8 ก.ค.63-น.ส.สฤณี อาชวานันทกุล นักวิชาการอิสระด้านเศรษฐศาสตร์ นักเขียน นักแปลชื่อดัง โพสต์ลงบนเฟซบุ๊ก Sarinee Achavanuntakul ว่า ตามอ่านเรื่องดราม่า PETA กับการบอยคอตกะทิไทยแล้วก็รู้สึกว่า ควรเขียนเรื่องนี้เป็นบทความดีกว่า รออ่านได้สัปดาห์หน้านะคะ
แต่ก่อนหน้านั้น อยากชวนคิดให้ไกลกว่าแนวคิดแบบคลั่งชาติตื้นๆ (ซึ่งอาจทำให้หลายคนสะใจแต่ไม่ช่วยแก้ปัญหา) อยากให้บริษัทผู้ส่งออกกะทิและทุกคนไปเรียนรู้บทเรียนจากบริษัทผู้ส่งออกอาหารทะเลตอนที่ไทยโดนบอยคอตผลิตภัณฑ์เพราะแรงงานทาสเมื่อหลายปีที่แล้ว ชวนสังเกตว่าลูกค้ายุโรปไม่ได้เลิกบอยคอตเพราะสิ่งต่อไปนี้เลยนะ
1. การปฏิเสธดื้อๆ ว่าปัญหานี้ไม่มี ถึงมีก็เป็นส่วนน้อย (อะไรก็ตามที่ลูกค้ามองว่าเป็นปัญหาใหญ่ จะมากหรือน้อยก็ต้องอธิบายวิธีแก้ และกำหนดเป้าหมายความคืบหน้าให้ชัดเจน)
2. การป่าวร้องโจมตีว่าองค์กรและสื่อมวลชนที่ตีแผ่และรณรงค์เรื่องนี้ไม่โปร่งใส ก่อนหน้านี้เคยสร้างปัญหาหลายเรื่อง (ซึ่งถึงแม้ว่าอาจจะจริง ก็ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับประเด็นนี้)
3. การไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ว่า “ความรับผิดชอบต่อสังคม” ของบริษัทยักษ์ใหญ่วันนี้ไม่ใช่แค่กิจกรรมซีเอสอาร์ แต่ฝังอยู่ในนโยบายความยั่งยืนของบริษัทซึ่งต้องแสดงความรับผิดและกำหนดให้คู่ค้าทำตาม
อ้อ... ลืมแถมว่าไทยไม่ใช่มหาอำนาจอย่างจีน ไม่ได้มีความสำคัญขนาดที่ **รัฐบาล** ของประเทศมหาอำนาจคู่แข่งจะอยากมาหาข้ออ้างเนียนๆ และไม่เนียน ซิกแซกมาสั่งเอ็นจีโอเพื่อกีดกันทางการค้าผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรสองสามตัว.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |