'รองโฆษกพปชร.' จวก 'ปิยบุตร' เลิกหลับตานั่งวิจารณ์ในห้องแอร์ เกือบ 4 เดือนไม่เห็นคณะก้าวหน้าลงพื้นที่


เพิ่มเพื่อน    

2 ก.ค.63 - น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ อดีตผู้สมัครส.ส.กทม. เขตจอมทอง-ธนบุรี กล่าวถึงกรณีที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล แกนนำคณะก้าวหน้าและอดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กแสดงความคิดเห็นว่าไม่มีความจำเป็นใดหลงเหลือในการคงประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินว่า เป็นการแสดงความคิดเห็นที่ไม่สนใจสุขภาพอนามัยของประชาชน ไม่สนใจข้อมูลสถิติทางการแพทย์ เหมือนมีเจตนาปลุกระดมโดยลงทุนแค่อัดคลิปอยู่ในห้องแอร์

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนของ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ 119 คนและอดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐทั่วประเทศได้รับฟังความคิดเห็นที่แท้จริงจากประชาชน ซึ่งไม่พบว่าได้รับความเดือดร้อนใดๆ จากการประกาศใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน ตรงกันข้ามกลับชื่นชมและพร้อมให้ความร่วมมือ เห็นว่าการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน สามารถช่วยให้การประสานงานและการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประชาชนรู้สึกปลอดภัยเพราะยังไม่มีวัคซีนป้องกัน กลัวว่าจะกลับมามีการระบาดระลอกใหม่แล้วยากที่จะควบคุม การลงทุนและความเสียสละที่ผ่านมาหลายเดือนจะสูญเปล่า ซึ่งนี่คือเสียงสะท้องที่แท้จริงของประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ไม่ใช่ความคิดเห็นจากคนที่ขลุกตัวกลัวติดเชื้ออาศัยอยู่แต่ในห้องแอร์ และยังสอดคล้องกับที่ “กรุงเทพโพลล์” เผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนเมื่อวันที่ 27 มิ.ย. ว่า ประชาชน ร้อยละ 76.7 ระบุ พ.ร.ก.ฉุกเฉินมีส่วนต่อการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 ค่อนข้างมากถึงมากที่สุด

“พ.ร.ก.ฉุกเฉินไม่มีเป้าหมายทางการเมือง ผลของการใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินทำให้ประเทศไทยควบคุมโรคได้ดี จนได้รับโอกาสต่างๆ เช่น สหภาพยุโรปให้ผลเมืองไทยได้รับอนุญาตเดินทางเข้าประเทศ ต่างประเทศสนใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทยเนื่องจากมีความปลอดภัย และเชื่อว่าโอกาสต่างๆจะตามมาอีกมาก ในการพิจารณาคง พ.ร.ก.ฉุนเฉินนั้น มีการพิจารณารอบด้านทุกมิติจากทีมแพทย์ ทีมสาธารณสุขที่เกี่ยวข้องว่ายังมีความจำเป็นเพราะในเดือน ก.ค.จะมีการผ่อนคลายในระยะที่ 5 ของกิจการและกิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูงในโซนสีแดง ล่อแหลมต่อการระบาดของโควิดมากที่สุด ดังนั้นจึงต้องให้ความสำคัญในการป้องกันอย่างมาก จำเป็นต้องใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินต่อไปเพราะเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันการแพร่ระบาดระลอกใหม่”น.ส.ทิพานัน กล่าว

“คณะก้าวหน้ากลับไม่เคยก้าวเท้าออกมาจากบ้านลงพื้นที่ เพิ่งจะมีการลงพื้นที่ครั้งแรก คือวันที่ 27 มิ.ย. ตามที่นายธนาธร ได้ให้สัมภาษณ์ใว้ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าระหว่างช่วงเวลาวิกฤติที่ผ่านมาเกือบ 4 เดือน คณะก้าวหน้าไม่เคยได้รับฟังเสียงประชาชนจริงๆ เลย การกล่าวอ้างต่างๆ ว่าเป็นเสียงของประชาชน อาจจะมาจากเสียงของแกนนำ 3 คนที่คุยกันทางโทรศัพท์เท่านั้นหรือไม่ ส่วนที่อ้างความเห็นของสื่อญี่ปุ่นประกอบการวิพากษ์วิจารณ์จากห้องแอร์ของนายปิยบุตรนั้นก็ดูตลก เหมือนจัดฉากทำเป็นขบวนการโดยให้ฝ่ายตัวเองให้ข่าวกับสื่อญี่ปุ่น แล้วเอาข่าวของสื่อญี่ปุ่นมากล่าวอ้างอีกที เพราะไม่แน่ใจว่าข้อมูลที่สื่อญี่ปุ่นได้รับนั้นเป็นความเห็นฝ่ายเดียวจากความเห็นส่วนตัวของ ส.ส.พรรคก้าวไกลที่ให้สัมภาษณ์สื่อประเทศญี่ปุ่นเมื่อสัปดาห์ที่แล้วหรือไม่ ไม่แน่ใจว่าการออกมาแสดงความคิดเห็นของนายปิยบุตรเป็นไปเพื่ออะไรกันแน่ เพื่อประโยชน์ทางสุขภาพของประชาชน หรือเพื่อประโยชน์ทางการเมืองของตนเอง”รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าว


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"