ชาวนาพิจิตรยังระทมสภาพแม่น้ำยม 1 ใน 4 เส้นเลือดใหญ่ของแม่น้ำเจ้าพระยา ยังแห้งขอดยาวนานข้ามปี วันนี้กลายเป็นสนามเด็กเล่น ส่วนเกษตรจังหวัดพิจิตร เผยพื้นที่ปลูกข้าวนาปี 1.8 ล้านไร่ เหตุจากภัยแล้ง มีผู้แจ้งปลูกข้าวนาปีเพียง 4.7 แสนไร่ หรือคิดเป็น 26% เท่านั้น ส่วนพื้นที่อีกกว่า 1 ล้านไร่ ทำอะไรไม่ได้เลย เหตุไม่มีน้ำ

13 ก.ค.63 - จากสถานการณ์ภัยแล้งที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดพิจิตร โดยเฉพาะลุ่มน้ำยม ประกอบไปด้วยพื้นที่ อ.สามง่าม อ.โพธิ์ประทับช้าง และ อ.โพทะเล ชาวนายังคงร้องทุกข์โอดครวญว่าไม่สามารถทำนาปีเพาะปลูกข้าวได้เหมือนดั่งเช่นทุกปีที่ผ่านมา สภาพแม่น้ำยมแห้งขอดมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2562 มาจนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีน้ำ รวมถึงไม่มีฝนตก จึงทำให้ไม่สามารถทำนาปลูกข้าวได้ จะมีก็แต่เพียงเกษตรกรบางรายที่มีบ่อน้ำในไร่นา หรือ มีบ่อสูบน้ำบาดาลเท่านั้นที่สามารถสูบน้ำขึ้นมาทำนาได้

นางเฉลียว แสงสว่าง อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18/1 หมู่ 11 บ้านวังปลาทู ซึ่งมีนาข้าว 22 ไร่ แต่ถึงทุกวันนี้ทำนาได้เพียง 11 ไร่งใช้วิธีสูบน้ำบาดาลขึ้นมาใช้เพาะปลูก แต่ทำมากกว่านี้ไม่ได้เพราะไม่คุ้มต้นทุน และ นายวิศิษฏฐ์ ปานแย้ม อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 46/3 หมู่ 11 บ้านวังปลาทู ต.กำแพงดิน อ.สามง่าม จ.พิจิตร มีนาข้าว 52 ไร่ ถึงวันนี้ยังไม่ได้ลงมือปลูกข้าวเลยแม้แต่ต้นเดียว โดยทั้งคู่เป็นชาวนาที่ต้องอาศัยน้ำจากแม่น้ำยม ก็ร้องทุกข์ว่า จนถึงทุกวันนี้ยังไม่มีน้ำจากแม่น้ำยม หรือจากน้ำฝนให้ทำนาเลย เดือดร้อนมาก เกรงจะไม่มีรายได้ใช้หนี้ อยากวิงวอนให้รัฐบาลสร้างประตูระบายน้ำในแม่น้ำยมเพื่อกักเก็บน้ำเป็นช่วงๆ รวมถึงหาทางเยียวยาช่วยเหลือเกษตรกรด้วย

นายวีระชัย เข็มวงษ์ เกษตรจังหวัดพิจิตร เปิดเผยว่า จังหวัดพิจิตรมีพื้นที่การเกษตรประมาณ 2.2 ล้านไร่ เป็นพื้นที่ปลูกข้าวนาปี 1.8 ล้านไร่ เป็นพื้นที่ที่สามารถปลูกข้าวนาปรังได้ 6.4 ล้านไร่ ในช่วงปี 62/63 ทั้งนาปี นาปรัง ประสบปัญหาภัยแล้ง แต่ปีนี้ฤดูกาลปลูกข้าวนาปี 63/64 วิกฤติภัยแล้งหนักหน่วงกว่าเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา กล่าวคือ วันนี้ชาวนาขึ้นทะเบียนปลูกข้าวนาปีได้แค่เพียง 4.7 แสนไร่ หรือคิดเป็น 26% เท่านั้น ส่วนนาข้าวอีกราว 1.3 ล้านไร่ ปีนี้ไม่สามารถปลูกข้าวได้ ชาวนาตั้งความหวังที่กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศว่ากลางเดือนกรกฎาคม 2563 จะมีฝนตกลงมาก็อาจจะได้ทำนา แต่จนถึงทุกวันนี้ในเขตพื้นที่จังหวัดพิจิตรก็ยังคงเป็นอย่างสภาพที่เห็น จากเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลต่อเศรษฐกิจและรายได้ของชาวนาพิจิตร ซึ่งก็คงต้องหวังพึ่งรัฐบาลที่จะช่วยเหลือ หรือมีมาตรการช่วยเหลือชาวนาอย่างไรต่อไป