีขั้นตอนปฏิบัติที่ชัดเจน หน่วยงานใดรับผิดชอบต้องคุมให้ได้ก็จะไม่มีปัญหา
    พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ได้กำชับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ และกระทรวงแรงงาน ให้ร่วมกันปฏิบัติการเชิงรุก คุมเข้มเฝ้าระวัง สกัดกั้น กวาดล้าง ปราบปรามขบวนการลักลอบนำแรงงานต่างด้าวเข้าเมืองผิดกฎหมาย ทั้งพื้นที่ชายแดนและพื้นที่ชั้นในต่อเนื่อง ควบคู่กับการรุกตรวจสอบคัดกรองแรงงานต่างด้าวในสถานประกอบการ ในขณะที่ความต้องการแรงงานสูงและพบสถิติการจับกุมแรงงานต่างด้าวเข้าเมืองผิดกฎหมายมากขึ้น หลังมาตรการผ่อนคลายควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 พร้อมย้ำต้องไม่มีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องหรือรับประโยชน์โดยเด็ดขาด
    โดย พล.อ.ประวิตรขอให้กองทัพโดยกองกำลังป้องกันชายแดนทั้งทางบกและทางน้ำ เข้าไปสนับสนุนภารกิจการสกัดกั้นแรงงานต่างด้าวตามพื้นที่ชายแดน โดยเพิ่มความถี่การลาดตระเวนตามช่องทางธรรมชาติมากขึ้น และให้ประสานกองกำลังป้องกันชายแดนของประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะเมียนมาและกัมพูชาให้ร่วมแก้ปัญหาการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายที่มีมากขึ้น
    สำหรับช่องทางผ่านแดนและพื้นที่ชั้นในเข้ามา ขอให้ฝ่ายปกครองและตำรวจร่วมกันเฝ้าระวังและบังคับใช้กฎหมายตามข้อกำหนดกับการผ่านแดน ควบคู่กับการตรวจคัดกรองควบคุมโรคอย่างเข้มข้น  พร้อมทั้งเปิดปฏิบัติการกวาดล้างจับกุมเครือข่ายขบวนการลักลอบนำแรงงานต่างด้าวเข้าเมืองผิดกฎหมายในทุกพื้นที่อย่างต่อเนื่องจริงจัง โดยสืบโยงไปถึงผู้อยู่เบื้องหลังและปลายทางนายจ้างที่รับแรงงานผิดกฎหมายเข้าทำงาน
    นอกจากนี้ยังได้ขอให้กระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานจัดหางานทุกจังหวัด เฝ้าระวังติดตามความเคลื่อนไหวและแนะนำคนต่างด้าวในพื้นที่ให้ปฏิบัติถูกต้องตามกฎหมาย พร้อมทั้งรุกเข้าไปตรวจสอบแรงงานต่างด้าวตามสถานประกอบการกลุ่มเสี่ยงมากขึ้น โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมประมง
    พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผยว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา  ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. ซึ่งกำกับดูแลงานด้านความมั่นคงและกิจการพิเศษ กำชับ กวดขันหน่วยงานในสังกัดที่เกี่ยวข้อง เพิ่มความเข้มในการตรวจคัดกรองบุคคล หรือยานพาหนะตามช่องทางจุดผ่านแดนถาวร จุดผ่อนปรน และตามแนวช่องทางธรรมชาติ สกัดกั้นบุคคล หรือขบวนการขนแรงงานต่างด้าวที่จะลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมายอย่างเข้มข้น.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"