จากกระแสละคร "บุพเพสันนิวาส" ที่ปลุกความเป็นไทยให้เกิดขึ้นในยามนี้ได้อย่างคึกคัก ทั้งในเรื่องของแต่งกายชุดไทย อาหารไทยโบราณ ตลอดจนแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ที่ได้รับการกล่าวถึง  ส่งผลให้เมืองละโว้ หรือจังหวัดลพบุรี ซึ่งเป็นสถานที่ที่ตัวละครหลัก คือแม่หญิงการะเกดขอให้ขุนศรีวิสารวาจา หรือพี่หมื่น พระเอกของเรื่องพามาท่องเที่ยว  กลายเป็นพื้นที่ที่ได้รับความสนใจอย่างมากมาย 

นายอรรถพล วรรณกิจ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานลพบุรี   กล่าวว่า จากกระแสละครบุพเพสันนิวาส ส่งผลให้นักท่องเที่ยวเดินทางมายังจังหวัดลพบุรีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ททท. สำนักงานลพบุรี จึงจัดกิจกรรมท่องเที่ยวย้อนรอยละคร เพื่อต้อนรับนักเดินทางสู่... “แผ่นดินทองสมเด็จพระนารายณ์” ภายใต้ชื่อกิจกรรม “เที่ยวชมวัง ฟังเรื่องเล่า ตามรอย “ออเจ้า” ณ ลพบุรี” เพื่อให้ทุกคนได้มาสัมผัสแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ตามที่ชมจากในละครได้อย่างใกล้ชิด ควบคู่ไปกับการได้รับรู้เชิงประวัติศาสตร์ไปด้วย 
  สำหรับสถานที่ที่ถือเป็นไฮไลต์สำคัญคือ “พระนารายณ์ราชนิเวศน์” หรือ “วังนารายณ์” เป็นพระราชวังที่สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา และภายหลังสิ้นรัชกาลของพระนารายณ์มหาราช การก่อสร้างถูกทิ้งร้างไป จนกระทั่งถึงรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ  ให้บูรณะซ่อมแซมวังนารายณ์ขึ้นใหม่ ปัจจุบันใช้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ทรงคุณค่า
ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานลพบุรี กล่าวต่อว่า สำหรับคนที่เดินทางมาชม “วังนารายณ์“ ตอนนี้ มีกิจกรรมให้บริการชุดไทยสวมใส่ฟรี พร้อมเครื่องประดับครบครัน อีกทั้งยังจัดวิทยากรบรรยายให้ความรู้เพิ่มมากขึ้นให้พอเพียงกับจำนวนนักท่องเที่ยวด้วย และมีการขยายเวลาปิดบริการจาก 16.00 น. ไปเป็น 18.30 น. เนื่องจากมียอดนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาตามรอยละครดังเรื่องนี้ในช่วงเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุด มากกว่าวันละ 10,000 คน จากเดิมที่มีเพียง 500-600 คน 
  ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานลพบุรี กล่าวต่อว่า ลพบุรีเป็นเมืองที่มีความอุดมสมบูรณ์ไปด้วยอาหาร และเป็นศูนย์กลางสำคัญทางด้านการเมืองและการค้าในสมัยกรุงศรีอยุธยา สมเด็จพระนารายณ์มหาราช จึงโปรดให้สร้างพระราชวังที่เมืองลพบุรี สำหรับใช้แปรพระราชฐานออกว่าราชการ ต้อนรับแขกเมือง และล่าสัตว์ พระองค์เสด็จฯ มาประทับที่นี่มากถึงปีละ 8-9 เดือน และยังทรงยกให้เมืองลพบุรีเป็นราชธานีแห่งที่สองอีกด้วย ผู้มาเยือนจะได้ชื่นชมความสง่างามของพระนารายณ์ราชนิเวศน์ ในฉากที่คุณพี่หมื่น ขุนศรีวิสารวาจา พาแม่หญิงการะเกดมาเที่ยวชมเมืองละโว้  ตลอดจนสามารถชมตึกพระเจ้าเหา ท้องพระโรงพระที่นั่งดุสิตสวรรค์ธัญญมหาปราสาท พระที่นั่งสุทธาสวรรย์ และนิทรรศการเกี่ยวกับพระราชประวัติและเหตุการณ์ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์ ที่พระที่นั่งจันทรพิศาล ซึ่งได้รับการกล่าวถึงไว้ในละคร 
ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานลพบุรี  กล่าวต่อว่า ยังมีแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ที่เชื่อมโยงในกิจกรรมนี้ ซึ่งไม่ควรพลาดคือ “บ้านหลวงรับราชทูต” หรือ “บ้านวิชาเยนทร์” อีกหนึ่งสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ในละครบุพเพสันนิวาส นักท่องเที่ยวจะได้ชื่นชมความงดงามในฉากที่คุณพี่ขุนศรีวิสารวาจาพาแม่หญิงการะเกดมาเยี่ยมแม่มะลิ หรือ มารี กีมาร์ (ท้าวทองกีบม้า) ที่เมืองละโว้ สถานที่แห่งนี้สร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เพื่อใช้ต้อนรับคณะทูตจากประเทศฝรั่งเศส อีกทั้งยังเป็นบ้านพักของท้าวทองกีบม้ากับสามี คือ เจ้าพระยาวิชาเยนทร์ หรือหลวงสุรสาคร (คอนสแตนติน ฟอลคอน) ขุนนางชาวกรีก คนโปรดของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช     
 “พระที่นั่งไกรสรสีหราช” หรือ “พระที่นั่งเย็น” หรือ “พระตำหนักทะเลชุบศร” เป็นอีกหนึ่งสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ และดาราศาสตร์ของไทย ซึ่งปรากฏในละครบุพเพสันนิวาส พระที่นั่งแห่งนี้ สมเด็จพระนารายณ์มหาราชโปรดให้สร้างขึ้นเพื่อทรงสำราญพระราชอิริยาบถ มีบันทึกจากชาวฝรั่งเศสถึงสถานที่แห่งนี้ว่า “เป็นที่เหมาะสมมองท้องฟ้าได้ทุกด้าน และมีพื้นที่กว้างมากพอสำหรับที่จะติดตั้งเครื่องมือ” สมเด็จพระนารายณ์มหาราชจึงทรงใช้เป็นสถานที่ศึกษาจันทรุปราคา เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2228 ร่วมกับบาทหลวงเยซูอิต และบุคคลในคณะทูตชุดแรกที่พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งประเทศฝรั่งเศส ส่งมาเจริญสัมพันธไมตรี
ต่อด้วยการเดินชม “วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ” แหล่งโบราณคดีที่สำคัญกลางใจเมือง ศูนย์รวมความศรัทธาของชาวจังหวัดลพบุรี สถานที่แห่งนี้มีสถาปัตยกรรมที่สำคัญคือ พระปรางค์องค์ใหญ่ ก่อด้วยศิลาแลง ซึ่งสูงที่สุดในจังหวัดลพบุรี และยังมีศาลาเปลื้องเครื่อง สถานที่สำหรับพระเจ้าแผ่นดินใช้เปลี่ยนเครื่องทรงก่อนที่จะเข้าพิธีทางศาสนา
 สถานที่ท่องเที่ยวโบราณที่สำคัญของเมืองลพบุรีที่พลาดไม่ได้ คือ “ศาลพระกาฬ” ที่ประดิษฐานของ “เจ้าพ่อพระกาฬ” เทวรูปขอมโบราณ สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองลพบุรี บริเวณรอบศาลยังร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ใหญ่ และเป็นที่อยู่อาศัยของฝูงลิงจำนวนกว่า 300 ตัว   
ปิดท้ายด้วย “พระปรางค์สามยอด” สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ และเป็นแลนด์มาร์คที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดลพบุรี สร้างขึ้นในรัชสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 แห่งอาณาจักรละโว้ มีลักษณะเป็นปราสาทขอม ศิลปะแบบบายน พระปรางค์สร้างด้วยศิลาแลงเรียงกันสามองค์ มีฉนวนทางเดินเชื่อมต่อกัน มาที่นี่นอกจากจะได้ชมความงดงามของสถาปัตยกรรมขอมโบราณ ตามรอยแม่หญิงการะเกดกับคุณพี่ขุนศรีวิสารวาจาแล้ว ยังมีโอกาสได้ชื่นชมความน่ารักของน้องลิงฝูงใหญ่แบบใกล้ชิดอีกด้วย
ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานลพบุรี กล่าวต่อว่า แม้ละคร "บุพเพสันนิวาส" จะลาจอโทรทัศน์ไปแล้ว แต่ททท. สำนักงานลพบุรี ยังจัดกิจกรรมต่อยอด ด้วยการจับมือกับบริษัททัวร์ ทำแพ็กเกจโปรแกรมตามรอย “บุพเพสันนิวาส” 2 วัน 1 คืน จำนวน 2 ช่วง คือ ระหว่างวันที่ 21-22 และ 28-29 เมษายน 2561 ท่องเที่ยว 3 จังหวัดหลัก คือ ลพบุรี พระนครศรีอยุธยา และสิงห์บุรี ในราคาท่านละ 3 ,499 บาท 
เริ่มต้นการเดินทางจากกรุงเทพฯ เพื่อไปชมสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์สำคัญ อาทิ พระปรางค์สามยอด, พระที่นั่งไกรสรสีหราช, บ้านหลวงราชทูตวิชาเยนทร์, พระนารายณ์ราชนิเวศน์, วัดศรีรัตนมหาธาตุ, วัดไชยวัฒนาราม, วัดพุทธไธศวรรย์  และชมการแสดงแสงสีตลาดย้อนยุค ผู้สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ บริษัท ไทย เออีซี เซ็นเตอร์ จำกัด  โทร. 0-2382-3516-7 
ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานลพบุรี กล่าวต่อว่า   สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจังหวัดลพบุรีด้วยตัวเอง เมืองแห่งนี้ยังมีสถานที่อื่นๆ ที่น่าสนใจ อาทิ “วัลลภาฟาร์มสเตย์” อำเภอโคกสำโรง แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่ตั้งอยู่ท่ามกลางทุ่งหญ้า ทุ่งนาเขียวๆ สูดอากาศบริสุทธิ์ สดชื่นๆ มีกิจกรรมหลากหลายให้ทำ เช่น ขี่ม้า นั่งรถอีแต๋นชมทุ่ง ทำไข่เค็มดินสอพอง การสาธิตการทำนา เก็บไข่ไก่จากฟาร์ม การปั้นดิน การทำสบู่แบบง่ายๆ หรือจะนั่งรถม้าไปไหว้พระที่วัดใกล้ๆ รวมทั้งที่พักให้บริการ  โทร. 0-8217- 5633
      “ตลาดนัดชุมชน” บ้านดินมดแดง อำเภอเมืองฯ    ร้านจำหน่ายเครื่องปั้นดินเผา ทั้งกระถางต้นไม้ ข้าวของเครื่องใช้เก๋ๆ ที่ออกแบบร่วมสมัยแบบไทยๆ ที่นี่ถือเป็นศูนย์การเรียนรู้ให้กับบุคคลทั่วไปที่สนใจในวิธีการปั้นดินเป็นตุ๊กตา เป็นของใช้ ไปจนถึงการทำบ้านดินที่ใช้งานได้จริง สำหรับคนชอบของที่ระลึกแบบ hand craft  และ D.I.Y.  หรือการลงมือทำกิจกรรมต่างๆ ด้วยตัวนักท่องเที่ยวเองห้ามพลาด 
ต่อด้วย “บ้านสวนขวัญ” ชุมชนบ้านมหาสอน อำเภอบ้านหมี่ สัมผัสประสบการณ์วิถีชุมชน ด้วยการนั่งรถไถพ่วง ชมบ้านทรงไทย อายุกว่า 100 ปี ชมงานหัตถกรรมจักสานหวายฝีมือชาวบ้านที่มีความประณีตละเอียดอ่อนจนสามารถสร้างมูลค่าได้ถึงชิ้นละกว่า 50,000 บาท ของกลุ่มจักสานหวายลายวิจิตร พร้อมร่วมกิจกรรม DIY ด้วยการทำไข่เค็มใบเตย พิซซ่าเตาดิน ขนมนาบกระทะ ขนมลูกชุบ สบู่สมุนไพร ปั้นลิงดินเหนียว การทำนาแบบโบราณ ฯลฯ และกิจกรรมไฮไลต์คือ การล่องแพเปียก (สามารถล่องได้ตลอดปี) สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 08-4775-1435
     ปิดท้ายด้วย “วัดห้วยแก้ว” อำเภอบ้านหมี่ ชมเจดีย์กลางน้ำ กลางสระน้ำของวัดห้วยแก้ว รูปแบบศิลปะการก่อสร้างเป็นงานศิลปะผสมผสาน มีความเป็นไทย ขอม พม่า โดยคล้ายกับเจดีย์ทางสุโขทัยด้วย ประดับลวดลายรอบองค์พระเจดีย์คล้ายปราสาทหินแบบขอม ประดิษฐานพระพุทธรูป 8 องค์ประจำทั้ง 8 ทิศ มีสะพานทางเดินเชื่อมจากฝั่งด้านหน้าขององค์เจดีย์ตรงเข้าไปหาเจดีย์มีซุ้มประตูที่เหมือนกับโคปุระของขอม ฐานเจดีย์มีลานประทักษิณ เดินได้รอบคือถ้าจะเวียนเทียนรอบองค์เจดีย์นี้ก็สามารถทำได้
“การเลือกมาเดินทางจังหวัดลพบุรี นอกจากนักท่องเที่ยวจะได้ฟินกับภารกิจตามรอยละครดัง “บุพเพสันนิวาส” กันแล้ว ทุกท่านจะได้รับทราบเกร็ดความรู้ทางประวัติศาตร์ต่างๆ อีกมากมาย รวมทั้งเกิดความภาคภูมิใจ และร่วมกันสืบทอดความนิยมไทยให้ยั่งยืน   สอดคล้องกับกระแสหลัก “ปีท่องเที่ยววิถีไทย เก๋ไก๋อย่างยั่งยืน” ของททท.อีกด้วย”  ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานลพบุรี  กล่าวปิดท้าย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ททท. สำนักงานลพบุรี (พื้นที่รับผิดชอบ ลพบุรี อ่างทอง สิงห์บุรี ชัยนาท) โทร. 0-3677-0096-7 หรือ 1672 เพื่อนร่วมทาง.
สรณะ รายงาน