หลายคนคงได้ยินคำว่า "ทาสแมว" กันมาบ้างพอสมควร หรือตัวเองอาจจะเป็นทาสแมวเองก็ได้ แต่ใครจะรู้ว่าความนิยมการเลี้ยงแมวนั้นมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ และคนไทยเองนั้นก็หันมาชอบแมวมากขึ้น จนทำให้เกิดกระแสหลายๆ อย่างขึ้นในโลกออนไลน์ รวมทั้งการแชร์รูปภาพแมวน่ารักๆ เสมอสำหรับทาสแมวหลายๆ คน
ซึ่งก่อนหน้านี้มีการเกิดขึ้นของแอปพลิเคชันเกม อย่าง My Talking Tom ที่ให้คุณสวมบทบาทเป็นเจ้าของแมวสุดน่ารัก ที่ต้องทำการเลี้ยงดูแมวดิจิทัลผ่านมือถือ ทั้งป้อนอาหาร เล่นด้วย พูดคุย อาบน้ำแปรงฟัน และส่งเข้านอนแบบที่ทำเป็นกิจวัตรประจำวัน ซึ่งเกมฮิตนี้ถูกพัฒนาและได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และหลังจากนั้นเกมการเลี้ยงแมวก็มีเพิ่มขึ้นมากเรื่อยๆ เพราะความนิยมของคนในสังคม
แต่นั่นคือในส่วนของคนที่ไม่สามารถเลี้ยงแมวจริงๆ ได้ ด้วยสถานที่หรือปัจจัยอื่นๆ ไม่อำนวย แต่เมื่อมาพูดถึงการเลี้ยงแมวจริงๆ นั้นก็ได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่อง จนถึงขั้นมีการกำหนดให้ทุกวันที่ 8 ส.ค.ของทุกปี เป็น 'วันแมวโลก' และเมื่อมาดูจากสถิติประเทศที่เลี้ยงแมวมากที่สุด ประเทศไทยเองก็ยังติด 1 ใน 10 อีกด้วย ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าความน่ารักของมันทำให้หลายคนต้องใจอ่อนจนยอมรับเจ้าแมวมาเลี้ยงดู
และจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นั้น ก็ยิ่งส่งผลให้การเลี้ยงแมวนั้นเพิ่มขึ้นมากเมื่อเทียบจากสินค้าที่เกี่ยวกับแมว โดยการรายงานจากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ถึงการติดตามสินค้าดาวรุ่งตัวใหม่ๆ ที่มีโอกาสในการขยายตลาดช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยพบว่า อาหารแมวเป็นสินค้าที่มีแนวโน้มการเติบโตเป็นอย่างมาก
เหตุผลหนึ่งอาจจะมาจากการที่คนต้องกักตัวอยู่บ้าน ทำให้มีการซื้ออาหารแมวมาเก็บไว้เพื่อใช้สำหรับเลี้ยงแมวของตนเอง โดยในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา รวมทั้งการเพิ่มสัดส่วนการเลี้ยงแมวเพิ่มขึ้นจากการกักตัวอยู่บ้านและต้องการเพื่อนเล่น ด้วยเหตุผลนี้เองจึงได้ส่งผลกระทบเชิงบวกต่อตลาดสินค้าอาหารสัตว์นิวซีแลนด์ โดยผู้จำหน่ายสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงในนิวซีแลนด์สามารถขายสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงในปริมาณที่ใช้บริโภคในสถานการณ์ปกติได้นานถึง 3 เดือน หมดภายในเวลา 2 อาทิตย์ ซึ่งเป็นสิ่งที่สะท้อนการให้ความสำคัญต่อสัตว์เลี้ยงได้อย่างชัดเจน
นางสลิลา เทพเกษตรกุล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครซิดนีย์ กล่าวว่า ตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงนิวซีแลนด์เป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงจากจำนวนประชากรสัตว์เลี้ยงที่มีอยู่จำนวนมากในปัจจุบัน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคต ประกอบกับพฤติกรรมของเจ้าของสัตว์เลี้ยงในนิวซีแลนด์ให้ความสำคัญกับคุณภาพของสินค้ามากกว่าปัจจัยด้านราคาในการเลือกซื้อสินค้าและมีแนวโน้มเลือกซื้อสินค้าระดับพรีเมียมมากขึ้นเรื่อยๆ จึงทำให้นิวซีแลนด์เป็นตลาดสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงที่ผู้ส่งออกสินค้าไทยไม่อาจมองข้ามได้
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการไทยควรติดตามและศึกษาแนวโน้มความต้องการสินค้าดังกล่าวของตลาดอย่างใกล้ชิด เพื่อพัฒนาคุณภาพของสินค้าให้เป็นที่ต้องการของตลาดมากขึ้น รวมถึงการพัฒนารูปแบบบรรจุภัณฑ์สินค้า โดยควรออกแบบและพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่สามารถสื่อสารให้ผู้ซื้อเห็นถึงความเป็นธรรมชาติและเกิดความรู้สึกปลอดภัยในการเลือกใช้สินค้า ดังนั้น ปัจจัยด้านคุณภาพและบรรจุภัณฑ์เป็นปัจจัยสำคัญสำหรับขยายฐานลูกค้า และเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงในนิวซีแลนด์
ปัจจุบันนิวซีแลนด์เป็นประเทศที่นิยมเลี้ยงสัตว์เลี้ยง โดยประชากรประมาณ 3.2 ล้านคน คิดเป็น 64% ของประชากรทั้งหมด มีสัตว์เลี้ยงอย่างน้อย 1 ตัว และมีอัตราการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงเฉลี่ยต่อครัวเรือนสูงเป็นอันดับ 2 ของโลก ซึ่งจำนวนประชากรสัตว์เลี้ยงในนิวซีแลนด์ทั้งหมดมีจำนวน 4.6 ล้านตัว และแมวเป็นสัตว์เลี้ยงที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในนิวซีแลนด์ มีจำนวน 1.419 ล้านตัว และมีอัตราการเลี้ยงแมวเฉลี่ยจำนวน 2 ตัวต่อครัวเรือน และชาวนิวซีแลนด์ 28% ยังนิยมเลี้ยงสุนัข ซึ่งมีจำนวนทั้งหมด 683,000 ตัว
เมื่อดูจากสถิตินั้น นับได้ว่าสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงเป็นรายการสินค้าจำเป็นและต้องซื้อเป็นประจำ โดยจะพิจารณาถึงคุณภาพและคุณค่าทางโภชนาการเป็นปัจจัยหลักในการพิจารณาเลือกซื้อสินค้า และไม่ได้มีความอ่อนไหวในปัจจัยด้านราคา เนื่องจากต้องการให้สัตว์เลี้ยงของตัวเองได้บริโภคสินค้าที่ดีที่สุด โดยแนวโน้มนี่จึงอาจจะเป็นช่องทางที่ดีที่ทำให้ผู้ประกอบการทางด้านนี้หันมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ของตัวเองให้สามารถเข้าไปตีตลาดต่างประเทศได้ รวมถึงในประเทศไทยเองก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะเพิ่มยอดขายได้เช่นกัน.
ณัฐวัฒน์ หาญกล้า
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |