ความกตัญญูกตเวทีเป็นคุณธรรมสำคัญประการหนึ่งในความเป็นมนุษย์ คงไม่มีใครปฏิเสธ

            ถ้าหากใครลืมหรือไม่มีคุณธรรมพื้นฐานข้อนี้แล้ว คงเคยได้ยินคำกระแทกแดกดันว่า แม้แต่ "หมา" ยังรู้คุณเจ้าของ หรือคนที่ให้ข้าวมันกิน

            ฉะนั้น ใครที่กำลังลืม หรือยังตามหาคุณธรรมข้อนี้ไม่เจอล่ะก็ ขอให้รีบเร่งเร็วไว พยายามดำเนินการให้สำเร็จเสียเถิดจะเกิดผล เพราะความกตัญญูนั้น ไม่เพียงแต่เป็นมงคลชีวิต ยิ่งทำยิ่งเพิ่ม ยิ่งปฏิบัติยิ่งทำให้ชีวิตดีเท่านั้น แต่ว่ากันว่า ความกตัญญูช่วยให้โลกอยู่รอดไม่มีปัญหา

            เห็นด้วยอย่างยิ่งกับคำกล่าวที่ว่า ปัญหาคนชราไม่มีคนเลี้ยง ปัญหาสงคราม ปัญหาความโหดร้ายทารุณ ปัญหาการเมือง ปัญหาเศรษฐกิจ ฯลฯ จะหมดไปหากทุกคนรู้จักกตัญญู แม้แต่สภาวะสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติก็จะสมดุล ไม่ถูกทำลาย เพราะคนมีความกตัญญูย่อมระลึกถึงบุญคุณของป่าไม้ ทุ่งนา แม่น้ำ ลำธาร ถนนหนทาง และสิ่งสาธารณประโยชน์อื่นๆ ฯลฯ ช่วยกันอนุรักษ์ บำรุง รักษาให้สิ่งเหล่านั้นคงอยู่ร่วมกับมนุษย์อย่างสมดุลและกลมกลืน

            สรุปแล้ว ..ความกตัญญูกตเวทีเป็นเครื่องหมายของคนดี

            แต่น่าเสียดายนะที่ตอนนี้ในสังคมการเมืองบ้านเรา มีบางมุมที่สะท้อนบอกถึงปัญหาความกตัญญูบกพร่อง ซึ่งก็สามารถตีความได้ว่า คนดีบนถนนแห่งอำนาจนั้นชักจะลดน้อยถอยลงเสียแล้ว อย่างน่าเป็นห่วงอนาคตของประเทศชาติบ้านเมือง

            ปรากฏการณ์ที่เสมือน "ถีบ" นั่งร้านที่นำพาเข้าทำเนียบรัฐบาลทิ้ง มันบ่งชี้หลายสิ่งหลายอย่างว่า คนรุ่นใหม่ไม่เลือกเพศ เลือกวัย เลือกว่ามีการศึกษานั้น ไม่สนใจเลยว่าการก้าวข้ามหัว "ผู้ใหญ่" ที่เปิดโอกาสจูงมือเด็กเมื่อวานซืนทั้งหลายเข้าไปบริหารราชการแผ่นดินนั้น มันเป็นการกระทำของคนไม่รู้คุณคน

            ความรู้คุณคนนั้น รู้จักกันไหมหนอ??

            ทั้งคนที่คอยช่วยเหลือ คนที่มอบโอกาส คนที่คอยดูแลหรือใส่ใจเรา เพราะกว่าจะมาถึงจุดที่เสนอหน้าออกสื่อได้อย่างหน้าชื่นตาบานนั้น หากไม่มีผู้ใหญ่คอยหนุนหลัง วันนี้จะทะนงตน คิดเองเออเองว่าความสำเร็จที่เกิดขึ้นนั้นมาจากตัวเราคนเดียว ..ได้อย่างนั้นหรือ

            มนุษย์ป้าไม่ได้เอ่ยชื่อใครเล้ย!!! แต่หวังว่า "ลุงตู่" จะเดาออก แล้วจะได้อยู่ให้ห่างๆ คนไม่ดีนะคะ.

  "ป้าเอง"