หลังจบศึกอภิปราย พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ.2564 วงเงิน 3.3 ล้านล้านบาท ไม่มีอะไรผิดคาด ฝ่ายรัฐบาล ด้วยเสียงจำนวนมือมากกว่า โหวตผ่านฉลุย เอาชนะฝ่ายค้านไปได้ จบศึกงบประมาณ ถึงคิวพรรคการเมืองทุกพรรคต้องนัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี ตามที่กฎหมายระบุไว้
พรรคพลังประชารัฐเปิดหัวก่อนใครเพื่อน ได้ บิ๊กป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เข้ามาเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ เสี่ยแฮงค์-อนุชา นาคาศัย มาเป็นเลขาธิการพรรคคนใหม่ ประชาธิปัตย์นัดหมาย 19 ก.ค. ประชุมใหญ่ แม้ไม่มีวาระ เปลี่ยนหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค แต่เรื่องราวคลื่นใต้น้ำที่ไม่พอใจการนำของหัวหน้าพรรคยังคุกรุ่น พร้อมระเบิดได้ทุกเวลา
พรรคเพื่อไทย คาดกันว่าน่าจะจัดประชุมใหญ่สามัญ วันที่ 21 ก.ค. แม้ไม่มีวาระปรับเปลี่ยนให้ตื่นเต้น เฮียพงษ์-สมพงษ์ อมรวิวัฒน์, ป๊อบ-น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ยังคงทำหน้าที่หัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค ตามลำดับ แต่ในส่วนของตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคคนอื่นๆ ที่ถูกตั้งข้อสังเกต เป็นคนของคุณหญิงสุดารัตน์เสียเป็นส่วนใหญ่ จึงอยากให้มีการ เขย่า ปรับใหม่ ให้มีความเหมาะสม
'ปลอดประสพ สุรัสวดี' 'สามารถ แก้วมีชัย' 'ลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์' บางรายพ้นสภาพสมาชิกพรรคเพราะคำพิพากษาของศาล บางรายขอแยกตัวไปสร้างเส้นทางการเมืองของตัวเอง กรรมการบริหารพรรคเดิม 29 คน มีรองหัวหน้าพรรค 15 คน รองเลขาธิการพรรคอีก 7 คน
มีการมองกันว่า ไม่ตอบโจทย์ รองหัวหน้าพรรค 15 คน รองเลขาธิการพรรค 7 คน ดูเหมือนจะเป็นการจัดสรรต่างตอบแทน รายภาค รายกลุ่มมากกว่า การมอบหมายภารกิจขับเคลื่อนพรรคอย่างเป็นรูปธรรม เฉกเช่นเดียวกับตำแหน่ง 'รองโฆษกพรรค' แม้จะไม่ถูกนับรวมเป็นกรรมการบริหารพรรค แต่ด้วยจำนวนที่มีมากถึง 5-6 คน มีการจัดบทบาทให้แต่ละคนไว้ บางคนให้เน้นด้านต่างประเทศ บางคนให้เน้นเรื่องเศรษฐกิจ บางคนให้มาช่วยเรื่องทางการเมือง แต่บทบาทกลับไม่เปรี้ยง
ในส่วนของ 'โฆษกพรรค' นักโต้วาทีถนัดประดิษฐ์วาทกรรม แต่ประเด็นการตรวจสอบเชิงลึก เกาะติด กลับไม่เคยเห็น โฆษกพรรคไม่สามารถพูดทิศทางพรรคได้ ต้องรอสัญญาณ ตีกรอบแนวทางมา
ที่ผ่านมาจึงเห็นภาพ วาทกรรมตอบโต้ มากกว่า ตรวจสอบ เกาะติดแบบได้-เสีย
อย่างไรก็ดีมีการวิเคราะห์ออกมาว่า มีแนวโน้มที่อาจจะมีการปรับขนาดกรรมการบริหารพรรคให้เกิดความคล่องตัว และเพิ่มสัดส่วนโควตาคนรุ่นใหม่ให้เข้ามาช่วยงานมากขึ้น และอาจจะมีการตั้งคณะทำงานอะไรบางอย่างเพิ่มเข้ามา เพื่อตอบโจทย์ในยุค new normal
ภาคอีสาน ขุมกำลังหลักเพื่อไทย ที่มี ส.ส.มากถึง 84 คน จาก 116 เขต ถือเป็นกลุ่มก๊วน มุ้งที่ใหญ่ที่สุดในพรรคที่ สมาชิกบางคนอยากให้ถือโอกาสในการประชุมใหญ่ของพรรค ปรับหัวขบวนบางคนก๊วนอีสาน
เรื่องราวคาใจในการจัดสรรงบ 63 ที่มีเสียงเล็ดลอดไม่สู้ดีนัก ประกอบกับสายสัมพันธ์อันแนบแน่นกับเสี่ยปาน-วิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล จนถูกตั้งข้อสงสัยให้น่าคิด งบกลาง-งบตัว-เงินทอน
เรื่องราวเกือบบานปลายไปถึงขั้นล่ารายชื่อถอดถอน ปลดจากตำแหน่ง แต่ถูกแตะเบรกจากสุทิน คลังแสง ที่ไม่อยากเห็นภาพความขัดแย้งขยายตัวออกไปสู่วงกว้าง
เรื่องราวใน มุ้งอีสาน ยังพุ่งตรงไปยังนักอภิปรายซักฟอกคนดัง ที่โชว์ฟอร์มผิดหวัง ทำคนในพรรคส่ายหน้า หลังจบศึกคราวนั้น นัดหมายกลุ่มเพื่อนสมาชิกร่วม 20 คนไปกินข้าวที่บ้านพัก อาหาร เครื่องดื่ม พร้อมทั้งซองบางๆ ให้เหล่าสมาชิก เจ้าภาพยังกำชับหนักแน่น 'อภินันทนาการจาก เสี่ย ก.' นายทุนคนดังที่แตะมือทุกฝ่าย ทั้งซีกรัฐบาล ซีกฝ่ายค้าน และกลุ่มใหม่
นักอภิปรายคนดังมีแนวคิดจะตั้งกลุ่มสามัคคี รวบรวมสมาชิกให้เข้ามาเป็นแนวร่วม ที่แม้ในวันนี้จะยังไม่ได้สมาชิกไปรวมกลุ่ม แต่ก็ถือเป็นจังหวะก้าวย่างที่น่าจับตา ยังไม่นับรวมการจัดสรรโควตากรรมาธิการวิสามัญงบประมาณ 2564 ด้วยความที่มีความต้องการมาก บางกลุ่มถึงขั้นจับสลากเข้าไปในนามตัวแทนกลุ่ม
เรื่องราวของสมาชิกที่ไม่ลงรอยทางแนวความคิดอย่างรุนแรง กับการตั้งกลุ่มแคร์ ถึงขนาดคนในพรรคด้วยกันเดินเกมบีบให้พ้นพรรค เรื่องราวในมุ้งอีสานที่รอวันปะทุ
และเรื่องราวการจัดขบวนในองค์กร ผ่านกรรมการบริหารพรรคและในส่วนอื่นๆ ว่ากันว่า จัดกระบวนทัพรอบนี้ เพียงแค่ 'ปรับ' เพื่อ 'รอ' การ 'เปลี่ยนแปลงใหญ่' ของพรรคในวันข้างหน้า ส่วนจะเป็นเช่นไรคงต้องติดตามกันก้าวต่อก้าว.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |