ไม่มีอะไรผิดคาด

                ๔ กุมาร ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เพราะความขัดแย้งที่ยากประสาน หลังการปรับโครงสร้างพรรคใหม่

                และ "ลุงป้อม" นั่งหัวหน้าพรรค

                เมื่อเป็นไปตามนี้ ก็คงจะมีการปรับ ครม.แน่ๆ ในอีกไม่ช้า

                เดิมทีคาดว่าจะหลังร่าง พ.ร.บ.งบประมาณแผ่นดินปี ๒๕๖๔ ผ่านสภาฯ แต่สถานการณ์แบบนี้ ถือว่านานเกินไป

                การไร้สังกัดของ ๔ กุมาร และสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ทำให้พลังในการต่อรองหมดสิ้นไปด้วย

                และเป็นไปได้สูงว่า ๓ รัฐมนตรี "อุตตม สาวนายน-สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์-สุวิทย์ เมษินทรีย์" จะยื่นใบลาออกเพื่อเปิดทางให้ "ลุงตู่" ปรับ ครม.

                ทำไมถึงต้องรีบปรับ ครม.?

                ในทางการเมืองเป็นเรื่องยากที่ ๔ กุมาร จะอยู่ในรัฐบาลและทำงานได้ราบรื่น

                อย่าลืมว่าสิ่งที่รัฐบาลต้องทำเป็นลำดับแรกในวันนี้คือ การฟื้นฟูเศรษฐกิจ ไม่ใช่มานั่งแก้ปัญหาการเมืองรายวัน

                เดิมทีทีมเศรษฐกิจเล่นดนตรีคนละเพลงอยู่แล้ว

                มาวันนี้เมื่อ ๔ กุมารออกจากพลังประชารัฐ เพราะความขัดแย้งที่ยากประสาน ทีมเศรษฐกิจจึงไม่อาจรวม "ทีม" ได้อีกต่อไป

                ต่อให้ "ลุงตู่" อยากจะเก็บ ๔ กุมารไว้กับตัว แต่แรงกระเพื่อมภายในพรรคพลังประชารัฐจะยิ่งหนักหน่วงขึ้น

                เพราะมหกรรมแย่งชามข้าวหวนกลับมาอีกครั้ง

                และเป็นไปตามคาด "สิระ เจนจาคะ" หัวหมู่ทะลวงฟัน ทวงเก้าอี้รัฐมนตรีในทันทีหลัง ๔ กุมารลุกจากที่แถลงข่าวเก้าอี้ไม่ทันเย็น

                อ้างว่าเมื่อออกจากพรรคแล้วต้องคืนโควตารัฐมนตรีกลับให้พรรคพลังประชารัฐด้วย

            "ทั้ง ๓ ท่านวันนี้ยังนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีในส่วนโควตาของพรรคพลังประชารัฐ เมื่อลาออกจากพรรคแล้วก็ควรคืนตำแหน่งนี้กลับมาให้เป็นสมบัติของพรรค ไม่ใช่ยังกั๊กตำแหน่งอยู่เช่นนี้ เพราะถือว่าวันนี้พวกท่านไม่มีสิทธิ์แล้ว และคนที่จะดำรงตำแหน่งแทนท่านก็ควรจะเป็นสมาชิกของพรรคพลังประชารัฐท่านอื่นๆ"

                ครับ...นี่คือการเมืองระบอบประชาธิปไตย และมาจากการเลือกตั้ง

                ไม่มีใครมีอำนาจเด็ดขาดเหนือใคร

                "ลุงตู่" ในวันนี้ไม่ใช่ "ลุงตู่" ในรัฐบาล คสช.

                แน่นอน แม้ "ลุงตู่" จะมีอำนาจต่อรอง แต่ ส.ส.เขารวมกลุ่มได้เขาก็มีพลังในการต่อรองเช่นกัน

                แม้ "ลุงตู่" จะขุ่ยุบสภาฯ ได้ แต่ ส.ส.เขาก็ขู่ไม่สนับสนุนรัฐบาลได้เช่นกัน...ถ้าเลือดเข้าตา!

                ฉะนั้นสภาพจากนี้ไป จะต่างไปจากรัฐบาล คสช. และรัฐบาลลุงตู่รอบ ๑ ปีที่ผ่านมาไปแทบจะสิ้นเชิง

                และ "ลุงตู่" รับรู้สถานการณ์ดี ถึงได้บอกว่า        

                "ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น แต่ผมไม่ได้พูดว่าจะปรับ ครม.เดือนกันยายน"

                ใครจะไปใครจะมา โจทย์หลักอยู่ที่ศักยภาพในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ

                เชื่อว่า "ลุงตู่" จะไม่ปรับ ครม.แค่ตอบสนองการแย่งชามข้าว.