ช่องส่องผีไม่พ้นพงหนาม สมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านเข้าแจ้งความทำผิด พ.ร.บ.คอมพ์ บิดเบือนประวัติศาสตร์ ลบหลู่ย่าโม ขีดเส้น 15 วันบ๊วยกับพวกไปขอขมาหน้าอนุสาวรีย์ ไม่เช่นนั้นเพิ่มมาตรการกดดัน "เทวัญ" ยันความผิดสำเร็จ ขอขมาก็ไม่ลบล้างความผิด ให้ว่าไปตามกฎหมาย 
    ที่ สภ.เมืองนครราชสีมา ช่วงสายวันที่ 9 กรกฎาคมนี้ นายศักดิ์ชาย ชาติพุดซา นายกสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยกำนัน ผู้ใหญ่บ้านอำเภอเมืองนครราชสีมารวม 30 คน และนายพรเทพ เจริญพงศ์อนันต์ ประธานสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา เข้าแจ้งความ พ.ต.อ.กฤตยา เลาประสพวัฒนา ผกก.สภ.เมืองนครราชสีมา และ ร.ต.อ.อติชาต ห่ามกระโทก รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมือง ให้ดำเนินคดีกับผู้ดำเนินรายการช่องส่องผี ออกอากาศทางสถานีทรทัศน์ช่อง 8 ในข้อหาผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 มาตรา 14 นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน 
    ต่อจากนั้น คณะกำนัน ผู้ใหญ่บ้านได้เดินทางไปยังอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี หรือย่าโม ถนนราชดำเนิน ถวายธูป เทียน ดอกไม้ พวงมาลัย และแสดงเอกสารใบแจ้งความ แสดงพลังชูกำปั้น ตะโกนคำว่า ลูกย่าโมออกศึก สู้ให้ถึงที่สุด ก่อนสลายตัว   
    การแจ้งความดังกล่าว สืบเนื่องจากรายการช่องส่องผีตอนหนึ่ง ระบุว่า ย่าบุญเหลือเป็นภรรยาน้อยของปลัดทองคำ เจ้าเมืองโคราช โดยมีย่าโมเป็นภรรยาหลวง ทั้งที่ตามประวัติศาสตร์ระบุว่า ย่าบุญเหลือเป็นลูกบุญธรรม สร้างความไม่พอใจให้ชาวโคราชเป็นอย่างมาก ซึ่งเมื่อวันพุธ ผวจ.นครราชสีมาได้มอบหมายให้วัฒนธรรมจังหวัดเข้าแจ้งความตำรวจมาแล้วในข้อหาหมิ่นประมาท
    นายศักดิ์ชายกล่าวว่า ที่พวกตนมาแจ้งความเพราะเห็นว่าช่องส่องผีบิดเบือนประวัติศาสตร์ท้าวสุรนารีและนางสาวบุญเหลือ ที่พี่น้องชาวโคราชให้ความเคารพนับถือ กราบไหว้สักการะมาหลายร้อยปี ซึ่งเรื่องนี้พวกตนไม่ยอมอย่างเด็ดขาด และอยากเรียกร้องให้ทางช่องส่องผีได้มาขอขมาท่านท้าวสุรนารีและนางสาวบุญเหลือ เพื่อยืนยันให้ชัดเจน ไม่ใช่ไปออกทางสื่ออะไรต่างๆ และถ้าไม่ยอมมา เราจะมีมาตรการเพิ่มขึ้นอีกต่อไป โดยให้เวลาภายใน 15 วัน 
    "พวกเราสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านจังหวัดนครราชสีมาเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่เป็นตัวแทนพี่น้องประชาชน ในส่วนคดีต่างๆ จะร่วมกับสภาทนายความนครราชสีมาแจ้งความดำเนินคดีเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์อีกต่างหากด้วย ส่วนการจะรวบรวมชาวบ้านแสดงพลังนั้น ต้องเรียนว่าตอนนี้ยังไม่ถึงขั้นนั้น ตอนนี้เรารวมพลังเฉพาะกำนัน ผู้ใหญ่บ้านเป็นหน้าด่านก่อน และถ้าหลังจาก 15 วันยังไม่มีท่าทีอะไร เราจะมีการพูดคุยหรือกดดันกันอีกครั้งหนึ่ง"
    ขณะที่นายพรเทพ เจริญพงศ์อนันต์ ประธานสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ได้แจ้งความดำเนินคดีกับรายการช่องส่องผี ในฐานความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 นำข้อมูลที่บิดเบือนเป็นเท็จลงสู่ระบบคอมพิวเตอร์ เป็นคดีอาญา ยอมความไม่ได้     
    พ.ต.อ.กฤตยากล่าวว่า จากนั้นจะได้เชิญนายเชษฐวุฒิ หรือบ๊วย วัชรคุณ ผู้ดำเนินรายการช่องส่องผี และผู้อยู่ในเหตุการณ์ มาสอบปากคำต่อไป นอกจากนี้ทราบว่าทาง กสทช.ได้เชิญผู้ที่เกี่ยวข้องไปให้ข้อมูลแล้ว 
    ด้านนายเทวัญ ลิปตพัลลภ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คุณย่าโมกับคุณย่าบุญเหลือท่านเสียสละเพื่อชาวโคราชและประเทศไทย แล้วอยู่ๆ วันนี้มีคนไปบิดเบือนสิ่งที่ทำให้กับบ้านเมือง ทำให้ชาวโคราชมีความรู้สึกไม่สบายใจ พวกคุณรู้ประวัติศาสตร์ดีขนาดไหน ถึงได้ไปกล่าวอ้างขนาดนั้น และจากที่ได้พูดคุยกับชาวโคราชหลายคน ทุกคนมีความโกรธเคือง แต่เรื่องนี้ต้องให้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ถือว่าเป็นบทเรียนสำหรับรายการอื่นๆ ต่อๆ ไป ที่จะไปอ้างอิงประวัติศาสตร์ ไม่ใช่ทำเพื่อให้รายการโด่งดังเพียงอย่างเดียว ถือว่าไม่ถูกต้อง
    “ชาวโคราชต้องการให้ดำเนินคดี ผมก็ต้องการให้ดำเนินการทางกฎหมายต่อไป เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการ ถ้ามีช่องทางทางกฏหมายใดที่จะต้องดำเนินการได้ก็ให้ดำเนินการ ส่วนเรื่องการขอขมานั้นเป็นเรื่องส่วนตัวของเขา ตำรวจหรือใครจะไปบังคับให้เขามาขอขมาไม่ได้ เป็นเรื่องสามัญสำนึกของคน คุณบ๊วยออกมาชี้แจงก็ไม่เห็นมีอะไร เพียงแต่บอกว่าจะไปเปลี่ยนให้รายการไปออกทางเฟซบุ๊ก แต่สำหรับผมก็ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีไปตามกฎหมาย” นายเทวัญกล่าว
    นายเทวัญกล่าวว่า การบิดเบือนประวัติศาสตร์ดังกล่าวถือว่าการกระทำความผิดสำเร็จไปแล้ว เหมือนการขโมยของไปแล้ว จะเอามาคืนและจะขอขมาไม่ได้ ก็ต้องดูข้อกฎหมายด้วยว่าเป็นอย่างไร แต่เรื่องนี้ถือว่าย่ำยีคนโคราชมากเกินไป ชาวโคราชก็ต้องการให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย จะได้เป็นบรรทัดฐานในครั้งต่อไป เผื่อจะมีใครมาบิดเบือนประวัติศาสตร์อีก จะได้รู้ว่าผลลัพธ์ของการบิดเบือนจะมีอะไรเกิดขึ้น
    พล.ท.พีระพงษ์ มานะกิจ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ประธานคณะอนุกรรมการด้านผังรายการและเนื้อหารายการ กล่าวว่า สำนักงานได้ทำหนังสือถึงรายการช่องส่องผีเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อให้เข้าชี้แจงข้อเท็จจริงต่อคณะอนุกรรมการด้านผังรายการและเนื้อหารายการในวันที่ 16 ก.ค.63 โดยที่ประชุมจะเชิญตัวแทนจากกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงวัฒนธรรมเข้าร่วมรับฟังด้วย ทั้งนี้ กรณีดังกล่าวอาจเข้าข่ายความผิดใน 2 ประเด็น คือ การเปิดรับบริจาค และการนำเสนอเนื้อหาเกี่ยวกับสิ่งลี้ลับที่ไปกระทบประวัติศาสตร์โดยมีผลกับความรู้สึก ความเคารพศรัทธาของประชาชนในแต่ละท้องถิ่น     
    อย่างไรก็ตาม อนุกรรมการฯ ต้องฟังการให้ข้อมูลและการชี้แจงเหตุผลของผู้ผลิตก่อนการวินิจฉัย ซึ่งจะได้ข้อสรุปอย่างไรจะนำเข้าที่ประชุม กสทช. เพื่อพิจารณาภายในสิ้นเดือนนี้ ทั้งนี้ทุกคนอาจมองว่าอนุกรรมการฯ อาจจะมีการดำเนินการล่าช้าเนื่องจากต้องยึดหลักการวิธีพิจารณาทางปกครอง ที่ต้องให้ผู้มาชี้แจงเตรียมเอกสารในการชี้แจงรายละเอียด จึงต้องใช้เวลาให้ผู้ถูกชี้แจงจัดเตรียมความพร้อมเพื่อความถูกต้องสมบูรณ์ในการให้ข้อมูล.