"ฌอน" น่าจะร่อแร่

            เพราะใครๆ ก็ไม่รู้จัก

            สุดท้ายต้องว่าไปตามกฎหมาย พบผิดก็ดำเนินคดี หากมีหลักฐานหักล้าง "ฌอน" ก็ต้องนำมาชี้แจง  โดยเฉพาะกรณีเงินบริจาค

            แต่ตามกฎหมายตอนนี้ถือว่า "ฌอน" ยังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่

            เอาเป็นว่าสังคมที่บอกว่าเป็นประชาธิปไตยเคยอ้างแบบไหน ก็เอาแบบนั้น

            ข้อสันนิษฐานที่ว่าผู้ต้องหาหรือจำเลยในคดีอาญาเป็นผู้บริสุทธิ์นั้น ไม่ได้มาจากกอไผ่

            แต่เป็นข้อสันนิษฐานอันมีที่มาจากหลักสิทธิมนุษยชน

            ดังปรากฏอยู่ในปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ข้อ ๑๑ ที่ว่า "บุคคลซึ่งถูกกล่าวหาว่ามีความผิดอาญา มีสิทธิที่จะได้รับการสันนิษฐานไว้ก่อนว่าบริสุทธิ์จนกว่าจะมีการพิสูจน์ว่ามีความผิดตามกฎหมายในการพิจารณาโดยเปิดเผย และผู้นั้นได้รับหลักประกันทั้งหลายที่จำเป็นในการต่อสู้คดี"

            ก็น่าจะคุ้นๆ เพราะมีการอ้างปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนกันบ่อยครั้ง แต่ก็เป็นเรื่องแปลกคนที่ชอบอ้าง มาวันนี้ล่า "ฌอน" เสียจนมนุษยชนหดหาย

            จะลากไส้ ขุดคุ้ย ก็ว่ากันไป และ "ฌอน" ก็ต้องเคลียร์ให้ได้

            ถ้าไม่ได้ก็จบ

            นอกจากผิดกฎหมายแล้ว ยังอยู่ในสังคมยาก 

            แต่ก็ไม่แน่...หลายครั้งหลายครา "คนโกง" มักมีที่ยืนในสังคม

            เพราะยังมีผู้คนนับหน้าถือตา

            บางคนศาลตัดสินไปแล้วว่าโกง

            ลงโทษติดคุก แต่สาวกก็ยังชื่นชอบ

            ที่พิลึกไปกว่านั้น คนที่ชี้หน้าว่า "ฌอน" โกงบางส่วน กลับเป็นพวกบูชาคนโกง

            "ฌอน" จะโกงหรือไม่เป็นอีกเรื่อง แต่วันนี้ถูกลูกหลงการเมืองไปเต็มๆ

            โดนสาวก "ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์" ถล่มแหลก โทษฐานบังอาจไปชื่นชม "ลุงป้อม"

            "ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์" หนีคุกคดีโกงทั้งคู่

            เทียบกับ "ฌอน" แล้ว "ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์" ควรจะถูกลากไส้ ประณามมากกว่า

            แต่พรรคการเมือง นักเคลื่อนไหว มวลชน กลับยังโหยหากันอยู่

            บางคนถึงขั้นคลานไปกราบตีน

            ปรากฏการณ์นี้อธิบายได้ไม่ยาก ประชาธิปไตยยุคนี้ เป็นประชาธิปไตยแต่ปาก ถ้าอยู่คนละขั้วการเมืองคือตายกันไปข้าง

            กรณี "ฌอน" ถือว่าถูกลูกหลง 

            ถ้า "ฌอน" ชม "ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์" เป็นคนดีชั้นเอกที่หนึ่ง

            ชีวิต "ฌอน" อาจไม่เปลี่ยนขนาดนี้.