เจ้าของรีสอร์ทดังเมืองกาญจน์ ผวากฎหมายใหม่โทษหนัก ยอมรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างหลังยื้อมานานหลายปี


เพิ่มเพื่อน    

อธิบดีกรมอุทยานฯสั่งรื้อรีสอร์ทดังเมืองกาญจน์ รุกป่าอุทยานฯเอราวัณ เจ้าของผวายอมรื้อเอง หายวับ 13 ล้าน เตรียมพัฒนาเป็นศูนย์เรียนรู้วิถีธรรมชาติ

10 ก.ค.2563 - นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) เปิดเผยว่า ตามนโยบายนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ให้ดำเนินการขั้นเด็ดขาดกับนายทุนผู้บุกรุกป่า

ทั้งนี้ นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) และนายปรยุษณ์ ไวว่อง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเอราวัณ นายยุทธพงศ์ ดำศรีสุข หัวหน้าอุทยานแห่งชาติพุเตย และจนท.ชุดพญาเสือ นายวสันต์ สุนจิรัตน์ กำนันตำบลช่องสะเดา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเอราวัณ จำนวน 10 นายได้ร่วมกันตรวจสอบ การรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างรีสอร์ทชื่อดัง บ้านกกกอด ตำบลช่องสะเดา อ.เมือง จังหวัดกาญจนบุรี จำนวน 20 หลัง เนื้อที่ 8ไร่ 1งาน 62 ตารางวา ที่เปิดบริการให้เช่าห้องพักมานานหลายปี

สำหรับรีสอร์ทแห่งนี้มีสภาพธรรมชาติที่สวยงาม อยู่ติดริมอ่างเก็บน้ำเขื่อนท่าทุ่งนา จังหวัดกาญจนบุรี มีนายทุนใหญ่ในพื้นที่จังหวัดนครปฐม เป็นเจ้าของ โดยซื้อที่ดินผ่อนผันตามมติครม.30 มิ.ย. 2541 มาในราคา 13 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเอราวัณ เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและนำที่ดินดังกล่าวมาทำกิจการรีสอร์ท

โดยเจ้าของกิจการได้ยินยอมรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดในรีสอร์ท "บ้านกกกอด" ด้วยตนเอง จำนวน 20 หลัง ออกไปให้พ้นจากเขตอุทยานแห่งชาติเอราวัณ โดยได้ว่าจ้างคนงานเข้ามาทำการรื้อถอนตั้งแต่วันที่ 27 มิ.ย.2563 จนถึงวันนี้ได้รื้อถอนรีสอร์ทไปแล้วกว่า 30% คาดว่าจะรื้อถอนเสร็จไม่เกินสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้

นายนิพนธ์ กล่าวว่า มูลเหตุที่ทำให้นายทุนเจ้าของยอมรื้อถอนรีสอร์ท "บ้านกกกอด" ด้วยตนเอง สืบเนื่องมาจากไปซื้อที่ดินผ่อนผันตามมติครม. 30 มิ.ย. 41 ในเขตอุทยานแห่งชาติเอราวัณ ในปี พ.ศ.2558 โดยทำกิจการรีสอร์ทในที่ดินดังกล่าว ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายอุทยานแห่งชาติ จนท.อุทยานฯเอราวัณ จึงเข้าจับกุมดำเนินคดี พร้อมปิดประกาศให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง ต่อมาอัยการจังหวัดกาญจนบุรี มีคำสั่งไม่ฟ้องนายทุนเจ้าของ จึงเปิดกิจการรีสอร์ทเรื่อยมาจนถึงปัจจุปัน

ขณะเดียวกัน ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) และหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเอราวัณ เห็นว่า ถึงแม้อัยการจังหวัดกาญจนบุรี มีคำสั่งไม่ฟ้อง แต่รีสอร์ท"บ้านกกกอด" ยังอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเอราวัณ การปิดประกาศให้รื้อถอนรีสอร์ท "บ้านกกกอด" สามารถปิดประกาศให้รื้อถอนซ้ำได้อีกตามกฎหมายอุทยานฉบับใหม่ พ.ศ.2562 ซึ่งมีโทษรุนแรงกว่า หากฝ่าฝืนไม่รื้อถอนเพราะการรื้อถอนเป็นกฎหมายวิธีบัญญัติ บังคับย้อนหลังได้

เจ้าพนักงานมีอำนาจสั่งให้รื้อถอนได้ ทั้งตามกฎหมายเก่าและกฎหมายใหม่ ตามแนวทางคำพิพากษาฎีกาที่ 3342/2525อุทยานแห่งชาติเอราวัณ จึงได้ปิดประกาศคำสั่งให้รื้อถอนซ้ำอีกครั้ง ตามกฎหมายอุทยานแห่งชาติฉบับใหม่ ปีพ.ศ.2562 มาตรา 35 (2) ให้รื้อถอนภายในวันที่ 5 เม.ย.2563 แต่เนื่องจากสถานการณ์โควิท-19 จึงทุเลาคำสั่งผ่อนผันให้รื้อถอนถึงวันที่ 30 มิ.ย. 2563 หากฝ่าผืนไม่ยอมรื้อถอน ตามประกาศคำสั่งดังกล่าว ภายในเวลาที่กำหนดแล้ว ทางหัวหน้าอุทยานฯเอราวัณ จะเข้าแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาฝ่าฝืนประกาศคำสั่งดังกล่าวต่อไป ซึ่งมีโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปี ถึง 3 ปีและปรับไม่เกิน 3 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และค่าปรับรายวันอีกวันละ 1 หมื่นบาท จนกว่าจะรื้อถอนเสร็จสิ้น

เจ้าของจึงได้ว่าจ้างคนงานเข้ามารื้อถอนรีสอร์ท "บ้านกกกอด" ของตนเอง เพราะเกรงรับโทษในข้อหาฝ่าฝืนประกาศคำสั่ง ตามมาตรา35 (2) พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ ฉบับใหม่ พ.ศ. 2562 ซึ่งมีโทษจำคุก หรือปรับ และค่าปรับรายวัน ดังกล่าว อย่างไรก็ตาม หลังจากรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างรีสอร์ท "บ้านกกกอด" หมดแล้ว  ทางอุทยานฯจะนำพื้นที่ดังกล่าวมาฟื้นฟูสภาพป่าและพัฒนาเป็นศูนย์เรียนรู้วิถีธรรมชาติ เพื่อพัฒนาเป็นแหล่งเรียนรู้ ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ของประชาชนในท้องถิ่น และชุมชุนใกล้เคียง ต่อไป


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"