14 เม.ย.61-นายราเมศ รัตนะเชวง รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายพานทองแท้ ชินวัตร ยังกล่าวหาพรรคประชาธิปัตย์อย่างต่อเนื่องในลักษณะว่า พรรคเชิญชวนทหารมาให้ยึดอำนาจ คือหนึ่งในหลายครั้งที่บิดเบือนให้ร้ายพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งส่วนตัวไม่อยากจะมาชี้แจงมากเพราะรู้ว่าอธิบายไปนายพานทองแท้ ก็ไม่มีวันเข้าใจ แต่ครั้งนี้ไม่ชี้แจงแต่จะสอนนายพานทองแท้ ให้เข้าใจคำว่าเผด็จการเสียงข้างมากในรัฐสภาที่นำไปสู่เผด็จการทหาร พรรคประชาธิปัตย์ต่อต้านทั้งสองอย่าง แต่จะอธิบายว่าใครกันแน่ที่เชิญชวนให้ทหารมายึดอำนาจ
"เผด็จการเสียงข้างมากสภานั้น มีการวางแผนมาตั้งแต่หาเสียงเลือกตั้งเพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อไปลงคะแนนให้ เมื่อได้เสียงข้างมากในสภาก็จะช่วยกันยกมือให้พวกเป็นรัฐบาล แล้วเอานโยบายที่วางแผนไว้แล้วมาทุจริต เช่นนโยบายจำนำข้าว เอื้อประโยชน์ให้พวกพ้องกลุ่มทุน เช่น นโยบายรถคันแรก ใช้อำนาจเสียงข้างมากออกกฎหมายล้างผิดให้กับคนทุจริตคด ใช้เสียงข้างมากแก้รัฐธรรมนูญ 4 ครั้งเพื่อประโยชน์ของพวกพ้อง ใช้อำนาจในการจัดสรรงบประมาณเลือกพัฒนาจังหวัดที่เลือกพรรคตนเอง ส่วนเผด็จการทหาร 2 ครั้งที่ผ่านมายึดอำนาจต้นเหตุมาจากเผด็จการเสียงข้างมากในสภา ระบุไว้ในเหตุผลแห่งการยึดอำนาจทั้งสองครั้ง"
เขากล่าวว่า 72 ปี พรรคยึดมั่นในระบบประชาธิปไตย ต่อต้านเผด็จการในทุกรูปแบบ ทั้งเผด็จการเสียงข้างมากในรัฐสภาและเผด็จการทหาร ตั้งแต่ยึดอำนาจมาพรรคประชาธิปัตย์พรรคเดียวที่ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลทหารตลอด นายพานทองแท้ ไม่ใช่เด็ก อย่านึกสนุกอะไรก็พูด ควรสุขุมมากกว่านี้ อีกอย่างพรรคการเมืองเป็นสถาบันอย่ามาดูหมิ่นกล่าวหาใส่ร้ายกัน
นายราเมศ กล่าวกรณีสมาชิกพรรคเพื่อไทย กล่าวหา นายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรีจากกรณีที่ได้ให้สัมภาษณ์ในวันสงกรานต์ว่า คำพูดที่ นายชวน พูดนั้นล้วนเป็นความจริง ไม่ใช่เป็นคำพูดที่แผ่นเสียงตกร่อง แต่เป็นแผ่นเสียงที่เป็นความจริง จึงไปบาดใจ คนของพรรคเพื่อไทยจนอดทนกับความจริงนี้ไม่ได้ จึงเต้นเหมือนโดนน้ำร้อนลวก ส่วนที่ระบุมีดโกนหมดมุก หวังจะเลียรองเท้าบู๊ท นั้นก็ผิด เพราะนายชวนเป็นอดีตนายกรัฐมนตรี 2 สมัย เป็นอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมที่นายทหารทุกเหล่าทัพให้การยอมรับและนับถือหลักการที่มีตลอด ส่วนการทำงานก็ทำคุณประโยชน์ให้กับประเทศมากมาย และทำในสิ่งที่ยั่งยืน เริ่มการกระจายอำนาจ โครงการเบี้ยยังชีพ ถนนสี่ช่องจราจร ปฏิรูปการศึกษาแบบครบวงจร รวมถึง ริเริ่มใช้หลักประกันสุขภาพ โครงการนมโรงเรียน โครงการกู้ยืมเงินเพื่อการศึกษา ส่งเสริมให้มีศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เป็นต้น
รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ยังชี้แจงเรื่อง การเลือกปฏิบัติต่อประชาชนในรัฐบาลของนายทักษิณ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ชัดเจนที่สุด ว่า วันที่ 31 ต.ค. 2548 เวลา 13.00 น.นายทักษิณ กล่าวที่หอประชุมโรงเรียนบรรพตพิทยาคม อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ ว่า นครสวรรค์ได้มอบความไว้วางใจให้กับรัฐบาล โดยเลือก ส.ส.รัฐบาลทั้งจังหวัด แน่นอน อันนี้ตรงไปตรงมา ต้องได้สิทธิดูแลเป็นพิเศษ ไม่อ้อมค้อม จังหวัดไหนมอบความไว้วางใจให้เราต้องดูแลเป็นพิเศษ และยังพูดต่อว่าจังหวัดที่ไว้วางใจเราน้อยต้องเอาไว้ทีหลัง
รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ กรณีการสร้างหอประชุมที่จังหวัดภูเก็ต ก็เช่นกันที่วันอาทิตย์ที่ 2 มิถุนายน 2556 นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี ในขณะนั้น ได้พูดบนเวทีปราศรัยของพรรคเพื่อไทยที่ใช้ชื่อเวทีว่า”เพื่อไทย เพื่ออนาคตประเทศไทย” เพื่อให้กลุ่มคนเสื้อแดงฟังในเรื่องการสร้างศูนย์ประชุมที่จังหวัดภูเก็ตที่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้มีนโยบายและได้ดำเนินการเรื่องงบประมาณไว้แล้วว่า “วันหน้าจะสร้างแน่นอน เมื่อภูเก็ตเห็นความดีของพวกเรา เลือกคนของเรา วันนั้นจะทำให้ วันนี้ไม่มีอารมณ์จะทำ” นี้คือความจริง ประชาชนภาคใต้ทราบดีว่าถนนที่มุ่งไปสู่ภาคใต้โดนกีดกันจากคนในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์จากการจัดสรรงบประมาณที่ไม่เป็นธรรม เมื่อรัฐบาลนี้เข้ามานายชวน จึงทำหนังสือถึงรัฐบาล จึงได้มีการจัดสรรงบประมาณไปทำให้ถนนดีขึ้น
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |