วันนี้ - นายประทีป เพ็งตะโก อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า ภายหลังลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานโครงการอนุรักษ์และพัฒนาแหล่งเตาทุเรียงเมืองเก่าสุโขทัย ของอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ว่า โครงการอนุรักษ์และพัฒนาแหล่งเตาทุเรียงเมืองเก่าสุโขทัย เป็นการดำเนินงานในแหล่งผลิตเครื่องปั้นดินเผาหรือ สังคโลก ซึ่งเป็นโครงการต่อเนื่องที่เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปีงบประมาณ 2559 โดยเริ่มสำรวจ ขุดค้น ขุดแต่งทางโบราณคดีและบูรณะเตาเผาโบราณทั้งหมดที่พบบนพื้นดินเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งผลจากการดำเนินงานทำให้ทราบว่า มีเตาทุเรียงตั้งเรียงรายอยู่ทางด้านทิศเหนือนอกเมืองสุโขทัยโดยกระจายตัวอยู่บริเวณด้านทิศเหนือและใต้ของวัดพระพายหลวง จำนวน 64 เตา แบ่งเป็นเตาตะกรับหรือเตาระบายความร้อนแนวตั้ง ใช้สำหรับเผาเครื่องปั้นดินเผาที่อุณหภูมิไม่เกิน 800˚C จำนวน 52 เตา เตาประทุนหรือเตาระบายความร้อนแนวนอน ใช้สำหรับเผาเครื่องปั้นดินเผาที่อุณหภูมิ 900-1,200˚C จำนวน 12 เตา และบ่อหมักดินรูปสีเหลี่ยมอีก 2 บ่อ ทั้งนี้สันนิษฐานว่าน่าจะมีการขนส่งผลิตภัณฑ์ผ่านทางคลองแม่ลำพันที่อยู่ใกล้กับกลุ่มเตาและเชื่อมต่อไปยังแม่น้ำยมที่อยู่ห่างจากเมืองสุโขทัยไปทางตะวันออกประมาณ 12 กิโลเมตร และยังสามารถขนส่งสินค้าทางเกวียนผ่านถนนพระร่วงซึ่งอยู่ติดกันกับกลุ่มเตาได้อีกทางหนึ่ง
นายประทีป กล่าวอีกว่า โบราณวัตถุที่ขุดพบมีความน่าสนใจ โดยมีลักษณะบิดเบี้ยวแสดงถึงของเสียจากการผลิต ส่วนใหญ่เป็นภาชนะดินเผา เช่น จาน ชาม กระปุก แจกัน ที่มีการตกแต่งด้วยการทาน้ำดินรองพื้นสีขาวและเขียนลายสีดำใต้เคลือบใส วาดเป็นลวดลายต่างๆ เช่น ปลา พบทั้งแบบปลาตัวเดียวไปจนถึง 4 ตัวในใบเดียว นอกจากนี้ยังสัตว์น้ำอื่นๆ ลายพันธุ์พฤกษา และลายเรขาคณิต อีกทั้งได้พบ ชิ้นส่วนเครื่องประดับสถาปัตยกรรม เช่น มกร สิงห์ บราลี กระเบื้องหลังคา ตุ๊กตาดินเผา รวมทั้งกี๋ หรือตัวรองคั่นผลิตภัณฑ์ตอนเข้าเตาเผา รูปแบบต่างๆ ที่บางส่วนมีการเขียนลวดลายหรือตัวอักษร และจากการวิเคราะห์โบราณวัตถุยังได้พบอีกว่า ลวดลายที่ปรากฏบนภาชนะในระยะแรกของการผลิตนั้นมีความวิจิตรบรรจงมากกว่าภาชนะที่ผลิตขึ้นในยุคหลัง อาจเป็นผลจากอุตสาหกรรมที่ผลิตเพื่อการส่งออกที่ต้องเร่งรีบจึงลดความประณีตลง
“ กรมศิลปากรได้ส่งตัวอย่างถ่านไปหาค่าอายุด้วยเรดิโอคาร์บอนแบบที่มหาวิทยาลัยไวกาโต้ ประเทศนิวซีแลนด์ ทำให้นักโบราณคดีกำหนดช่วงเวลาได้ชัดเจนขึ้น ว่าระยะแรกของการเริ่มผลิตสังคโลก ที่แหล่งเตาทุเรียงเมืองสุโขทัย เริ่มขึ้นในช่วงระหว่าง พ.ศ. 1953-2123 หรือเมื่อราว 600 ปีมาแล้ว ตรงกับสมัยของพระมหาธรรมราชาที่ 1 (ลิไท) ต่อมาระยะหลังมีการก่อสร้างเตาเป็นจำนวนมาก พร้อมทั้งมีการส่งออกเครื่องสังคโลกอย่างแพร่หลาย กำหนดอายุราว 550 ปีมาแล้ว ซึ่งตรงกับช่วงปลายของสุโขทัย จนถึงช่วงเวลาที่อยู่ภายใต้การปกครองของกรุงศรีอยุธยา ปัจจุบันอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยกำลังดำเนินการปรับภูมิทัศน์พื้นที่โดยรอบและสร้างอาคารเพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพของเตาเผาโบราณ ด้วยโครงสร้างไม้ไผ่เป็นครั้งแรกของกรมศิลปากร จำนวน 9 หลัง ให้มีภูมิทัศน์แบบโบราณ และเพิ่มศักยภาพด้านการท่องเที่ยวและพัฒนาให้เป็นแหล่งเรียนรู้เรื่อง แหล่งผลิตสังคโลกเมืองสุโขทัย” นายประทีป กล่าว