เห็นข่าวแวบๆ...ว่าเป็นอัน ติดเชื้อ ไปเรียบโร้ยย์ย์ย์แล้ว สำหรับประธานาธิบดีบราซิล นาย ฌาอีร์ โบลโซนารู ที่ออกอาการซ่าส์ส์ส์ ออกอาการท้าทาย ต่ออิทธิฤทธิ์ อิทธิเดช ของเชื้อไวรัส COVID-19 ชนิดไม่ยอมสวมหน้ากาก ไม่คิดจะเว้นระยะห่างกับใครต่อใครมาโดยตลอด สุดท้าย...ก็เลยไม่ต่างไปจากบรรดาผู้ที่ตั้งอยู่ในความประมาท ผู้ที่เคยดูหมิ่น ดูแคลน ต่อโรคระบาดชนิดนี้ ที่ล้วนแล้วแต่เจ๊ง...กับ...เจ๊ง ฉิบหาย...กับ...ฉิบหาย ไปด้วยกันทุกราย...
--------------------------------------------------------
อีกทั้งก่อนหน้าที่จะได้รับการตรวจ การเช็ก ว่าติดเชื้อ-ไม่ติดเชื้อ...ว่ากันว่าประธานาธิบดีจอมอหังการผู้พยายามลอกเลียนแบบผู้นำอเมริกาจนได้ชื่อ ได้ฉายา ว่า ทรัมป์แห่งเขตร้อน รายนี้ นอกจากไม่สวมหน้ากาก ไม่เว้นระยะห่าง ยังดันไปจับมือ ถือแขน กับเอกอัครราชทูตอเมริกาประจำบราซิล เนื่องในวันชาติอเมริกาอีกซะด้วย เล่นเอา...ไม่ว่าใครจะมีสิทธิ์ติดเชื้อจากใคร แต่ต่างหนีไม่พ้นต้อง เซลฟ์ ควอแรนตีน สเตท ควอแรนตีน ไปด้วยกันทั้งคู่ ส่วนบ้านเรา...ที่ใครต่อใครหนีไม่พ้นต้องไปจับมือ ถือแขน กับ ผบ.ทบ.กองทัพสหรัฐ ซึ่งดิ้นรน กระเสือกกระสน จะมาเยือนประเทศไทยในช่วงนี้ให้จงได้ อาจโชคดีกว่าบ้างเล็กน้อย เพราะยังพร้อมที่จะสวมหน้ากาก หรือยังไม่คิดจะ การ์ดตก ไปซะทั้งหมด...
--------------------------------------------------
คือถ้าว่ากันตามจำนวนตัวเลข ปริมาณ ของบรรดาผู้ติดเชื้อทั่วโลกในทุกวันนี้...ใครที่คิดลดการ์ดลงมา ก็น่าจะถือเป็นผู้ซึ่งตั้งอยู่ในความประมาทไปด้วยกันทั้งสิ้น เพราะล่าสุด...เห็นว่าจำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลก ปาเข้าไปถึง 11.6 ล้านรายไปแล้ว ณ ช่วงวันอังคารที่ผ่านมา เด๊ดสะมอเร่ย์ อิน เดอะ เท่งทึง กันไปแล้วถึง 538,000 ราย อีกทั้งบรรดาประเทศที่การ์ดตก หรือคิดจะลดการ์ดลงมามั่ง ต่างก็ต้องเจอกับ การระบาดระลอก 2 กันไปเป็นแถบๆ ไม่ว่าญี่ปุ่น อิสราเอล สิงคโปร์ ฯลฯ ไปจนถึงออสเตรเลียที่เคยได้ชื่อว่าสามารถ เอาอยู่ หรือสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้อย่างเป็นเรื่อง เป็นราว แต่เมื่อวันวานที่ผ่านมานี่เอง หนีไม่พ้นต้องหันกลับไป ล็อกดาวน์ เมืองเมลเบิร์น เมืองอันดับ 2 ของประเทศ กันใหม่อีกรอบ ครอบคลุมจำนวนประชากรไม่ต่ำกว่า 5 ล้านคน ที่ต้องสเตท ควอแรนตีน ต่อกันไปอีกประมาณ 6 สัปดาห์ อย่างชนิดมิอาจหลีกเลี่ยงได้...
-----------------------------------------------
ด้วยเหตุนี้...การที่ หมอแก้ว หรือนายแพทย์ ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ท่านออกมา ตัดพ้อคนไทย ที่ชักออกอาการการ์ดตก หรือชักจะลดการ์ด เปิดหน้า เปิดตา ยั่วยวนกวนส้นตีนท่านเชื้อไวรัส COVID-19 อย่างเป็นกิจการยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ก็ต้องถือเป็นความห่วงใย ความกังวล ที่ออกจะมีเหตุมีผลทางวิทยาศาสตร์รองรับ อย่างมิอาจปฏิเสธได้เลย เพราะถึงแม้ผู้ที่กลัวคนไทยจะอดตาย หรือกลัวเศรษฐกิจของชาติ บ้านเมือง จะฉิบหาย วายวอด จะมีความห่วงใย ความกังวล ไม่ต่างไปจากกันซักเท่าไหร่ แต่การยุยง ส่งเสริม ให้เร่งเปิดโน่น เปิดนี่ เปิดหน้า เปิดตา เพื่อให้ผู้คนสามารถกลับมาทำมาหารับประทานได้ตามปกติ มันออกจะเป็นการอาศัย เหตุผลทางจินตนาการ หรือออกไปทาง มโน กันไปตามเรื่อง ตามราว ซะเป็นหลัก...
-------------------------------------------------------
เพราะแม้ว่าจำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มเติมในประเทศไทย จะอยู่ในระดับเลขศูนย์ ติดต่อกันเกือบจะร่วมเป็นเดือนๆ เข้าไปแล้ว แต่ยังไงๆ...จะไปดูหมิ่น ดูแคลน ไปประมาทเชื้อไวรัส COVID-19 ท่านไม่ได้เป็นเด็ดขาด จะเปิดหน้า เปิดตา เปิดผับ เปิดบาร์ เปิดอาบ-อบ-นวด ฯลฯ กันในลักษณะไหนก็แล้วแต่ อาจหนีไม่พ้นต้องเอาอย่างประเทศกรีซ คือจะนวด จะนาบ กันในแบบไหน อย่างไร แต่ต้องให้ศีรษะห่างจากกันในช่วงระยะที่กำหนด อะไรประมาณนั้น หรืออาจต้องใช้ไม้เขี่ยในระหว่างที่มีเพศสัมพันธ์ดังที่ผู้เชี่ยวชาญอย่าง หมอ-ยง ท่านเคยได้ชี้แนะ ชี้นำ กันเอาไว้...
--------------------------------------------------------
คือถึงแม้ระหว่างการ อดตาย กับการ เป็นโรคตาย ย่อมเป็นอะไรที่ไม่พึงปรารถนาไปด้วยกันทั้งคู่ แต่การจะโน้ม จะสวิงไปในทางใด ทางหนึ่ง จนเลยขอบเขต หรือเลยเส้นแบ่งแห่งความประมาท-ไม่ประมาท จึงเป็นเรื่องที่ควรระมัดระวังเอาไว้ซะแต่เนิ่นๆ ควรที่จะอาศัยความประณีต ละเอียดอ่อน อาศัย ข้อมูล และ ข้อเท็จจริง ทางวิทยาศาสตร์เป็นพื้นฐาน จะไปอาศัยอารมณ์-ความรู้สึก หรือความปรารถนา ความต้องการ ของใครคนใด-คนหนึ่ง มาเป็นตัววัดตัดสิน คงไม่น่าจะ เข้าท่า กันซักเท่าไหร่นัก หรือพูดง่ายๆ ว่า...คงต้องหา จุดสมดุล หรือหาทางกลางๆ เข้าไว้นั่นแหละดี...
------------------------------------------------------------
แม้ว่าแนวโน้มการ อดตาย ในอนาคตเบื้องหน้า มันออกจะน่าเกลียด น่ากลัว อยู่พอสมควร แต่ถ้าดัน เป็นโรคตาย ไปก่อนหน้ามันก็คงไม่ใช่โชคดี...ที่ตายก่อน แต่กลับจะยิ่งทำให้มีแต่ ตาย...กับ...ตาย แทบไม่มีโอกาสรอด แทบไม่เห็นทางออก ทางไป เอาเลยก็ว่าได้ ด้วยเหตุนี้...บรรดาผู้ที่ห่วงใย กังวล ผู้ที่กลัวคนไทยอดตายทั้งหลาย ก็อย่าถึงกับต้องออกมายุ ออกมาเชียร์ ให้เปิดการ์ด ลดการ์ด กันชนิดวันละ 3 เวลาหลังอาหาร หันไปเงี่ยหูฟังบรรดา ผู้เชี่ยวชาญ หันไปฟัง คำตัดพ้อ ของ หมอแก้ว ท่านเอาไว้มั่ง ถึงจะเรียกว่า “เดินสายกลาง” หรือ มัชฌิมาปฏิปทา แบบของจริง-ของแท้ ไม่ใช่ สุดโต่ง ทั้งที่แก่แสนแก่ แต่ยังอดไม่ได้ที่จะเป็นวัยรุ่น วัยจ๊าบ อีกจนได้...
-------------------------------------------------------------
ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้จาก “H.L. Mencken”... “The older I grow the more I distrust the familiar doctrine that age brings wisdom. – ยิ่งแก่ตัวลงมากเท่าใด ข้าพเจ้าก็ยิ่งไม่ค่อยจะศรัทธาต่อความเชื่อที่ว่า ความแก่นำมาซึ่งความฉลาด”.
----------------------------------------------------------
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |