12 ก.ค.63- เมื่อช่วงเช้า พ.ต.ท.วิรัตน์  เตชนนท์  สารวัตรสอบสวน สภ.บางปู จ.สมุทรปราการ รับแจ้งมีชายคาดว่าถูกทำร้ายเสียชีวิตอยู่ที่บริเวณข้างศาลาวัดตำหรุ หมู่ 4 ต.บางปูใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและมูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ และกู้ภัยบางปู 811 เดินทางไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบร่างของชายไม่ทราบชื่ออายุประมาณ 35-40 ปี นอนจมกองเลือดเสียชีวิตอยู่ในร่องระบายน้ำข้างศาลา สภาพสวมเสื้อแขนยาวลายสก็อตสีขาวแดง ที่สวมทับเสื้อยึดคอกลมแขนสั้นสีดำที่สวมใส่อยู่ด้านใน ใส่กางเกงขายาวสีดำไม่ใส่รองเท้า  ที่มือข้างซ้ายยังกำเศษกิ่งไม้เอาไว้แน่น จึงได้ให้มูลนิธินำร่างผู้ตายขึ้นมาตรวจสอบ พบว่ามีบาดแผลที่บริเวณใบหน้าและศีรษะ ซึ่งยังไม่สามารถยืนยันว่าเกิดจากการตกลงมากระแทกกับพื้นด้านล่างหรือไม่ และขาข้างขวาของผู้ตายก็หัก คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ชั่วโมง จึงได้มอบศพให้มูลนิธินำส่งชันสูตรที่สถาบันนิติเวช

จากการตรวจสอบโดยรอบทีเกิดเหตุไม่พบร่องรอยการต่อสู้แต่อย่างใด มีเพียงเศษธนบัตรใบละ 100 และ 20 บาทที่ถูกฉีกจนขาดตกกระจายอยู่เกลื่อนพื้น ขณะที่ศาลาท่าน้ำซึ่งอยู่ห่างจากศาลาที่เกิดเหตุประมาณ 20 เมตรได้พบมีรอยเลือดหยดอยู่ จึงเก็บตัวอย่างเลือดส่งไปตรวจสอบว่าเป็นเลือดของผู้ตายหรือไม่

จากการสอบถามพระสายชล อายุ 53 ปี ซึ่งเป็นพระลูกวัดที่เกิดเหตุ กล่าวว่า ผู้ตายทราบแต่เพียงชื่อเล่นชื่อว่านายตรง น่าจะเป็นคนเร่รอนเพราะมาอาศัยนอนอยู่ที่ศาลาท่าน้ำและเพิงพักใต้สะพาน ที่อยู่ข้างวัด และชอบนั่งดื่มหล้ากับพรรคพวกที่เพิงใต้สะพานอยู่เป็นประจำ และเมื่อสองสามวันที่ผ่านมานายตรงได้เกิดทะเลาะวิวาทกับพรรคพวกในวงเหล้า จนถึงขั้นลงมือทำร้ายกันและนายตรง ผู้ตายใช้ไม้ไล่ตี จนต้องวิ่งหนีตาย ซึ่งก็ไม่ทราบเช่นกันว่าทะเลาะกันเรื่องอะไร และเมื่อช่วงเย็นของวานนี้ก็ยังเห็นผู้ตายนั่งเล่นอยู่ที่ศาลาท่าน้ำอยู่เลย จนกระทั่งในช่วงเช้าของวันนี้มีชาวบ้านที่มาทำบุญที่วัดได้เดินไปบอกว่ามีชายนอนจมกองเลือดเสียชีวิตอยู่ข้างศาลาจึงออกมาดูและแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ตั้งประเด็นสาเหตุการณ์เสียชีวิตเอาไว้ 2 ประเด็น ประเด็นแรกผู้ตายอาจจะดื่มเหล้าจนเมาและเดินขึ้นมาที่ระเบียงศาลาชั้นสองเพื่อที่จะอาศัยหลับนอน แต่เกิดพลัดตกลงมาหัวทิ่มลงไปมาร่องระบายน้ำ ส่วนประเด็นที่สอง ผู้ตายอาจจะถูกพรรคพวกที่เคยถูกผู้ตายไล่ทำร้ายเมื่อ3 วันก่อนได้หวนกลับมาเอาคืนรุมทำรายผู้ตายจนหมดสติ ก่อนที่อุ้มร่างของผู้ตายขึ้นไปบนระเบียงชั้นสองและโยนลงมา เพื่อเป็นการอำพราง อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะได้เร่งทำการสอบสวนหาข้อเท็จจริงอีกครั้งเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.