8 ก.ค. 2563 นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังประเมินว่าจากมาตรการเราเที่ยวด้วยกัน ที่กระตุ้นให้ประชาชนออกไปเดินทางท่องเที่ยวในประเทศช่วง 3 เดือน จะช่วยทำให้มีเงินไหลเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 50,000ล้านบาท ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยปีนี้ ขยายตัวเพิ่มขึ้น 0.2-0.3%

"การสนับสนุนให้ประชาชนท่องเที่ยวในประเทศมีผลดีกว่า เมื่อเทียบกับมาตรการอื่น ๆ เพราะเป็นการกระจายเม็ดเงินเข้าสู่ชุมชน แต่ถ้าเป็นมาตรการที่สนับสนุนให้ภาคธุรกิจขยายตัวในบางกลุ่มอุตสาหกรรม ถ้า sector นั้นโตได้ 2% ก็ไม่มีผลทางเศรษฐกิจเท่ามาตรการท่องเที่ยวที่กระจายตัวกว่า" นายลวรณ กล่าว

ทั้งนี้ กระทรวงการคลังขอประเมินผลจากมาตรการรอบแรกก่อนว่า การสนับสนุนเงินงบประมาณ 15,000 ล้านบาท ช่วยค่าห้องพัก 5 ล้านคืน จะมีผลตอบรับเป็นอย่างไร จำเป็นต้องขยับขยายอย่างไรหรือไม่ ซึ่งเบื้องต้นประเมินว่า มาตรการที่ชดเชยบางส่วน 40% และไม่เกิน 3,000 บาทต่อคืน คนจะใช้สิทธิ์ไม่เต็มเพดานที่ให้ทั้งหมด ก็จะมีเงินเหลือจากมาตรการ

ในวงเงินดังกล่าว อาจจะพิจารณามาตรการอื่นเพิ่มเติม เช่น จะกระตุ้นให้คนไทย ออกไปเที่ยวในวันธรรมดาได้อย่างไร ในแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม ที่ช่วงวันหยุด ศุกร์-อาทิตย์ มีคนไปเที่ยวมาก ๆ ให้เกิดการกระจายตัว เที่ยวได้ทุกวันมากขึ้น ส่วนมาตรการกระตุ้นให้คนมีฐานะ ใช้จ่ายมากขึ้นอยู่ระหว่างหารือกับกรมสรรพากร ซึ่งจะได้ข้อสรุปในเร็ว ๆ นี้

นายลวรณ กล่าวว่า มาตรการเราเที่ยวด้วยกัน อยู่ระหว่างทบทวนให้ผู้ประกอบการโรงแรม ที่ไม่เข้าเกณฑ์ร่วมโครงการ สามารถเข้าร่วมโครงการได้มากขึ้น โดยมี 3 กลุ่มคือ 1.กลุ่มที่อยู่ระหว่างการยื่นขอใบอนุญาตประกอบกิจการ 2.กลุ่มที่ใบอนุญาตหมดอายุแต่ไม่เกิน 1 ปี และ 3.กลุ่มที่ยังไม่มีใบอนุญาตแต่มีมาตรฐาน เช่น กลุ่มบูทีคโฮเทล ก็จะผ่อนผันให้ ซึ่งขั้นตอนอยู่ระหว่างการพิจารณาของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จะประกาศออกมาเร็ว ๆ นี้