11 ก.ค.63 - น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ระหว่างการลงพื้นที่แก้ปัญหาให้ประชาชนเขตบางกะปิว่า ตนเชื่อว่า การตั้งหัวหน้าพรรค และรองหัวหน้าพรรค เป็นความตั้งใจดีของผู้บริหารพรรค ที่มีความมุ่งหวังให้พรรคพลังประชารัฐมีความแข็งแกร่ง เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี 

ส่วนในอนาคตคงต้องติดตามต่อไปว่า จะมีการเปลี่ยนแปลงไปในรูปแบบใด แต่ต่อให้คณะบริหารพรรคจะมีการเปลี่ยนแปลง หน้าที่ ส.ส.ก็ยังเป็นเรื่องสำคัญที่สุดในการทำหน้าที่เพื่อประชาชน ไม่ว่าจะอยู่ในโครงสร้างจุดไหน หน้าที่ ส.ส.ก็เป็นกลไกสำคัญ ในการเชื่อมโยงประชาชน แก้ไขปัญหาให้ประชาชนมีความสุขมากที่สุด 

ผู้สื่อข่าวถามว่าการแต่งตั้งทีมโฆษกซึ่งเป็น ส.ส.หน้าใหม่ จะรับมือกับสถานการณ์ทางการเมืองได้หรือไม่ น.ส.วทันยา กล่าวว่า ส.ส.ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นโฆษก ถือว่าเป็นคนรุ่นใหม่ มีความรู้ความสามารถ การทำหน้าที่โฆษกพรรคถือเป็นความท้าทายใหม่ ที่จะสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้พรรคได้ 

เมื่อถามว่าทีมโฆษกจะกลายเป็นบ่อน้ำมันของพรรคหรือไม่ น.ส.วทันยา กล่าวว่า โฆษกถือเป็นส่วนสำคัญในการประชาสัมพันธ์ของพรรค แต่สุดท้ายก็อยู่ที่กลไกของ ส.ส.ในการทำงานร่วมกับประชาชน เราเป็น ส.ส.สรุ่นใหม่ ก็ทำงานเพื่อประชาชนอย่างเต็มที่

ด้านน.ส.ภาดาท์ วรกานนท์ ส.ส.เขตราชเทวี-พญาไท-จตุจักร พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า พวกเราทั้ง 6 ไม่ได้ปรารถนาตำแหน่งใด ๆ ในพรรคเลย เพราะตำแหน่งเหล่านี้ ไม่ได้ทำให้เราได้เป็น สส.ในการเลือกตั้งครั้งหน้า แต่การลงพื้นที่แก้ไขปัญหาให้กับประชาชนในแต่ละพื้นที่ จะเป็นการสร้างความศรัทธาในตัวเรา นั่นเป็นที่มาของการที่เราจะได้รับความไว้วางใจเลือกเราเข้ามาเป็น ส.ส.ในสมัยต่อไป 

นอกจากนี้ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ นำโดย น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส.บัญชีรายชื่อ,น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ ส.ส.เขตบางกะปิ-วังทองหลาง,นายศิริพงษ์ รัสมีส.ส.เขตหนองจอก,นางกรณิศ งามสุคนธ์รัตนา ส.ส.เขตคลองเตย-วัฒนา และ น.ส.ภาดาท์ วรกานนท์ ส.ส.เขตราชเทวี-พญาไท-จตุจักร  ลงพื้นที่หมูบ้านกิตตินิเวศน์ ซอย 1 เขตบางกะปิ เพื่อรับฟังปัญหาน้ำท่วมขัง อันเป็นผลมาจากการขยายความเจริญและมีหมู่บ้านจัดสรรที่เพิ่มมากขึ้นโดยรอบส่งผลกระทบต่อการระบายน้ำ ทำให้เวลาฝนตกน้ำท่วมขังเป็นประจำ ประกอบกับพื้นที่ของหมูบ้านเป็นของเอกชน ไม่ใช่พื้นที่ของ กทม.ทำให้เวลาเกิดปัญหา หรือ ขอความช่วยเหลือไปยังสำนักงานเขต สำนักงานเขต กทม.ไม่สามารถเข้ามาแก้ปัญหาได้ 

น.ส.ฐิติภัสร์ กล่าวว่า สัปดาห์หน้า โอ๋ ตน และ ส.ส.พลังประชารัฐรวม 6 คนได้ยื่นญัตติต่อสภาผู้แทนราษฎร เพื่อตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหาการบังคับใช้ข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร กรณีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการพัฒนาทรัพย์สินที่ประชาชนทั่วไปใช้สอยร่วมกันในพื้นที่ส่วนบุคคล เพราะมีปัญหาในลักษณะนี้เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ ประกอบกับก่อนหน้านี้เวลาเกิดปัญหาพอ กทม.เข้ามาดำเนินการแต่ถูกเอกชนเจ้าของพื่นที่ฟ้องดำเนินคดี ดั้งนั้นพวกเราในฐานะ ส.ส.กทม.เล็งเห็นปัญหานี้จึงอยากแก้ปัญหาให้สอดรับกับการแก้ กฎหมายผังเมือง ที่ไม่ใช่ใครอยากสร้างอะไรก็สร้างโดยไม่สนใจความเป็นอยู่และระบบสาธารณูปโภคของประชาชนในพื้นที่

น.ส.วทันยา ระบุว่า การลงพื้นที่ของพวกเรา คือการทำงานของ ส.ส.รุ่นใหม่ ทำงานการเมืองใหม่ๆ เพื่อแก้ปัญหาให้กับประชาชน ซึ่งจากการลงพื้นที่หลายพื้นที่ได้รับการบอกเล่าว่าไม่เคยเจอหน้า ส.ส.ในพื้นที่เลย พอได้ยินแบบนี้พวกเราก็ดีใจ นอกจากนี้การทำงานของ ส.ส.ฐิติภัสร์ ถือเป็นตัวอย่างการทำงานเพื่อผลักดันไปสู่การแก้ปัญหาไปสู่การแก้ไข ไม่ใช่ทำแค่ปาก แต่ทำจริง ปัญหาที่เกิดขึ้น และแนวทางแก้ไขปัญหาของทุกท่าน เช่น การยกพื้นที่ให้ กทม.ถือเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แต่เรื่องของการออกแบบผังเมืองของประเทศถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะไม่ได้รองรับผังเมืองในระยะยาวดังนั้นต้องไปแก้ไขตรงนั้น เพื่อไม่ให้ปัญหาเกิดซ้ำๆ อีก ซึ่งพวกเราจะผลักดันแก้ปัญหาให้ได้ 

"พวกเราทุกคน เป็น ส.ส.เรามั่นใจ ตั้งใจ ทำงานให้ประชาชน เราเป็นตัวแทนประชาชนที่เลือกเรามา วันนี้เราเป็นผู้แทนต้องทำงานโดยไม่เลือกที่รักมักที่ชัง ไม่เลือกปฏิบัติทำงานให้ดีที่สุด การทำงานในบทบาท ส.ส.คือ เป็นฝ่ายนิติบัญญัติ ไม่สามารถเข้าไปบังคับหน่วยงานราชการได้โดยตรง แต่จะเป็นคนสะท้อนปัญหาและประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการดำเนินการแก้ปัญหา สิ่งสำคัญคืออันไหนที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงแก้กฎหมายได้ เราก็จะทำ" น.ส.วทันยาระบุ