วันก่อนโฆษก ศบค.อธิบายว่าที่จะให้ ผบ.ทบ.ของสหรัฐฯ และคณะมาเยือนไทยโดยไม่ต้องกักตัวโควิดนั้นเป็นเรื่อง Fast Track
ก่อนหน้านั้นหนึ่งวัน ท่านเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติบอกว่าเป็น Special Arrangement
จะใช้คำว่าอะไรก็คือ "สิทธิพิเศษ" ที่เป็นกรณียกเว้นนั่นแหละ
เจ้าไวรัสโควิด-19 มันรับรู้ไหมว่าจะต้องยกเว้นการแพร่เชื้อให้แก่ผู้ใหญ่ของสหรัฐฯ ที่มาเยือนไทยเป็น "กรณีพิเศษ"
มีคำถามง่ายๆ แต่สำคัญมากก็คือ มีประเทศไหนอีกที่จะมี "สิทธิพิเศษ" เช่นนี้?
หากประเทศอื่นถามมา รัฐบาลไทยจะตอบว่าอย่างไร
คนไทยถูกบอกให้ "การ์ดอย่าตก" มาตลอด ไฉนเลยวันนี้รัฐบาลไทยจึง "การ์ดตกอย่างจงใจ" เสียเอง
โฆษก ศบค.อธิบายกับนักข่าวกรณีการจะมาเยือนไทยของ พล.อ.เจมส์ แมคคอนวิลล์ ผู้บัญชาการทหารบกสหรัฐฯ และคณะวันที่ 9-10 เดือนนี้ว่าเป็นเรื่อง "ละเอียดอ่อนและเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ อีกทั้งสหรัฐฯ ก็มีสถานการณ์ระบาดเป็นอันดับหนึ่ง..."
ด้วยเหตุนี้ "ทางรัฐบาลไทยจึงได้แลกเปลี่ยนข้อห่วงใยกับทางคณะของ ผบ.ทบ.สหรัฐฯ และร้องขอให้มีการปฏิบัติตามมาตรการต่างๆ ซึ่งทางสหรัฐฯ รับทราบและเข้าใจเงื่อนไขเป็นอย่างดี"
ถามว่าถ้าเราเห็นว่าเป็นเรื่อง "ละเอียดอ่อน" ที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และสหรัฐฯ มีสถิติคนติดเชื้อสูงสุดของโลก...ผู้บัญชาการทหารบกของสหรัฐฯ ตระหนักประเด็นนี้เหมือนไทยหรือไม่
ถ้าเป็นเรื่อง "ละเอียดอ่อน" สำหรับเรา มันก็ควรจะเป็นเรื่อง "ละเอียดอ่อน" สำหรับเขาด้วยใช่หรือไม่
ในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศนั้น เราจะรู้สึก "ละเอียดอ่อน" ข้างเดียวไม่ได้ สหรัฐฯ ก็ต้องรู้ว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่เขาควรรู้ว่าจะต้องปฏิบัติตนอย่างไร
คำอธิบายของ นพ.ทวีศิลป์ว่าด้วยมาตรการ 6 ข้อ น่าสนใจว่าจะตอบข้อสงสัยคลางแคลงของประชาชนคนไทยได้อย่างไร
ท่านบอกว่ามาตรการที่ว่านี้คือ
ต้องเป็นคณะเล็กไม่เกิน 10 คน
เป็นการเดินทางระยะสั้น
มีการตรวจรับรองการปลอดเชื้อโควิด-19 ที่ประเทศต้นทาง และเมื่อเดินทางถึงประเทศไทยให้หน่วยราชการที่เป็นเจ้าภาพจัดเจ้าหน้าที่ประจำคณะติดตาม
มีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานความมั่นคงติดตามด้วย
และสุดท้ายต้องจำกัดการเดินทางเฉพาะกำหนดการที่ได้ตกลงไว้ล่วงหน้าเท่านั้น ห้ามคณะเดินทางไปในที่สาธารณะและห้ามใช้ขนส่งมวลชน
เมื่อถามว่าบุคคลที่เข้าพบคณะจากสหรัฐฯ ต้องมีการกักตัวหลังจบภารกิจหรือไม่ โฆษก ศบค. บอกว่าหากการตรวจของคณะที่เดินทางมาเป็นลบอยู่แล้ว เจ้าหน้าที่ของไทยก็ให้รับการตรวจติดตามเป็นระยะ
ส่วนข้อห่วงใยต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ต้องพบปะคณะบุคคลที่เดินทางจากพื้นที่เสี่ยง "ได้ร้องขอให้ทางคณะปฏิบัติอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะเรื่องการสวมหน้ากาก"
"มีข้อเป็นห่วงจากหลายคนว่า กลุ่มคนเหล่านี้เป็นกลุ่มเสี่ยงจะต้องไปพบกับนายกฯ เราก็เป็นห่วงท่านนายกฯ จะทำอย่างไร ระหว่างพบก็ต้องมีการดูแลด้วย" คุณหมอทวีศิลป์อธิบาย
คำถามมีมากมาย...ที่รัฐบาลไทยตอบไม่ได้ และโฆษก ศบค.ก็ตอบหลบเลี่ยงไปด้วยความจำเป็น
ตั้งแต่คำว่า "ร้องขอ" แทนที่จะเป็นการ "กำหนดให้ต้องทำ" ไปจนถึงการไม่สามารถจะยืนยันได้ว่าจะให้ "กลุ่มเสี่ยง" ที่มาจากสหรัฐฯ เข้าพบนายกฯ โดยที่ไม่ได้กักตัวเพื่อให้แน่ใจว่าไม่ติดเชื้อได้อย่างไร
เพียงแค่บอกว่า "จะทำอย่างไร ระหว่างพบก็ต้องมีการดูแลด้วย"...ไม่รู้ว่าแปลว่าอะไรในทางปฏิบัติ
เพราะมันสุ่มเสี่ยง เพราะมันละเอียดอ่อน เพราะมันเป็นเรื่องของการเคารพในกติกาของกันและกัน รัฐบาลไทยมีทางออกที่นุ่มนวลและสมเหตุสมผลที่สุดในจังหวะนี้ก็คือ
ขอให้ผู้บัญชาการทหารบกสหรัฐฯ และคณะเลื่อนการเยือนไปก่อน และหากมีเรื่องสำคัญเร่งด่วนที่ต้องหารือกับผู้บัญชาการทหารบกของไทย ก็สามารถใช้เทคโนโลยีสนทนากันทางออนไลน์ได้ตลอดเวลา!
ได้ยินจาก ดร.ปณิธาน วัฒนายากร ว่าที่ ผบ.ทบ.สหรัฐฯ จะมาเยือนไทยนั้น มีความประสงค์มาลงนามใน "แถลงการณ์ร่วม Strategic Vision Statement" หรือเรื่อง "วิสัยทัศน์ยุทธศาสตร์ร่วม"
ถ้าแถลงผ่านออนไลน์ในสถานการณ์ปัจจุบันจะเป็นการแสดง "วิสัยทัศน์" ของมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกาอย่างยอดเยี่ยมเลย!
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |