ผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ในสหรัฐเมื่อวันพุธที่ผ่านมามีมากกว่า 52,000 คน เป็นสถิติสูงสุดครั้งใหม่อีก ขณะประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เปลี่ยนใจยินดีใส่หน้ากากอนามัยต่อหน้าธารกำนัล แต่ยังยืนยันความเชื่อเดิมว่าโรคระบาดนี้จะหมดไปเอง
แฟ้มภาพ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ถอดหน้ากากอนามัยมาถือไว้เมื่ออยู่ต่อหน้ากล้องบันทึกภาพของสื่อ ขณะเยี่ยมชมโรงงานของฟอร์ดที่รัฐมิชิแกนเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2563
เอเอฟพีรายงานเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 2 กรกฎาคม 2563 ว่าข้อมูลที่รวบรวมโดยมหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์จากเมืองบัลติมอร์ของสหรัฐชี้ว่า สหรัฐมีผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ในช่วง 24 ชั่วโมงนับถึงเวลา 20.30 น.ของวันพุธตามเวลาสหรัฐ หรือ 07.30 น.วันพฤหัสบดีของไทย รวมทั้งสิ้น 52,898 ราย เป็นสถิติผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงสุดนับแต่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในสหรัฐ
ถึงวันพฤหัสบดี สหรัฐมีผู้ติดเชื้อสะสม 2,685,806 ราย จากผู้ติดเชื้อทั่วโลก 10,667,217 ราย และมีผู้เสียชีวิต 128,061 ราย จากผู้เสียชีวิตทั่วโลก 515,646 ราย
สหรัฐอเมริกามีผู้ติดเชื้อรายใหม่วันละมากกว่า 40,000 รายต่อเนื่องมานานหลายวันแล้ว หลังจากพบการแพร่เชื้อมากขึ้นในรัฐทางฝั่งตะวันตกและภาคใต้ เมื่อวันพุธรัฐเทกซัสก็มีผู้ติดเชื้อรายใหม่มากเป็นสถิติใหม่เช่นกันที่ 8,076 ราย มากกว่าวันอังคารเกือบ 1,000 ราย นอกจากนี้หลายเมืองของสหรัฐยังมีผู้ป่วยนอนโรงพยาบาลเพิ่มมากขึ้น รวมถึงที่เมืองฮุสตัน รัฐเทกซัส และเมืองฟินิกส์ รัฐแอริโซนา
จำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้นทำให้หลายรัฐระงับแผนการเปิดเศรษฐกิจ และบังคับใช้มาตรการควบคุมใหม่ เมื่อวันพุธรัฐแคลิฟอร์เนียออกกฎห้ามการรับประทานอาหารภายในร้านอาหารที่นครลอสแองเจลีส และสั่งให้บาร์ โรงภาพยนตร์และพิพิธภัณฑ์หยุดบริการนาน 3 สัปดาห์เป็นอย่างน้อย
ผู้ว่าการรัฐมิชิแกนก็สั่งปิดบาร์ในรัฐเช่นกัน ส่วนออริกอนและเพนซิลเวเนียเป็นสองรัฐล่าสุดที่บังคับประชาชนสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ
ประเด็นการสวมหน้ากากอนามัยกลายเป็นเรื่องการเมืองในสหรัฐ โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นหัวขบวนของฝ่ายต่อต้านมาตั้งแต่เริ่มแรก ระยะหลังสมาชิกร่วมพรรครีพับลิกันและสื่อฝ่ายอนุรักษนิยมหันมาประสานเสียงกับพรรคเดโมแครต วิจารณ์ทรัมป์ว่าลดความสำคัญของการสวมหน้ากากอนามัยและทำให้เป็นเรื่องการเมือง
เมื่อวันอังคาร ส.ว.ลามาร์ อเล็กซานเดอร์ รัฐเทนเนสซีพรรครีพับลิกัน กล่าวว่า น่าเสียดายที่วิธีปฏิบัติง่ายๆ ที่ช่วยรักษาชีวิตคน กลับเป็นส่วนหนึ่งของการโต้เถียงทางการเมืองที่บอกว่า "ถ้าคุณอยู่ฝ่ายทรัมป์ คุณจะไม่สวมหน้ากาก แต่ถ้าคุณต่อต้านทรัมป์ คุณต้องสวม"
อย่างไรก็ดี ในวันพุธ ทรัมป์เปลี่ยนท่าทีแล้ว ระหว่างการให้สัมภาษณ์ฟอกซ์นิวส์ ทรัมป์กล่าวว่าเขาไม่มีปัญหาอะไรเลยกับการสวมหน้ากากอนามัย เมื่อต้องอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องใกล้ชิดกับผู้คน แต่เขายังเห็นว่าการสวมหน้ากากอนามัยไม่ควรเป็นกฎบังคับใช้ทั่วประเทศเพื่อควบคุมการระบาด เพราะในหลายพื้นที่ของสหรัฐ ผู้คนยังอยู่ไกลกันมาก
ทรัมป์ยังยืนยันความเชื่อเดิมของเขาด้วยว่า ไวรัสนี้จะหมดไปเองเมื่อถึงเวลา และคิดว่าจะมีวัคซีนในเร็วๆ นี้.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |