ปัตตานีปะทะเดือด! คนร้ายยิงใส่ทหารพราน 42   ขณะเข้าตรวจค้น อส.เสียชีวิต 1 นาย บาดเจ็บ 2 นาย คนร้ายถูกยิงดับ 1 ราย "ผบ.ตร." กำชับ ตร.ชายแดนใต้เร่งสกัดเครือข่ายยาเสพติด ตัดท่อน้ำเลี้ยงโจรใต้
    เมื่อวันที่ 3 ก.ค. เวลา 14.10 น. พ.ต.อ.เลียบ พรหมจันทร์ ผกก.สภ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งมีเหตุปะทะ มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บหลายราย เหตุเกิดบริเวณบ้านเลขที่ 119 ม.1 ต.ดอน อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี หลังได้รับแจ้งจึงนำกำลังร่วมเข้าพื้นที่ทันที  พร้อมรายงานให้ พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี รอง ผบช.ภาค 9,   พล.ต.ต.จีรวัฒน์ พยุงธรรม ผบก.ภ.จ.ปัตตานี, พล.ต.ปิยะพงษ์ วงศ์จันทร์ ผบ.ฉก.ปัตตานี, นายวิภาค ภู่เพชร นายอำเภอปะนาเระ ทราบ พร้อมนำกำลังเสริมเข้าพื้นที่ พบ พ.อ.สมคิด คงแข็ง ผบ.ฉก.ทพ.42 นำกำลังคุมพื้นที่ปิดล้อมบ้านหลังดังกล่าว ซึ่งเป็นบ้านไม้ยกพื้นชั้นเดียว แต่ยังไม่สามารถเข้าเคลียร์พื้นที่ภายในบ้านได้ เนื่องจากเกรงว่าจะมีคนร้ายหลบอยู่ในบ้าน จากนั้นได้วางแผนเข้าตรวจสอบภายในบ้าน ไม่พบคนร้าย คาดว่าน่าจะหลบหนีไปแล้ว
    จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบคนร้ายถูกวิสามัญฯ เสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อคือนายอันวา ดือราแม อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 58 ม.5 ต.พิเทน อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี มีหมายจับ ป.วิอาญาคดีความมั่นคง จำนวน 4 หมาย นอนเสียชีวิตอยู่ข้างบ้าน ที่มือด้านซ้ายถืออาวุธปืนขนาด 9 มม. ภายในแมกกาซีนถูกยิงจนหมดไปแล้ว และข้างตัวพบแมกกาซีนเปล่า 1 อัน จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
    นอกจากนี้ พบเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุปะทะ 3 ราย ถูกลำเลียงส่งโรงพยาบาลปะนาเระ ทราบชื่อ 1.อส.มะซอปรี แวสามะ อายุ 31 ปี สังกัด อส.อ.ปะนาเระ กระสุนปืนถูกบริเวณศีรษะ ได้รับบาดเจ็บสาหัส แพทย์พยายามช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา 2.พ.ต.ประเทือง พุศลพงษ์ ผบ.ร้อย.ทพ.4215 ฉก.ทพ.42 กระสุนปืนถูกบริเวณโหนกแก้ม ได้รับบาดเจ็บ และ 3.อส.ทพ.สำราญ มานุ้ย สังกัดร้อย ทพ.4215 ฉก.ทพ.42 กระสุนปืนถูกบริเวณขาหนีบด้านใน ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งทั้งคู่ปลอดภัยแล้ว
    มีรายงานว่า ก่อนหน้านี้ 10 วัน คนร้ายทั้งสองได้มาพบกับนางอารามะ วานิ อายุ 41 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน โดยคนร้ายที่เสียชีวิตขออาศัยอยู่ใต้ถุนบ้าน ซึ่งนางอารามะตกใจและกลัวเนื่องจากไม่รู้จัก แต่ก็ไม่กล้าปฏิเสธ จึงยอมให้อยู่ ส่วนนางอารามะได้ย้ายไปอยู่บ้านอีกหลัง ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านประมาณ 100 เมตร และก่อนเกิดเหตุ พ.ต.ประเทือง และนายอรรถกร เหรียญนุ้ย ปลัดป้องกันอำเภอปะนาเระ ได้รับแจ้งจากสายข่าวมีกลุ่มค้ายาเสพติดพร้อมอาวุธใช้บ้านหลังดังกล่าวหลบซ่อนตัว เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้จับกุมกลุ่มนักค้ายาเสพติดในพื้นที่ อ.ยะหริ่ง ก่อนจะทำการขยายผลจนทราบว่ากลุ่มนักค้ายาเสพติดได้หลบซ่อนตัวที่บ้านหลังเกิดเหตุ
    เจ้าหน้าที่จึงได้มาตรวจสอบ เมื่อมาถึงหน้าบ้าน อส.มะซอปรี,  พ.ต.ประเทือง และ อส.ทพ.สำราญ ได้เดินไปเรียกคนในบ้านออกมา ปรากฏว่าคนร้ายที่อยู่ในบ้านได้เปิดฉากยิงใส่เจ้าหน้าที่ทั้ง 3 นายจนได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่เพื่อนจะเข้าไปช่วยเหลือ และเกิดการยิงปะทะกันขึ้น คนร้าย 2 คนที่อยู่ในบ้านได้ใช้อาวุธปืนระดมยิงใส่เจ้าหน้าที่หวังเปิดทางเพื่อหลบหนี กระทั่งคนร้ายถูกยิงเสียชีวิต 1 ราย ส่วนอีก 1 คนหลบหนีเข้าไปในป่าหลังบ้าน
    พ.อ.สมคิดได้ระดมกำลังปิดล้อมบ้านหลังดังกล่าวเพื่อทำการเคลียร์พื้นที่ว่าภายในบ้านยังมีคนร้ายหลบซ่อนตัวอีกหรือไม่ แต่ปรากฏว่าไม่พบคนร้าย รวมไปถึงสั่งกำลังร่วมกระจายกำลังออกไล่ล่าคนร้ายที่หลบหนี
    วันเดียวกัน ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พร้อมคณะ เดินทางลงพื้นที่ จ. นราธิวาส ประชุมร่วมกับ พล.อ.จตุพร กลัมพสุต ผอ.สำนักงานข่าวกรองและ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า, พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภ.9, พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผบช.ปส., นายเอกรัฐ หลีเส็น ผวจ.นราธิวาส, พล.ต.ต.นรินทร์ บูสะมัญ ผบก.ภ.จว.นราธิวาส เพื่อหารือถึงสถานการณ์ยาเสพติด และการจับกุมยาเสพติดในพื้นที่ จ.นราธิวาส จำนวน 2 คดี ทั้งจับกุมยาไอซ์ที่บรรจุใส่ไว้ในกระสอบจำนวน 35 กระสอบ น้ำหนัก 1,425 กิโลกรัม และตรวจยึดเฮโรอีนจำนวน 36 ถุง น้ำหนัก 6.3 กก.
    พล.ต.อ.จักรทิพย์แถลงหลังการประชุมว่า หลังจากเกิดสถานการณ์โควิด-19 ทำให้กลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดต้องชะลอสินค้าเป็นจำนวนมาก เมื่อมีการปลดล็อกทำให้ต้องรีบส่งของที่ถูกอั้นมานานหลายเดือน ซึ่งกลุ่มนายทุนตอนนี้อยู่ระหว่างการขยายผลสู่ตัวการใหญ่ที่ทราบเบาะแสแล้ว โดยต้นทางมาจากทางภาคเหนือ อีกทั้งยังถือเป็นท่อน้ำเลี้ยงให้กลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อีกด้วย ขณะยาไอซ์ยังเป็นที่ต้องการของเครือข่ายค้ายาต่างประเทศ ถ้าหลุดออกไปต่างประเทศจะมีมูลค่าเกือบหมื่นล้านบาท.