ไทยโพสต์ "อิสรภาพแห่งความคิด" www.thaipost.net "ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น แต่ผมไม่ได้พูดว่าเป็นเดือนกันยายน" เอาละสิ "บิ๊กตู่" ได้ฤกษ์เปิดไฟเขียวนับหนึ่งไทม์ไลน์ "ครม.ประยุทธ์ 2/2" แล้ว ถือเป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือนที่มีข่าวปรับ ครม.สะพัด ที่นายกฯ ปักหลักตอบคำถามสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาลแบบช็อตต่อช็อต จากที่ปกติจะปิดปากเงียบ บ้างก็ใช้มุกโบกมือ หรือเดินหนี ก็ไม่รู้ว่าเกี่ยวกับกรณี 4 กุมารแถลงข่าวปิดม่านอำลา พปชร.อย่างเป็นทางการหรือเปล่า เล่นตัดบัวไม่เหลือใยอย่างนี้ ถึงปากจะบอกว่าสายสัมพันธ์กับ พปชร.ยังคงเดิม ส่วนเรื่องอนาคตเป็นดุลยพินิจของนายกฯ ก็ตาม จากที่คาดการณ์กันว่าบางคนใน 4 กุมาร อาจรอดได้ไปต่อในโควตาของบิ๊กตู่ ก็ดูมืดบอดทันตา ถ้าฟังจากการตอบคำถามของบิ๊กตู่ "สัดส่วนในการเข้ามาเป็นรัฐมนตรีมาจากพรรคการเมืองเป็นอันดับแรก โควตาคนนอกก็เป็นอีกส่วนหนึ่ง อย่าลืมว่าผมก็ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค พปชร. เพราะฉะนั้นสัดส่วนรัฐมนตรีก็ต้องฟังจากพรรคเป็นหลัก การจะนำคนนอกเข้ามาก็เป็นโควตาของเขา ซึ่งผมก็ขอเขามาและเขาก็ให้ผมเข้ามาตรงนี้ รวมทั้งมีรัฐมนตรีหลายคนที่มากับผมด้วย" ก่อนจะตบท้ายชัดยิ่งกว่าชัด "เราอาจจะยึดมั่นตัวบุคคลเป็นธรรมดาในเรื่องของความเชื่อมั่น แต่สิ่งสำคัญที่สุด ถ้าตัวบุคคลทำงานร่วมกันไม่ได้มันก็อยู่ไม่ได้ ถูกหรือไม่" ก็เลยถึงคราวเอวัง ปิดฉาก 4 กุมาร ใน ครม.ประยุทธ์ด้วยประการฉะนี้

            ๐ พอเป็นเรื่องการเมือง ทุกอย่างก็มีโควตาไปหมด ดีไม่ดีจะเกี่ยวกับสภาล่มเมื่อวันพุธที่ผ่านมาซะด้วย ที่เกิดขึ้นระหว่างการพิจารณาวาระรับทราบรายงานความคืบหน้าในการดำเนินการตามแผนการปฏิรูปประเทศตามมาตรา 270 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ถือเป็นครั้งที่ 3 ของสภาผู้แทนราษฎรชุดนี้ หลังจากห่างหายไป 7 เดือนกว่า ถึงจะไม่เสียหายมากนักเพราะไม่ใช่การพิจารณาร่างกฎหมายสำคัญ แต่ก็เป็นการประจานความบกพร่องของการทำหน้าที่นิติบัญญัติของ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล แน่นอนว่าทุกครั้งที่เกิดเหตุการณ์สภาล่ม ทุกสายตาก็จับจ้องไปที่วิปรัฐบาล โดยเฉพาะประธานวิปรัฐบาล เพียงแต่ครั้งนี้ไม่เหมือน 2 ครั้งที่ผ่านมา แว่วกันสนั่นสภาว่ามีเบื้องลึกเบื้องหลัง บ้างก็ว่าเป็นการวางยา "วิรัช รัตนเศรษฐ" เนื่องจากมี ส.ส.พรรคพลังประชารัฐส่วนหนึ่งไม่ค่อยพอใจกับการทำหน้าที่ของนายวิรัช จะได้มีเหตุให้เปลี่ยนตัวประธานวิป

            ๐ ขณะที่อีกกระแสที่ฟังดูเข้าเค้า ว่าเจ้าตัวแผลงฤทธิ์เอง หลังจากหลุดเก้าอี้กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 ซึ่งอดีตรองประธาน กมธ.วิสามัญงบปี 2563 คนนี้ ที่เคยเข้าไปร่วมจัดสรรงบประมาณปี 63 ในโควตา ครม. แต่ที่ไม่ส่งตัวเองเข้าไปกินโควตาพรรค พปชร.ที่มีจำนวน 13 คน ที่แบ่งสัดส่วนตัวแทนภาคต่างๆ นั้น ก็เพราะว่าเก็บเก้าอี้ตรงนี้ให้กับเด็กในคาถา แล้วตัวเองก็จะมากินในโควตา ครม.แทน แต่ปีนี้กลับพลิกโผ ไม่ปรากฏชื่อหนึ่งใน 18 คน และคนที่จัดโผนี้ก็ไม่ใช่ใครอื่น "อุตตม สาวนายน" ในฐานะขุนคลังนั่นเอง เรียกว่าเอาคืนทันควัน ตอบแทนมือล็อบบี้ที่เดินสายให้กรรมการบริหารพรรค พปชร.ชุดเดิมเซ็นใบลาออกเกินครึ่ง จนทำให้คณะกรรมการบริหารชุดนายอุตตมพ้นสภาพไปโดยปริยาย และถ้าเช็กรายชื่อในโผ ครม.แล้ว หลายรายชื่อก็เป็นคนคุ้นเคยกับเฮียกวง-สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ถึงแม้ 18 รายชื่อนี้จะไม่ต้องผ่านที่ประชุม พปชร. แต่อย่างน้อยก็ต้องผ่านตาของนายกฯ ซึ่งก็ไม่ได้ว่าอะไร อย่าลืมว่านายวิรัชมีชนักติดหลัง คดีทุจริตสร้างสนามฟุตซอลในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ใกล้ฟ้องศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอยู่รอมร่อ.

ลี้คิมฮวง