ภาพสะท้อน 'อนาคตไทย'


เพิ่มเพื่อน    

        โรงเรียนเปิดเทอมเมื่อวาน (๑ ก.ค.๖๓) ท่านเห็นอะไร?

                ทุกคนจะบอก.....

            เห็นเด็กนักเรียนไปโรงเรียน เห็นรถติด เห็นเด็กอนุบาลร้องไห้ เห็นผู้ปกครองอุ้มลูก-จูงหลานไปส่งโรงเรียน

            ผมก็เห็น

            เห็นผ่านรูปภาพในโซเชียลมีเดีย สุดใต้-สุดเหนือ-สุดอีสาน รวมทั้งในกรุงเทพฯ และได้คำตอบจากภาพเหล่านั้นออกมา ว่า

            ผู้เฒ่า-ผู้แก่อย่างผม "ตายก็ตาหลับ"!

            เพราะประเทศไทย "ในอนาคต" หมดห่วงแล้ว ไม่เพียงรอด ยังจะ "ยิ่งใหญ่-ไปรุ่ง" และไปโลด

            ในเมื่อ "หน่ออ่อน" ในแปลงเพาะชาติขณะนี้ เบ้าหลอมคือคุณครูทั้งหลาย สร้างจิตสำนึก สร้างระเบียบวินัยให้นักเรียนดีมาก

            ทั้งตัวเด็กนักเรียนเอง ตั้งแต่ระดับอนุบาล ๓-๔ ขวบ จนถึงระดับอาชีวะ รวมถึงผู้ปกครอง

            ไม่น่าเชื่อ ก็ต้องเชื่อ........

            ว่า New Normal อารยะสู่สังคมยุคใหม่ จะเห็นเป็นรูปธรรมได้ จากเด็กนักเรียน แถมพรึ่บพรั่บ-พร้อมพรั่ง

            นอกจากไม่บ่งบอกว่าถูกบังคับแล้ว

            ยังเจิดจ้าบ่งบอก New Normal เกิดจาก "จิตสำนึก" ต่อสังคมรวมของเด็กๆ เอง ที่รู้การณ์ควร-ไม่ควร ตามสายเลือดไทย!

            ทุกคนมี "มือถือ" กันใช่มั้ย?

            ลองไถภาพเด็กนักเรียนตามโรงเรียนต่างๆ วันเปิดเทอมดู อาจดูกันแล้วก็ได้ แต่คงดูแบบผ่านๆ ก็ลองดูใหม่ในมุมที่ผมบอก

            จะเห็นเลย.....

            ทั้งเด็กอนุบาลเล็กๆ ทั้งเด็กประถม-มัธยม ทุกแห่ง และทุกคน ระดับ ๙๙% จะสวมหน้ากากอนามัยไปโรงเรียน

            ภายในโรงเรียน บรรดาคุณครูคอยจัดแถว-จัดระเบียบ-วัดไข้ ให้นักเรียนปฏิบัติตามขั้นตอนต่างๆ ก่อนเข้าชั้นเรียน

            เริ่มตั้งแต่ เช็ดพื้นรองเท้า เรียงแถวเว้นระยะไปล้างมือ เป็นต้น

            และนักเรียนแต่ละคน ทั้งเด็กเล็ก-เด็กโต สังเกตกิริยา ทุกคนมีใจเอื้อเฟื้อ เคร่งครัดต่อระเบียบ-วินัย ที่จะแข็งขืนด้วยถูกบังคับ ไม่ปรากฏ

            สรุปภาพรวมว่า เด็กนักเรียน "การ์ดไม่ตก" ทุกคนตื่นตัว มีความรับผิดชอบสังคมรวมดีมาก สวมหน้ากากอนามัยกันรัดกุม

            เห็นแล้วอดนึกในใจไม่ได้ แต่ละโรงเรียน น่าจัดประกวดหน้ากากอนามัยของนักเรียน เพราะเห็นหลายคนเขาเท่ เก๋ไก๋ ในดีไซน์ ทั้งลวดลายและสีสัน

            เป็นการส่งเสริมให้นักเรียนไม่เบื่อต่อการสวมหน้ากากอนามัยน่ะ นานๆ อาจเบื่อ ถ้ามีแรงกระตุ้น เด็กๆ จะมีกำลังใจ แข่งไอเดียกัน

            มีภาพหนึ่ง จากยโสธร นายอำเภอแต่งชุดนักเรียน สวมหน้ากากอนามัย นำเด็กนักเรียนล้วนสวมหน้ากากอนามัยเข้าโรงเรียนวันเปิดเทอม
            เจ้าของภาพที่โพสต์ เขายังเขียนว่า "ภาพน่ารัก" ผมก็ว่าอย่างนั้น ถึงเป็นนักเรียนพุงพลุ้ย แต่การ "รู้จักนำ" เช่นนี้ ไม่ว่าพลุ้ยไซส์ไหน ใครเห็นก็ต้องว่าน่ารัก

            ลงไปทางใต้ โรงเรียนบ้านดอนรัก หนองจิก ปัตตานี

            ภาพของ "คุณจรูญ ทองนวล"

            ลูกหลานไทยมุสลิม คลุมหน้าในชุดนักเรียนหญิงแล้ว ทุกคนก็ยังสวมหน้ากากอนามัยทะมัด-ทะแมง ชนิดว่า "เป๊ะ..เป๊ะ"

            หรือที่โรงเรียนวัดสถิตย์ชลธาร บางตาวา หนองจิก ก่อนหน้า เคยใช้เป็นสถานที่ Local Quarantine ของผู้เดินทางกลับจากต่างประเทศ

            ก่อนเปิดเทอม ทำความสะอาดไล่โควิดกันขนานใหญ่

            เปิดเทอมเมื่อวาน......

            ทั้งครู ทั้งเด็กนักเรียน นอกจากเต็มยศ "การ์ดไม่ตก" ในการป้องกันแล้ว

            ยังครัดเคร่งมาตรการเฝ้าระวังของกระทรวงสาธารณสุขแบบไม่น่าเชื่อ ถึงไกลหู-ไกลตา แต่ด้วยคุณภาพครู-นักเรียน-ผู้ปกครอง ก็ไม่หน้าไหว้-หลังหลอก

            ในกรุงเทพฯ เอง เด็กนักเรียนก็ตื่นรู้ต่อภาวะพึงปฏิบัติต่อสังคมรวมไม่แพ้นักเรียนต่างจังหวัด ซึ่งทั้งหมด สมกับผู้ต้องรับมรดกสังคมชาติ "จากรุ่น-สู่รุ่น" ไปสืบต่อ น่าปลื้ม

            ไม่น่าเชื่อ........

            ว่าหน่ออ่อนพันธุ์ไทยวันนี้ นึกกันว่าจะเป็นลำอ้อ-ลำไผ่ ข้างในกลวง แต่ที่ไหนได้ กลับเป็น แก่นสัก-แก่นพะยูง หนักแน่นมากค่าถึงขนาดนี้!

            จึงน่าปลื้ม-น่าดีใจ ไม่ต้องกลัวว่า เด็กๆ วันนี้ เมื่อโตเป็นคนรุ่นใหม่ยุคต่อๆ ไป จะนำประเทศไปผิดทิศ-ผิดทาง

            ด้วยระเบียบวินัยสำนึกต่อส่วนรวม รู้จักแยกแยะ-ใคร่ครวญสถานการณ์ได้แต่เด็กๆ เช่นนี้ ความเป็นหน่อดี-พันธุ์ดี ไม่กลายพันธุ์แน่นอน

            อย่างเด็กอนุบาล ๓-๔ ขวบ ธรรมชาติเด็ก ยากนักจะให้สวมหน้ากากอนามัยทั้งวัน แถมหน้ากากใหญ่บังหน้าเกือบมิด

            แต่เท่าที่ดูจากภาพ ระดับอนุบาลแท้ๆ สำนึกต่อสังคมรวม ก็งอกงามแล้ว ไม่มีโยเยซักคน!      

            ทั้งหมด ก็ต้องชมผู้ใหญ่ คือ พ่อแม่-ผู้ปกครองด้วย

            ส่วนหนึ่ง ที่เด็กไทย เป็นเยาวชนคุณภาพชาติเช่นนี้ ก็เพราะพ่อแม่-ผู้ปกครองนั่นแหละ

            เป็นตัวนำทางที่ประเสริฐ!

            ก็แปลกแต่จริง คนไทยนี่ ว่าไปแล้ว เหมือนพระทองวัดไตรมิตร ยามปกติ พอกหุ้มคลุมทับหลอกตาไว้ด้วยเนื้อปูน

            เห็นก็ไม่สวย ไร้ราคา

            แต่พอเกิดสถานการณ์กับบ้าน-กับเมือง-กับคนไทยด้วยกันในขั้นวิกฤติ

            "ทองหลอมทอง" ปูนกะเทาะเปลือก คืนรูป "เนื้อไทยทองแท้" ให้เห็น!

            ฉะนั้น ถึงมีไทยรับจ้างฝรั่ง "ปั่นรุ่น-ปั่นฝ่าย" ให้ชังชาติ-ชังสถาบัน ปั่นให้ตายก็ไม่สำเร็จ เพราะเนื้อไทยคือทอง ย่อมไม่รองรับตะกั่ว

            มีอยู่ภาพ เป็นภาพมิติสะท้อนมิติ

            ผู้โพสต์ให้ความหมายภาพทางว่า พอเปิดเทอม รถก็ติด เพราะนักเรียนขี่มอเตอร์ไซค์จอดต่อกันเรียงรายตามถนน รอคิวตรวจโควิดก่อนเข้าโรงเรียน

            ดูเหมือนเป็นที่หน้าวิทยาลัยเทคนิคอุบลฯ ติดแบบนี้ เป็นติดที่ต้องสรรเสริญ

            ครู-อาจารย์ก็เป๊ะ นักเรียนก็เป๊ะ ในมาตรการป้องกัน-คัดกรองโควิด ต้องชื่นชม

            ชื่นชมทั้งนักเรียน ทั้งครู-อาจารย์วิทยาลัยเทคนิคอุบลฯ ทุกคน

            มิติที่เขาเห็น ทำรถติด...ใช่

            แต่มิติที่ผมเห็น นักเรียนจอดมอเตอร์ไซค์อยู่เลนซ้าย เรียงเป็นระเบียบ มองตามเส้นขาว ทุกคัน "เป๊ะ" ไม่มีล้ำออกนอกเส้นขาวเลย

            ตามวิสัย คนขี่มอเตอร์ไซค์ ร้อยละ ๙๙ ไม่รู้จักเรียงแถวเป็นระเบียบอยู่ในทาง ไม่รู้จักคำว่ารอ

            มีแต่ซิกแซ็ก รถติดๆ ช่องเท่ารูเข็ม ก็มุดซ้าย มุดขวา มุดข้าง ไปไม่ได้จริงๆ ก็จอดระเกะก่าย ไม่สนว่าจะล้ำเส้น ขวางใคร และอะไรคือกติกาจราจร

            เฉี่ยวกระจกรถเขาบ้าง ขูดตัวถังรถเขาบ้าง แทนจะขอโทษ กลับพรวดไปเลย

            แต่นักเรียนเทคนิคอุบลฯ เจริญแล้ว ทั้งการศึกษา และทั้งค่าสำนึกต่อสังคมรวม จงรักษาสมบัติทางสังคมนี้ไว้เถอะ

            ที่คุยมาทั้งหมด........

            สะท้อนถึงอีกสิ่ง คือ ที่ห่วงกันว่า เมื่อเปิดเฟส ๔ เฟส ๕ โควิดจะกลับมารอบ ๒ เพราะคนไทยจะหย่อนยานในมาตรการ นั้น

            ห่วงได้ แต่อย่าวิตกเกิน เห็นจากสังคมเด็กที่สะท้อนเงาสังคมผู้ใหญ่แล้วมิใช่หรือว่า

            ทั้งที่ไม่มีนัดหมาย แต่ "สำนึกร่วม" เหมือนนัดหมายให้ทุกคนเคร่งครัดเป็นชาติมีระเบียบวินัยด้วยจิตสำนึกแต่ละคนเอง อย่างที่เห็น

            ฉะนั้น ระบบรัฐ อย่าใช้จินตนาการเกินเหตุ

            รัฐบาลคอยคุมหลัง แล้วเปิดให้ชาวบ้านเขาได้ทำมาหากินกันตามปกติเถอะ

            ให้มันมารอบ ๒ น่ะดี จะได้อาศัยเหตุนั้น "ทดสอบความพร้อม" ของระบบ ของบุคลากร เครื่องไม้-เครื่องมือต่างๆ

            ที่สำคัญ จะได้ทดสอบ "ไทยอันดับ ๑ โลก" ว่าเจ๋งจริงมั้ย?                     

            ถ้าไม่พิสูจน์ "จริง-โม้" ให้โลกเห็น ก็จะยังมะลำ-มะเลืองเรื่อยไป แปลงราคาปลอดโควิดเป็นมูลค่าเพิ่มให้ระบบธุรกิจเศรษฐกิจยังไม่ได้

                แชมป์โลก "เกี่ยงการท้าชิง" มันก็ไม่แน่จริงนะซี ใช่มั้ย?

            


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"