สัญญาณแห่งความยุ่งยาก


เพิ่มเพื่อน    

        อือมม์ม์ม์...ต้องเรียกว่า เหี่ยวมาแต่ไกล...สำหรับ พ่อใหญ่บิ๊กจิ๋ว อดีตนายกรัฐมนตรี อดีตผู้บัญชาการทหารบก และอดีตอะไรต่อมิอะไรอีกเยอะแยะมากมาย ที่ได้ถือฤกษ์ ถือจังหวะ เวลา แบบไหน อย่างไหน และเพราะอะไรก็มิอาจทราบได้ ออกมาพูดจาว่ากล่าวในเรื่องการเมือง เรื่องบ้าน เรื่องเมือง ทั้งที่เคยหันไปเต้นรำย็อกๆ แย็กๆ จนใครต่อใครคิดว่าไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องการมง การเมือง อีกต่อไปแล้ว...

                                    -----------------------------------------------

        แต่โดยคำพูด คำจา ของ พ่อใหญ่บิ๊กจิ๋ว โดยรวมๆ แล้ว...ก็คงไม่ถึงกับมีอะไรมาก ออกไปทางกลางๆ แบบ ผู้หลัก-ผู้ใหญ่ โดยทั่วไป ไม่ได้ส่อเจตนาร้าย และก็ไม่ได้ถึงกับส่อเจตนาที่จะเป็นกองหนุน กองเชียร์ ต่อผู้ที่รับหน้าที่บริหารชาติ บ้านเมือง ในปัจจุบัน แบบประเภทพวก สูดกลิ่นมาดามหอมชื่นใจ แต่อย่างใด ออกไปทางพยายามจะให้สติ เตือนสติ อะไรทำนองนั้น แม้ว่าตัวเองอาจเหลืออยู่แค่ สตังค์ เพราะด้วยวัย ด้วยสังขาร ระดับใกล้จะ 90 ใกล้จะแง้มฝาโลงเข้าไปทุกที แค่ไม่ถึงกับต้องเป็น อัลไซเมอร์ ก็ต้องถือว่ายอดแล้ว!!! สิ่งที่เหลือไว้เป็น สติ มันจึงอาจต้องมีอันลดๆ ลงไปมั่ง...

                                     -------------------------------------------------

        แต่จะอย่างไรก็ตาม...การปรากฏตัว การโผล่หน้า โผล่ตา ให้พอได้เห็นหน้า เห็นตา อีกครั้งของ พ่อใหญ่บิ๊กจิ๋ว ก็อาจถือเป็น สัญญาณ หรือ สัญลักษณ์ ให้พอได้นึกถึงความยุ่งยาก ลำบาก ความผันผวน ปรวนแปร ของสิ่งที่เรียกว่า การเมือง นับตั้งแต่เท่าที่เคยผ่านมาเมื่อครั้งอดีต หรือครั้งที่เคยทำให้ผู้ซึ่งเคยได้ชื่อ ฉายาว่า ขงเบ้งแห่งกองทัพบก ต้องกลายสภาพเป็น หมงเท่ง หรือ ม่องเท่ง เอาง่ายๆ โดยอาจนำเอามาเปรียบเทียบ เทียบเคียง กับปัจจุบัน ไปจนถึงความหนักหนา สาหัส ที่กำลังจะมาถึงในอนาคตเบื้องหน้าได้บ้าง ไม่มากก็น้อย ซึ่งเผลอๆ...อาจหนักหนา สาหัส ซะยิ่งกว่ายุคที่ พ่อใหญ่บิ๊กจิ๋ว ยังคงเต่งตึง กระชุ่มกระชวย ยังไม่ถึงกับ เหี่ยวฟ้า เหมือนเช่นทุกวันนี้...

                                  ----------------------------------------------------

        คือพูดง่ายๆ ว่า...เมื่อย่างเข้าสู่ไตรมาส 2 ใกล้จะถึงไตรมาส 3 เข้าไปทุกที ฉากสถานการณ์ความเป็นไปของบ้านเมืองมันชักจะเริ่มหนักพอๆ กับช่วงที่เคยทำให้ พ่อใหญ่บิ๊กจิ๋ว ต้องตัดสินใจลาออก เมื่อช่วงลดค่าเงินบาท หรือช่วงวิกฤติต้มยำกุ้ง เอาเลยก็ไม่แน่ โดยจะหวังให้อะไรต่อมิอะไรมันเด้งดึ๋งขึ้นมา ในช่วงไตรมาส 4 ผงกหน้า-ผงกหลัง กันในแบบ V-shaped กันเลยนั้น ยังไงๆ...ก็น่าจะเป็ง-ปาย-ม่าย-ล่าย อยู่แล้วแน่ๆ การประคับประคองชาติบ้านเมือง ให้สามารถก้าวผ่านวิกฤตการณ์เศรษฐกิจและวิกฤการณ์สุขภาพไปพร้อมๆ กัน โดยไม่ถึงขั้นต้อง ลาออก แบบนายทหารรุ่นพี่ หรือแบบที่ทำให้ ขงเบ้ง ต้องกลายเป็น หมงเท่ง เอาง่ายๆ มันจึงออกจะเป็นอะไรที่ยากซ์ซ์ซ์เอามากๆ...

                                  ----------------------------------------------------

        ยิ่งต้องเจอกับสิ่งที่ถือเป็น ของแสลง สำหรับบรรดาทหารหรืออดีตทหารทั้งหลาย...นั่นคือบรรดา มนุษย์พันธุ์พิเศษ อย่างพวก นักการเมือง ที่ล้วนแล้วแต่เขี้ยวลากดิน-เกล็ดแตกลายงา-มีหาง-มีปีก แถมพ่นไฟได้ด้วย ยิ่งย่อมมีโอกาส ตาย...กับ...ตาย หรือ ไม่ตายก็เลี้ยงไม่โต สูงยิ่งขึ้นไปเท่านั้น พูดง่ายๆ ว่า...ขณะที่ปวงชนชาวไทย หรือบรรดาทวยไทยทั้งหลาย แทบไม่มีอะไรจะ แ-ก แต่ความปรารถนา ความต้องการ ที่คว้าเก้าอี้รัฐมนตรีกระทรวงนั้น กระทรวงนี้ มารับประทาน ของบรรดานักการเมืองทั้งหลาย ก็ยังเต็มไปด้วยความกระเหี้ยนกระหือรือ หรือเต็มไปด้วย ความหื่น เอามากๆ...

                                ------------------------------------------------------

        แนวโน้มการปรับคณะรัฐมนตรี...ที่ผู้ซึ่งต้องทำหน้าที่รับผิดชอบบ้านเมือง อย่างอดีตทหารเช่นท่านนายกฯ บิ๊กตู่ พยายายามอั้นๆ เอาไว้ ชนิดขนลุกซู่ หน้าเขียว-หน้าเหลืองมาโดยตลอด ไปๆ-มาๆ แล้ว มันคงอั้นลำบาก โอกาสที่จะต้องขี้ราด ขี้แตกขี้แตน ไปก่อนกำหนดการ ดูจะเป็นอะไรที่เลี่ยงไม่ได้ หรือเลี่ยงลำบากยิ่งเข้าไปทุกที แม้ว่าการลาออกจากพรรค พลังประชารัฐ ของ 4 กุมาร จะเป็นไปตามแนวทางเกียรติยศและศักดิ์ศรี หรืออะไรต่อมิอะไรก็แล้วแต่ แต่โดย แนวทางการเมือง แล้ว ย่อมหนีไม่พ้นที่จะต้องหาทางรวบหัว รวบหาง นำเอากระทรวงแต่ละกระทรวง ไม่ว่า 3 หรือ 4 หรือ 5 กระทรวง เข้ามาอยู่ใน โควตา ของพรรคพลังประชารัฐให้จงได้...

                                 ---------------------------------------------------

        ดังนั้น...ถ้าหากผู้ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบชาติบ้านเมือง ผู้ที่เป็นผู้นำรัฐบาล อย่างท่านนายกฯ บิ๊กตู่ ไม่อยากให้ตัวเอง ขาลอย แนวโน้มที่จะต้องมอบกระทรวงพลังงานให้กับ ซีทีเอ็กซ์ มอบกระทรวงการคลังให้กับ ตาโต หรือให้กับ โคล้านตัว ฯลฯลฯ ก็แล้วแต่ จึงอาจต้องถือเป็น ข้อเสนอที่เอ็งมิอาจปฏิเสธ อะไรทำนองนั้น และถ้าหากต้อง เปิดผอบพบนางโมรา หรือต้องปรับ ครม.ไปในแนวนี้ ก็คงไม่ต้องเสียเวลานิมนต์พระขึ้นไปบนเมรุ ไปชักผ้าบังสุกุลใดๆ อีกต่อไป เรียกว่า...เผาได้เลย!!! รอแค่ช่วงเวลาเก็บกระดูก เก็บขี้เถ้า บรรจุไว้ในโถเพื่อมอบให้ทายาทนำไปเป็นของที่ระลึก หรือนำไปกราบไหว้บูชาในโอกาสต่อไป...

                              ---------------------------------------------------

        ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก P.J. O’Rourke... “Politicians are interested in people. Not that is always a virtue. Fleas are interest in dogs. – การที่นักการเมืองให้ความสนใจประชาชนนั้น ใช่ว่าจะต้องเป็นเพราะเรื่องคุณธรรมเสมอไป เพราะแม้แต่หมัดยังให้ความสนใจสุนัขเช่นกัน...

                                  -----------------------------------------------------


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"