เทศกาลสงกรานต์ถือเป็นประเพณีงดงามของชาวไทยที่สืบทอดกันมายาวนาน เพื่อแสดงออกถึงความรัก ความผูกพันของคนในครอบครัว ชุมชน และสังคม ผ่านกิจกรรมงานบุญต่างๆ รวมทั้งการละเล่นสร้างสรรค์ที่สนุกสนาน โดยเฉพาะการเล่นสาดน้ำ ที่สร้างชื่อเสียงทางด้านการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมไปทั่วโลก แต่ระยะหลังการเล่นสาดน้ำเริ่มผิดเพี้ยนไปจากประเพณีดั้งเดิม เนื่องจากมีการบริโภคเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เข้าไปในพื้นที่จัดงาน นำมาซึ่งปัญหาต่างๆ มากมาย เช่น อุบัติเหตุบนท้องถนน ที่แต่ละปีมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก การทะเลาะวิวาท รวมทั้งการล่วงละเมิดทางเพศต่อผู้หญิง
ด้วยความตระหนักถึงปัญหานี้ เมื่อเร็วๆ นี้ ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) นายเลิศปัญญา บูรณบัณฑิต อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว พม. พร้อมด้วยนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย (มท.) ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) นายวิษณุ ศรีทะวงศ์ ผู้จัดการแผนนโยบาย สาธารณะ สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) นายจะเด็จ เชาวน์วิไล ผู้อำนวยการมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล ตลอดจนผู้แทนกรุงเทพมหานคร และผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ร่วมกันแถลงข่าวรณรงค์ “สงกรานต์ปลอดเหล้า ปลอดภัย ไม่ลวนลาม” โดยภายในงานมีการแสดง แต่งไทยย้อนยุค และแรปเพลง “สงกรานต์ ปลอดเหล้า ปลอดภัย ไม่ลวนลาม”
(เลิศปัญญา บูรณบัณฑิต)
นายเลิศปัญญากล่าวว่า ในแต่ละปีปัญหาการล่วงละเมิดต่อผู้หญิงเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทั้งในบริเวณที่เป็นพื้นที่เล่นสงกรานต์และบริเวณใกล้เคียง แม้จะได้มีความร่วมมือระหว่างหน่วยงานต่างๆ รณรงค์ให้เกิดความตระหนัก แต่ปัญหาก็ยังคงมีอยู่ และที่สำคัญ เมื่อเกิดปัญหาขึ้นแล้วไม่ค่อยมีใครรู้ว่าควรทำอย่างไรต่อไป โดยเฉพาะผู้ถูกกระทำมักไม่รู้สิทธิ์ของตนเอง แต่ถูกทำให้เข้าใจไขว้เขวว่าเป็นความผิดของตนเอง ส่งผลให้ตัดสินใจ ไม่แจ้งความ ไม่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ทำให้ผู้กระทำผิดยังสามารถอยู่ได้ในสังคม ปัญหาจึงไม่หมดไป
“การรณรงค์ สงกรานต์ ปลอดเหล้า ปลอดภัย ไม่ลวนลาม ที่ร่วมกันดำเนินการในครั้งนี้ มีทั้งการป้องกันและการแก้ไข เพื่อสร้างการรับรู้แก่หญิงชายทั่วไปว่า การล่วงละเมิดทางเพศนั้นเป็นพฤติกรรมที่ไม่ควรถูกมองว่าเป็นเรื่องธรรมดา จนทุกคนละเลย ไม่สนใจ ไม่ระแวดระวัง ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน หากแต่เป็นพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์และผิดกฎหมาย และเพื่อสร้างความรู้ว่า เมื่อเรารับรู้ว่าเกิดการล่วงละเมิดทางเพศขึ้น ต้องตระหนักว่าเป็นเรื่องที่ต้องให้ความช่วยเหลือ และรู้ว่าการช่วยเหลือต้องเป็นเช่นไร ไปทางไหนก่อนหลัง เพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้ถูกกระทำ” นายเลิศปัญญากล่าว
(ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์)
ด้าน ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการ สสส. กล่าวว่า จากข้อมูลผลสำรวจความคิดเห็นต่อการจัดงานสงกรานต์ ปี 2560 โดยศูนย์วิจัยเพื่อการพัฒนาสังคมและธุรกิจ (SAB) ระบุว่า มีสิ่งที่ประชาชนกังวลเมื่อมาเที่ยวสงกรานต์ 3 ประเด็น คือ การทะเลาะ วิวาท ร้อยละ 55.9 การเล่นน้ำที่รุนแรง ร้อยละ 40.9 และอุบัติเหตุ ร้อยละ 38.6 ทั้งนี้ คนมาเที่ยวงานสงกรานต์เห็นว่าการเล่นสงกรานต์แบบไร้แอลกอฮอล์จะช่วยลดอุบัติเหตุ การเสียชีวิต ลดปัญหาทะเลาะวิวาทได้ และเห็นว่าการจัดสงกรานต์ปลอดเหล้าไม่ได้ทำให้นักท่องเที่ยวลดลง โดยส่วนใหญ่ร้อยละ 80.6 เห็นด้วยว่าการจัดงานสงกรานต์ควรจัดแบบปลอดเหล้า แต่อย่างไรก็ตาม ร้อยละ 68.2 ยังเห็นว่าการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ช่วงสงกรานต์เป็นเรื่องปกติธรรมดา
นอกจากนี้ ข้อมูลงานวิจัยชี้ชัดว่า การจัดงานสงกรานต์ปลอดเหล้า หรือกำหนดโซนนิงพื้นที่เล่นน้ำปลอดเหล้า มีส่วนช่วยกระตุ้นความสนใจให้คนมาเที่ยวงานมากขึ้น ซึ่งข้อมูลดังกล่าวสอดรับกับคนส่วนใหญ่ที่เห็นว่างานสงกรานต์ปลอดเหล้าไม่ได้ทำให้นักท่องเที่ยวลดลง ไม่ได้ทำให้บรรยากาศเงียบเหงา หรือไปกระทบก่อผลเสียต่อธุรกิจท่องเที่ยวและบริการกลับช่วยให้สงกรานต์เป็นเทศกาลแห่งความสุขปลอดภัย
แต่เรื่องที่ยังน่าห่วงคือ การจัด Midnight สงกรานต์ หรือสงกรานต์เล่นน้ำกลางคืน ที่ถูกธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ใช้เป็นเครื่องมือส่งเสริมการขายเหล้า-เบียร์ โดยจัดกิจกรรมเล่นน้ำตามผับ บาร์ ร้านเหล้า และลานหน้าห้างสรรพสินค้า มีคอนเสิร์ตพ่วงลานเบียร์ อาจกลายเป็นสาเหตุสำคัญของความสูญเสียได้
“ที่ผ่านมา สสส.และภาคี สสส.ได้ริเริ่มจัดพื้นที่โซนนิงปลอดเหล้า ไม่อนุญาตให้นำเหล้า-เบียร์เข้าพื้นที่ที่จัดไว้ให้เป็นพื้นที่เล่นน้ำ โดยถนนข้าวเหนียว จังหวัดขอนแก่น เป็นพื้นที่นำร่องแห่งแรก กระทั่งขยายกลายเป็น 50 ถนน ตระกูลข้าวและ 100 พื้นที่เล่นน้ำปลอดเหล้า จากนั้นกระทรวงมหาดไทยได้ขยายเขตโซนนิงไปอีกกว่า 3,200 แห่งทั่วประเทศ และปีนี้ขยับสร้างพื้นที่เล่นน้ำปลอดภัยเข้มข้นในทุกอำเภอ ทุกจังหวัด รวมถึงสร้างมาตรการดูแลเรื่องความปลอดภัยทางถนน อาทิ รณรงค์สวมหมวกและคาดเข็มขัดนิรภัย การตั้งด่านชุมชน สร้างมาตรการและความร่วมมือระดับชุมชนศูนย์ถนนระดับอำเภอ การตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ในผู้ขับขี่ ทั้งนี้ สสส.ได้สนับสนุนสื่อรณรงค์แบรนเนอร์ 5,000 ผืน และสติกเกอร์ 50,000 แผ่น เพื่อใช้รณรงค์สงกรานต์ปลอดภัยปีนี้ด้วย” ผู้จัดการ สสส.กล่าว
ทางด้านนายวิษณุ ศรีทะวงศ์ ผู้จัดการแผนนโยบาย สาธารณะ สคล. กล่าวว่า สงกรานต์นี้สิ่งที่ต้องเฝ้าระวัง คือปัญหาความสูญเสียจากอุบัติเหตุระหว่างการเดินทาง การเล่นน้ำที่รุนแรง ทะเลาะวิวาท ทำร้ายร่างกาย รวมถึงพฤติกรรมเมาแล้วขับ ขับรถเร็ว ไม่สวมหมวกนิรภัย ยิ่งหลังเที่ยงคืน เป็นช่วงเวลาที่ไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแล เนื่องจากอ่อนล้าหลังปฏิบัติหน้าที่มาทั้งวัน หากพื้นที่ไหนไม่จัดงานปลอดเหล้า ส่งเสริมให้ดื่มหนักตั้งแต่หัวค่ำยันเที่ยงคืน ผู้มาร่วมงานส่วนใหญ่เป็นเยาวชน อยู่ในสภาพมึนเมา เมื่อเดินทางกลับบ้านโดยรถจักรยานยนต์ไม่สวมหมวกกันน็อก ขับรถเร็ว จึงเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ เจ็บ-ตายเพิ่มมากขึ้น รวมถึงพฤติกรรมการล่วงละเมิดคุกคามทางเพศก็ง่ายที่จะเกิดขึ้น ซึ่งน้ำเมาเป็นต้นเหตุของการลวนลาม อนาจาร มีผลลบต่อการท่องเที่ยว เพราะบางชาติเขาถือเรื่องนี้มาก
“ภาคีเครือข่ายฯ และ สสส.เคยนำร่องบทเรียนความสำเร็จจัดงาน Midnight สงกรานต์กลางคืนแบบปลอดเหล้า เช่น ถนนข้าวทิพย์ปลอดเหล้า จังหวัดจันทบุรี มีโครงการฝากเหล้าไว้กับตำรวจ งาน Hadyai Midnight Paradise ที่สงขลา จัดแบบสนุกได้ไร้แอลกอฮอล์ มีการตั้งคอนเสิร์ตและปาร์ตี้โฟม และงานสงกรานต์โนแอล ที่ห้าง Limelight Avenue ที่ภูเก็ต และการจัดงานที่หน้า CentralWorld กรุงเทพฯ ที่จัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 7 ยืนยันผลสำเร็จของการควบคุมผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ได้อย่างมาก” นายวิษณุกล่าว
เมื่อรู้ปัจจัยความสูญเสียต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงสงกรานต์ ว่าล้วนมีบ่อเกิดจากเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์ จึงถึงเวลาที่ทุกฝ่ายจะต้องตระหนักและเห็นแก่ส่วนรวมด้วยการหันมาเที่ยวสงกรานต์แบบปลอดเหล้า.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |