1 ก.ค.63 - เวลา 14.30 น. ที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งบัลลังก์เพื่ออ่านคำวินิจฉัยในเวลา ในคำร้องที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้ส่งความเห็นของ ส.ส.พรรคฝ่ายค้าน 57 คน ขอให้พิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 ว่า สมาชิกสภาพการเป็น ส.ส.ของ นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101(7) ประกอบมาตรา 185 (1) หรือไม่ โดยศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเสียงข้างมาก 7:1 ว่าการที่นายสิระเดินทางลงไปตรวจสอบพื้นที่การก่อสร้างคอนโดมิเนียม เมื่อวันที่ 18-19 ก.ย.2562 ที่ จ.ภูเก็ต และได้มีการแสดงพฤติกรรมและใช้วาจาไม่เหมาะสม กับ พ.ต.ท.ประเทือง ผลมานะ รองผู้กำกับการป้องกันปราบปราม สภ.กะรน ผู้บริหารเทศบาล ตำบลกะรน ยังไม่เข้าลักษณะเป็นการใช้ตำแหน่งหน้าที่ ส.ส. ใช้สถานะหรือตำแหน่งเข้าไปก้าวก่ายแทรกแซงการปฏิบัติราชการ หรือการดำเนินงานในหน้าที่ประจำของข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้าง ของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ กิจการที่รับถือหุ้นใหญ่ หรือราชการส่วนท้องถิ่น ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 185(1) จนเป็นเหตุให้สมาชิกภาพความเป็น ส.ส. สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101(7)
โดยศาลให้เหตุผลว่า เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า นายสิระ ให้การยอมรับว่าได้ลงพื้นที่ จ.ภูเก็ต เพื่อตรวจสอบ และได้มีการพูดคุยกับ พ.ต.ท.ประเทือง นายกเทศมนตรีตำบลกะรน ตามที่ได้มีการร้องจริง แม้นายสิระจะไม่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการให้ลงไปตรวจสอบจากบุคคลภายนอก แต่จากการกระทำดังกล่าว มี 2 การกระทำ คือ 1. พูดจาไม่เหมาะสมกับ พ.ต.ท.ประเทือง กรณีพบการก่อสร้างผิดกฎหมายแล้วไม่ดำเนินคดี และ 2.ไม่จัดเจ้าหน้าที่มาดูแลรักษาความปลอดภัยนายสิระ ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างมากเห็นว่าการกระทำดังกล่าวของนายสิระเป็นเพียงต้องการให้เจ้าหน้าที่ของรัฐ มีการปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามกฎหมายที่กำหนด ซึ่งการแสดงพฤติกรรมและการใช้ถ้อยคำของนายสิระนั้นเป็นเพียงการไม่เห็นด้วยกับการทำหน้าที่ของ พ.ต.ท.ประเทือง เท่านั้น สำหรับการกระทำกรณีพูดจาต่อนายกเทศมนตรี และผู้บริหารเทศบาลตำบลกระรน ก็เป็นเพียงการสอบถามข้อมูลและรับฟังคำชี้แจงจากเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายกับการก่อสร้างอาคารชุดดังกล่าว เพื่อให้มีการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายกำหนด จึงยังฟังไม่ได้ว่านายสิระใช้สถานะหรือตำแหน่ง การเป็น ส.ส. ก้าวก่ายหรือแทรกแซงเพื่อประโยชน์ของตนเอง ของผู้อื่น หรือพรรคการเมือง ในการปฏิบัติราชการหรือการดำเนินงานในหน้าที่ประจำของพ.ต.ท.ประเทือง นายกเทศมนตรี และผู้บริหารเทศบาลตำบลกระรน ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 185(1)
อย่างไรก็ดีพฤติการณืของนายสิระในการแสดงท่าทางและหารใช้ถ่อยคำต่อพ.ต.ท.ประเทือง นายกเทศมนตรี และผู้บริหารเทศบาลตำบลกระรนนั้น หากบุคคลใดเห็นว่าพฤติกรรมดังกล่าวไม่สุภาพไม่เหมาะสม ต่อสถานะหรือตำแหน่ง ส.ส. บุคคลนั้นย่อดำเนินการได้ตามที่รัฐธรรมนูญกฎหมายหรือข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมของ ส.ส.และกรรมาธิการ พ.ศ.2563 และมาตรมาตรฐานทางจริยธรรมของ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดํารงตําแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ. 2561 ซึ่งใช้บังคับกับ ส.ส.ด้วย
ด้าน นายสิระ ให้สัมภาษณ์กล่าวภายหลังศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัย ว่า ขอบคุณศาลรัฐธรรมนูญที่ให้ตนยังเป็นส.ส.อยู่ ตนจะนำไปปรับ ปรุงและปฏิบัติหน้าที่เพื่อประโยชน์ของประชาชนทั้งประเทศให้มากที่สุด โดยศาลวิจิฉัยว่าการเป็นส.ส. ของปวงชนชาวไทยทำอะไรก็แล้วแต่เพื่อประโยชน์ของประชาชนและรัฐ ซึ่งทำที่ไหนก็ได้ และที่บอกว่าเป็นส.ส.ของเขตหลักสี่ ไม่ใช่ส.ส.ของจ.ภูเก็ต ต้องเข้าใจแล้วว่าเป็นส.ส. ของปวงชนชาวไทย ไม่ใช่ส.ส.เฉพาะเขต ส่วนเรื่องที่ผู้ร้องเรียนตน ตนถือว่าเราก็เป็นนิติบัญญัติเหมือนกัน เป็นส.ส.เหมือนกัน การที่จะร้องอะไรก็ต้องรับผลตามมา ดูว่าผู้ถูกร้องได้รับความเดือดร้อนหรือไม่ มีการเซ็นต์ชื่อกันกว่า 50 กว่าคน ได้มีการอ่านคำร้องหรือไม่ เบื้องต้นได้ให้ฝ่ายกฎหมายดูว่าความผิดของผู้ร้องมีอะไรบ้าง จะได้เป็นบรรทัดฐานในการเซ็นต์ชื่อร้องโดยที่ไม่สอบข้อเท็จจริง ตนถือว่าวันนี้ได้ทำประโยชน์กับประเทศ คอนโดที่ตนได้ลงพื้นที่ในจ.ภูเก็ตก็ได้ถูกระงับการก่อสร้าง ก็รออีกนิดนึงว่าศาลปกครองสูงสุดจะมีคำสั่งตามคำสั่งศาลปกครองชั้นต้นหรือไม่ ที่ให้เพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) ทั้งนี้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับโครงการนี้ต้องรับผิดชอบ ถ้ามีอีกไม่ใช้เฉพาะกรณีนี้ตนพร้อมที่จะไปตรวจสอบ
"ถ้าพบว่าผู้ร้องมีเจตนาหรือความผิดสำเร็จตามมาตรา 157 ผมจะต้องดำเนินคดีกับผู้ที่ลงรายชื่อทั้งหมด เพื่อเป็นเยี่ยงอย่างกับส.ส. ที่ใช่ว่าจะร้องใครก็ร้อง และไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลย เราเป็นนิติบัญญัติ ออกกฎหมายให้คนทั้งประเทศใช้ ฉะนั้นส.ส.จะต้องรับผิดชอบต่อตัวท่านเองด้วย มิฉะนั้นประชาชนจะให้ความเชื่อถือส.ส.ได้อย่างไร งานนี้ถ้าพบความผิดจริง ผมเอาคืนแน่ ไม่ใช่เรื่องการจองเวรจองกรรม แต่เป็นเยี่ยงอย่างไม่ให้ไปกระทำกับรายต่อไป ไม่ว่าท่านนั้นจะเป็นฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน "นายสิระ กล่าว.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |